มีคนเอื้อมมือไปหยิบหนังสือ แต่กลับถูกม่านกำแพงแก้วขวางไว้
ทุกคนไม่เคยเห็นกระจกมาก่อน คิดว่าเย่จิ่งหลานติดตั้งค่ายกล นัยน์ตาฉายแววเคารพศรัทธามากขึ้น
เย่จิ่งอวี้หยิบไมโครโฟนขนาดเล็กออกมา ติดไว้บนเสื้อผ้า แล้วพูดช้าๆ “ตราบใดที่พวกเจ้าไม่มีความคิดไม่ซื่อ ข้าเย่จิ่งหลานจะไม่มีวันปฏิบัติต่อพวกเจ้าไม่ดีเด็ดขาด ในวันแห่งชัยชนะ ทุกคนสามารถเลือกตำราเคล็ดวิชาลับได้คนละหนึ่งเล่ม ผู้ที่ทำประโยชน์ในการศึกมากที่สุด ข้าจะมอบหนังสือสวรรค์ไร้อักษรที่ทำจากกระดาษทองนี้ มอบให้เขาเป็นรางวัล”
ลำโพงถูกวางไว้ที่มุมทั้งสี่ของห้องประชุม เสียงจึงดังมาจากทุกทิศทุกทาง เอฟเฟกต์เสียงสามมิติสามารถสยบทุกคนได้หมด
เย่จิ่งหลานมีกำลังภายในยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ สามารถโคจรพลังชี่ได้ตามต้องการ ทักษะวรยุทธ์ของเขาเทียบได้กับผู้อาวุโสของสำนัก หรือว่าเด็กคนนี้แกล้งเป็นหมูเพื่อหลอกกินเสืองั้นรึ
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเขางุนงงก็คือ ตัวเองมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร เย่จิ่งหลานสามารถสร้างมิติได้ด้วยการโบกมือได้จริงหรือ
พลังประเภทนี้ แม้แต่เจ้าสำนักของพวกเขาก็ไม่สามารถบรรลุได้ เว้นแต่จะเป็นเทพเจ้า
เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางที่แตกต่างกันของทุกคน เย่จิ่งหลานก็ยิ้มและถามว่า “ทุกท่านคิดเห็นเป็นอย่างไร”
มีคนพูดอย่างสุภาพ “ขอบคุณคุณชายน้อยเย่ พวกเราจะร่วมมือกันสังหารศัตรู ขจัดภัยจากตงหลิวในอนาคตตลอดไป”
จากนั้นมีคนพูดด้วยวาจาอันชอบธรรม “ในเมื่อเราได้รับคำสั่งให้อยู่ที่นี่ เราจะปฏิบัติตามบัญชาของคุณชายน้อยเย่”
“ถูกต้อง ขาวยุทธ์ในจงหยวนควรร่วมแรงร่วมใจกันปกป้องบ้านเกิดเมืองนอน คุณชายน้อยเย่โปรดวางใจ”
เมื่อฟังการพูดคุยของทุกคน เย่จิ่งหลานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ โบกมือ แล้วทุกคนก็กลับไปที่ชายฝั่ง
เขายกมือประกบคำนับทุกคน พูดว่า “ถ้าอย่างนั้นต้องรบกวนศิษย์พี่ศิษย์น้องทุกท่านแล้ว”
ทุกคนโค้งคำนับตอบ ซึ่งแตกต่างจากการปฏิเสธและการดูถูกครั้งก่อนอย่างสิ้นเชิง
เมื่อกลับมาที่มิติ หวังซุ่นก็อดไม่ได้ที่จะยกเยี่ยมให้
“เจ๋งไปเลย!”
เย่จิ่งหลานหัวเราะ
“ติดตามข้า เจ้าไม่เสียเปรียบ”
“ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้กลับมาแล้ว”
ยังพูดไม่ทันขาดคำ ก็เห็นอินชิงเสวียนอุ้มเด็กเดินเข้ามา จึงทิ้งกระเป๋าทันที และวิ่งตัวปลิวมาทางนี้
“พี่หญิงก็กลับมาด้วย หลานชายก็มา เถาหง รีบไปตามท่านพ่อท่านแม่ข้าเร็ว”
ในขณะที่วิ่งไปข้างหน้า ใบหน้าหล่อเหลาของเย่จิ่งอวี้ในหมวกคลุมก็ปรากฏขึ้น อินจื่อลั่วอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
“ฮ่อง...พี่เขยฮ่องเต้!”
อินจื่อลั่วยกกระโปรงขึ้นและคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ยกมือห้ามนางไว้
เขายิ้มอย่างอ่อนโยนพูดว่า “ครอบครัวเดียวกันไม่ต้องมากพิธี”
ในเวลาเดียวกัน อินจ้งและซูหมิงหลานก็เดินออกจากเรือนด้านหลัง เมื่อเห็นลูกๆ อยู่กันพร้อมหน้า ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น แต่เมื่อเห็นฮ่องเต้ ต่างก็รีบคุกเข่าคำนับทันที
“กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาท ขอทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นหมื่นปี!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...