แก้มของอินสิงอวิ๋นเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย แล้วหันกลับไปกระแอมเบาๆ เพื่อบรรเทาความขวยเขิน
“สองวันนี้ยังต้องเตรียมอะไรอีกหรือไม่”
อินชิงเสวียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ประเดี๋ยวข้าจะไปดูที่ชายทะเลหน่อย แล้วจะไปเยี่ยมเก่อหงยวนกับต่งจื่ออวี๋ เท่านี้แหละ”
อินสิงอวิ๋นพยักหน้าพูดว่า “ได้ ออกจากบ้านมาระยะหนึ่งแล้ว ท่านพ่อกับแม่รองต้องเป็นห่วงมากแน่ๆ”
“เพียงแต่...การตายของจูอวี้เหยียน จะบอกท่านพ่อดีหรือไม่”
อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้นมองอินสิงอวิ๋น
อินสิงอวิ๋นพูดอย่างใจเย็น “ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ข้าจะพูดเรื่องนี้เอง บางทีท่านพ่ออาจไม่เศร้าเสียใจอย่างที่คิด เขากับจูอวี้เหยียนไม่มีความรักความใกล้ชิดมากนักตั้งแต่แรก มีแค่หน้าที่รับผิดชอบเท่านั้น”
“พี่ใหญ่พูดถูก ถึงอย่างไรจูอวี้เหยียนก็ไม่เคยเห็นเราเป็นครอบครัวเดียวกัน นางเสียชีวิตในต่างถิ่นก็เป็นเพราะนางหาเรื่องใส่ตัวเอง คิดจะร่วมมือกับอาซือหลานน่ะหรือ นางประเมินตัวเองสูงเกินไปแล้ว”
เมื่อพูดถึงอาซือหลาน อินชิงเสวียนก็มองไปที่เป่าเล่อเอ่อร์อีก เพราะนั่นคือพี่ชายของนาง
เป่าเล่อเอ่อร์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “กุ้ยเฟยอย่ากังวลมากนัก แม้ว่าเขาจะเป็นพี่ชายของข้า แต่ข้าก็ไม่รู้สึกอะไรกับเขาเช่นกัน เขาได้ทำสิ่งเลวร้ายมากที่สุด ได้รับจุดจบเช่นนี้ ก็ถือว่ากรรมตามสนองแล้ว”
“พี่สะใภ้คิดอย่างนั้นข้าก็วางใจ ต่อไปจะไม่มีภัยคุกคามอีก เมื่อกลับถึงเมืองหลวง พวกเราต้องมีชีวิตที่ดีแน่ๆ”
อินสิงอวิ๋นพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“น้องหญิงใหญ่คงมีเรื่องต้องจัดการอีก พวกเราจะกลับห้องก่อน หากต้องการอะไร สามารถไปตามข้าได้ตลอด”
“ทราบแล้วเจ้าค่ะ”
อินชิงเสวียนมองส่งทั้งสองจากไป กำลังจะไปดูที่ชายทะเลกับเย่จิ่งหลาน แต่เห็นฮวาเชียนเดินออกจากห้องอ่านหนังสือ วางจดหมายฉบับหนึ่งไว้ในมือของนาง
“นี่คือสิ่งที่เจ้าสำนักให้ข้ามอบให้แม่นางโดยเฉพาะ กำชับว่าอย่าให้คุณชายเย่เห็นเด็ดขาด เดิมทีเจ้าสำนักต้องการบอกเจ้าด้วยตนเอง แต่เพื่อไม่ให้อาอวี้เกิดความสงสัย จึงต้องเขียนจดหมายฉบับนี้แทน”
หากวันหนึ่งเขาสูญเสียการควบคุมโดยสิ้นเชิง เกรงว่าจิตใจจะถูกการฝังโลหิตครอบงำโดยสมบูรณ์ จำไว้ว่าอย่าให้เขาถูกกระตุ้นอีก
เจ้าสำนักเซี่ยวยังกล่าวด้วยว่า ตัวเองกลับขึ้นเขาในครั้งนี้ ก็เพื่อไปเยี่ยมนักพรตเทียนจี เพื่อหาวิธีแก้ปัญหาให้เย่จิ่งอวี้
หลังจากอ่านแล้ว อินชิงเสวียนก็โยนจดหมายลงในถังขยะรีไซเคิลในมิติ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลใจ
จากนั้นก็คิดอีกครั้ง ตราบใดที่กลับไปยังเมืองหลวง เย่จิ่งอวี้ก็ไม่ต้องเผชิญกับการเข่นฆ่าสังหารอีก เขาเป็นผู้มีอำนาจ มิใช่แม่ทัพในสงคราม
คงไม่น่ากังวลขนาดนั้น
อยู่ในวังหลวงด้วยกันมาตั้งนาน ก็ไม่เคยเห็นการฝังโลหิตของเย่จิ่งอวี้จะกำเริบมาก่อน คงจะเป็นเพราะการมาเป่ยไห่ในครั้งนี้ ได้เห็นเลือดมากเกินไป ถึงกระตุ้นความกระหายเลือดของการฝังโลหิต
ตอนนี้ตู้เยี่ยนตายแล้ว อาซือหลานตายแล้ว และแม้ว่าจะไม่เห็นเงาของโมริตะคาวาสึบาเมะ แต่อย่างไรก็มีชาวยุทธ์ช่วยจัดการ พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวล
อนาคตข้างหน้าจะต้องราบรื่นปลอดภัย ไร้ภัยคุกคามอีก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...