“ถูกต้อง พวกเจ้าไปทำงานกันเถอะ แม่ต้องกลับก่อนแล้ว”
เซี่ยวอิ๋นหวนไม่กล้าอยู่ต่อ เพราะกลัวว่าตัวเองจะทนไม่ได้ มีความคิดถึงอาลัยอาวรณ์แห่งมนุษย์
เจ้าสำนักเซี่ยวพูดพร้อมกับเอามือไพล่หลัง “การพรากจากกันชั่วคราว ก็เพื่อได้พบกันอีกครา ไม่จำเป็นต้องเศร้าเสียใจ นี่นับว่าเป็นประสบการณ์ในชีวิต ต้องมีประสบการณ์ขมขื่นเผ็ดหวาน ถึงจะนับว่าเป็นชีวิตที่ความสมบูรณ์อย่างแท้จริง”
เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนโค้งคำนับพร้อมกัน
“ผู้เยาว์ได้รับคำสั่งสอนแล้ว”
เจ้าสำนักเซี่ยวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“ไปทำธุระของพวกเจ้าเถอะ ข้าก็ไม่รบกวนแล้ว”
ทั้งสองส่งเจ้าสำนักเซี่ยวออกไปนอกประตู ส่วนอินชิงเสวียนมองไปที่เย่จิ่งอวี้ด้วยความเป็นห่วง
“อาอวี้อยากไปอยู่กับท่านแม่หรือไม่”
“ไม่จำเป็น บางทีการดำรงอยู่ของข้า อาจเป็นภาระของท่านแม่ด้วย ทุกครั้งที่นางเห็นข้า นางจะคิดถึงฮ่องเต้ผู้ล่วงลับ บางทีการจากลาอาจเป็นเรื่องดี เมื่อปมหัวใจของนางคลี่คลายอย่างสมบูรณ์แล้ว ค่อยพบกันอีกครั้งก็ไม่สาย”
เมื่อนึกถึงครั้งแรกที่นางพบกับเสี่ยวหนานเฟิง วันๆ เอาแต่พูดถึงความเลวร้ายของฮ่องเต้โฉด อินชิงเสวียนก็พอจะเข้าใจความคิดของเซี่ยวอิ๋นหวนได้ในระดับหนึ่ง
“ที่อาอวี้พูดก็มีเหตุผล มันยากจริงๆ เมื่อได้สลักความทรงจำดีๆ ไว้ในใจ ก็ลืมได้ยากจริงๆ เช่นนั้นก็ให้เวลาท่านแม่หน่อยเถอะ”
“อืม”
ทั้งสองจดสิ่งที่ต้องการไว้ แล้วจึงกลับเข้าไปในมิติ
อินชิงเสวียนนอนอยู่บนเตียงนุ่ม ทว่านางกลับไม่รู้สึกง่วงเลย เย่จิ่งอวี้ที่อยู่ข้างๆ ก็นอนพลิกตัวไปมาเช่นกัน อินชิงเสวียนไม่รู้ว่าจะปลอบโยนอย่างไรดี จึงได้แค่นอนคลุมโปงแกล้งหลับ
ทันทีที่ท้องฟ้าเริ่มสว่าง เย่จิ่งอวี้ก็ลุกขึ้นตั้งเช้า อินชิงเสวียนก็แสร้งทำเป็นเพิ่งตื่น แต่จริงๆ แล้วพวกเขาทั้งคู่นอนไม่หลับทั้งคืน
เมื่อเปิดประตูออกไป เหล่าศิษย์ก็พร้อมเดินทาง ซื่อเมี่ยวอินทั้งสี่คนกำลังตรวจนับจำนวนคน ข้างๆ ยังมีรถม้าคันใหญ่ที่บรรจุสิ่งของมากมาย มีทั้งเสบียงอาหาร มีน้ำพุวิญญาณ รวมถึงสิ่งของที่พวกเขาต้องใช้ระหว่างเดินทาง
เจ้าสำนักเซี่ยวและเซี่ยวอิ๋นหวนยืนอยู่บนแท่นสูงด้านหนึ่ง มองลงไปที่ทุกคน
เย่จิ่งอวี้รีบเดินตรงไปยังแท่น ยกชายเสื้อคลุมขึ้น และคุกเข่าลงด้วยความเคารพ
ทันทีที่เซี่ยวอิ๋นหวนพูดจบ ซื่อเมี่ยวอินกล่าวว่า “เจ้าสำนัก นับจำนวนคนครบแล้วเจ้าค่ะ ออกเดินทางได้แล้ว”
เจ้าสำนักเซี่ยวตอบอืม และกระโดดลงจากแท่นสูง
เขาพูดเสียงดัง “ออกเดินทางได้!”
“เจ้าค่ะ”
ศิษย์ทั้งหมดตะโกนพร้อมกัน แล้วทยอยเดินออกจากหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์
เซี่ยวอิ๋นหวนยื่นมือออกมา กอดคู่หนุ่มสาวอย่างแรง
“แม่ก็ต้องไปแล้ว ไม่ต้องห่วง!”
ครั้นจึงใช้วิชาตัวเบาเหาะออกจากประตูลานบ้าน
อินชิงเสวียนเดินตามไปที่ประตู แล้วจึงพบเย่จิ่งหลานกับอินสิงอวิ๋นและภรรยาของเขา รวมถึงอวิ๋นฉ่าย จังอวี้จิ่น และเสี่ยวหนานเฟิง ต่างก็ยืนอยู่นอกประตู เฝ้ามองทุกคนจากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...