“ท่ามกลางสำนักทั้งหลาย มีเพียงเจ้าสักนักเฮ่ออวิ๋นทงแห่งสำนักกระบี่สังหารที่เชี่ยวชาญค่ายกล แต่ก็รู้เพียงค่ายกลที่ง่ายดาย เล่ากันว่าค่ายกลแปดทิศสร้างตามตำหนักทั้งเก้า ด้านในมียังมีการยับยั้งและการสร้างในความสัมพันธ์ของปัญจธาตุ การฝังตัวของแผนภูมิสวรรค์ การเปลี่ยนแปลงของกลุ่มดาวและอื่นๆ หากไม่ใช่ยอดฝีมือก็ทำลายได้ยาก แม้เป่ยไห่จะชนะสงครามครั้งนี้ แต่ก็บาดเจ็บล้มตายสาหัส สาเหตุที่แต่ละสำนักรีบเดินทางไป ก็เพราะบาดเจ็บสาหัสค่อนข้างมาก จึงรีบกลับสำนักไปรักษาตัว เหตุผลที่ข้าอยากไปตงหลิวก็เพื่อแก้แค้นให้พี่ใหญ่และพี่สะใภ้”
เมื่อพูดถึงประโยคสุดท้าย เสียงของเย่จิ่งหลานก็สั่นเทา รอบดวงตาแดงก่ำ น้ำตาที่พร่างพราวไหลออกมาจากดวงตาของเขา ดูเหมือนว่าเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อระงับความเศร้าเอาไว้
ฮั่วเทียนเฉิงได้ยินก็ต้องสับสนมึนงง เพื่อเปิดประตูแห่งวิถีแห่งสวรรค์ เขาก็เคยศึกษาค่ายกลมาบ้าง กลับไม่เคยได้ยินค่ายกลที่ซับซ้อนเช่นนี้มาก่อน ไม่แปลกที่จะมีคนตายมากมายเช่นนี้...
เพียงแต่ หากอินชิงเสวียนตายแล้วจริงๆ เขาจะไปหาพลังวิญญาณได้จากที่ใดอีก?
ระหว่างที่ครุ่นคิด จู่ๆ ก็ได้กลิ่นหอมของอาหาร ต่งจื่ออวี๋ถือช้อนและพูดตะโกนว่า “กินข้าว กินข้าวได้แล้ว”
ฮั่วเทียนเฉิงได้กลิ่นของน้ำพุวิญญาณอีกครั้ง จึงรีบใช้กำลังภายในมาที่ด้านหน้าหม้อและเตาในทันที
“น้ำนี่...”
เย่จิ่งหลานก็รีบตามเขาไป
คิดในใจว่า หรือว่าเจ้าฮั่วรู้จักน้ำพุวิญญาณด้วย?
เขามาหาอินชิงเสวียนเพื่อสิ่งนี้งั้นหรือ?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็พูดอย่างเศร้าเสียใจว่า “น้ำเหล่านี้คือสิ่งที่พี่สะใภ้ทิ้งเอาไว้ให้ก่อนตาย ข้าได้ยินพี่ใหญ่บอกว่า พี่สะใภ้เคยได้รับวาสนาตอนอายุไม่กี่ขวบ มีผู้ทรงเวทท่านหนึ่งมอบกำไลให้นาง ด้านในมีน้ำพุวิญญาณเหล่านี้อยู่ นางได้ทุบกำไลให้แตกก่อนที่นางจะตาย เพื่อเอาน้ำทั้งหมดให้แก่พวกเรา เฮ้อ น่าเสียดายจริงๆ นางทิ้งไว้เพียงแค่สิบกว่าโอ่ง ตอนนี้ก็เหลือเพียงเท่านี้แล้ว ท่านฮั่วลองชิมดูเถอะ พี่สะใภ้บอกว่าสิ่งนี้มีประโยชน์ต่อผู้ฝึกวรยุทธ์ เสียดายที่น้ำนี่ไม่สามารถช่วยชีวิตนางได้”
เย่จิ่งหลานพูดจบ น้ำตาก็ไหลออกมา
เก่อหงยวนก็สวมบทการแสดงทันที นางยืนสูดจมูกอยู่ด้านหลังเขา และพูดปลอบด้วยเสียงสะอื้นว่า “คุณชายน้อยเย่ ท่านอย่างร้องไห้เลยนะ พี่สะใภ้และพี่ใหญ่ของท่าน คงไม่ต้องการเห็นท่านทุกข์ใจเช่นนี้แน่ วิญญาณของพวกเขาที่อยู่บนสวรรค์จะต้องอวยพรให้ท่านทำลายตงหลิวได้ เพื่อสร้างความสุขให้ประชาชนต้าโจว”
ต่งจื่ออวี๋นิสัยซื่อตรง เขาไม่ได้มีนิสัยอ้อมค้อมเหมือนพวกเขาเหล่านี้ จึงเกาศีรษะอย่างอดไม่ได้ และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยความไม่เข้าใจ
สองคนนี้คิดจะทำอะไรกันนะ พี่สะใภ้พี่ใหญ่อะไรกันเนี่ย
เช่นนั้นไม่ใช่แม่นางอินและคุณชายเย่หรอกหรือ พวกเขากลับไปที่เมืองหลวงนานแล้วไม่ใช่หรือ?
น้ำพุวิญญาณมีพลังวิญญาณที่มหาศาลอย่างแท้จริง หากสามารถให้ลูกศิษย์ของตำหนักเทพได้กินดื่ม จะต้องเกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดแน่นอน
ต้องโทษตัวเองที่ไม่มีความสงสัยต่อเฟิงอวิ๋นลี่เลยแม้แต่น้อย ไม่เคยคาดคิดว่ามันจะจบลงแบบนี้
ฮั่วเทียนเฉิงอยากจะตายด้วยความหงุดหงิดโมโห เขาหยิบชามเปล่าที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาแล้วตักข้าวต้มลงในถ้วย เขาซดหนึ่งคำโดยไม่สนใจว่ามันจะร้อนแค่ไหน ทันใดนั้นก็หันหน้ามาราวกับคิดบางสิ่งขึ้นได้
“กำไลนั่นอยู่ที่ใด?”
ดวงตาของเขาแดงก่ำราวกับว่าเป็นนักพนันที่สูญเสียเงินทั้งหมดไป
เย่จิ่งหลานถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่ได้ตั้งใจ และรักษาระยะห่างที่เหมาะสมจากเขา พร้อมชี้ไปที่ภูเขาไปทางทิศตะวันออก
“เห็นหุบเขาใหญ่ลูกนั้นหรือไม่ ด้านในล้วนเป็นลูกศิษย์ที่ตายในสงครามครั้งนี้ พี่ใหญ่และพี่สะใภ้ของข้าก็อยู่ที่นั่น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...