สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 994

ประตูเมือง

รถม้าคันหนึ่งถูกหยุดโดยทหารรักษาเมือง

“ใคร”

ผู้อาวุโสหันลงจากรถ แล้วพูดด้วยสีหน้าอ่อนโยน “ข้าต้องการพาลูกสาวคนโตไปรักษาที่เมืองหลินเฉิง หวังว่าเจ้าหน้าที่จะช่วยอำนวยความสะดวกด้วย”

เขาหยิบก้อนทองหยวนเป่าออกมาก้อนหนึ่ง แล้วยัดเข้าไปในแขนเสื้อของทหารรักษาเมืองอย่างรวดเร็ว

“นี่เป็นน้ำใจเล็กน้อยจากข้า ให้ทั้งสองคนเป็นค่าน้ำชา”

เมื่อเห็นเจ้าก้อนสีเหลืองอร่ามนี้ ทหารรักษาเมืองทั้งสองก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน

หนึ่งในนั้นถามว่า “คนที่นั่งอยู่ในรถคือใคร”

ผู้อาวุโสหันเอื้อมมือออกไปเปิดม่านรถ

“เป็นลูกสาวสองคนของข้า ครอบครัวของหลานชายกับหลานสะใภ้ คนที่ป่วยคือลูกสาวคนโตของข้า”

เขาชี้ไปยังฉุยอวี้ที่ดวงตาเบิกโพลงทั้งคู่ จากนั้นลดม่านรถลง

ทหารรักษาเมืองคนที่รับเงินเหลือบมองอย่างไม่สบายใจอีกครั้ง เมื่อตรวจดูจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรอีก จึงโบกมือ

“ไปเถอะ”

ผู้อาวุโสหันขอบคุณเขาซ้ำๆ “ขอบคุณทั้งสองคนมาก ขอบคุณทั้งสองคนมากๆ”

“หยุดพูดพล่ามได้แล้ว ใกล้จะปิดประตูเมืองแล้ว”

“ใช่ๆ ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้”

ผู้อาวุโสหันกระโดดขึ้นรถม้า ทันทีที่ฟาดแส้ลงบนหลังม้า รถม้าก็เผ่นโผนโจทะยานออกไปจากเมืองราวกับลูกธนูที่หลุดจากสาย

อินชิงเสวียนเปิดม่านรถ มองดูทิวทัศน์ที่ถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว พลันเกิดความรู้สึกขมขื่นในใจ

จากไปแล้วจริงๆ เมืองหลวงที่นางอยู่มานานกว่าครึ่งปี ทุกสิ่งทุกอย่างในพระราชวังเป็นเหมือนฝันร้าย!

เมื่อนึกถึงคนเคียงหมอนที่ตบเบาๆ ให้ตัวเองนอนหลับในทุกๆ ค่ำคืน อินชิงเสวียนก็ยิ้มอย่างขมขื่น

การได้มีความรักอย่างสุดจิตสุดใจอย่างสะเทือนเลือนลั่นขนาดนี้เหมือนกับนาง นับว่าเป็นบุญคุณอันใหญ่หลวงจากสวรรค์แล้ว เป็นมนุษย์ไม่ควรโลภเกินไป บางที นางกับเย่จิ่งอวี้อาจมีวาสนาต่อกันแค่เพียงหนึ่งปีนี้เท่านั้น!

นางถอนหายใจเบาๆ แล้วหันไปหาฉางเฮิ่นเทียนที่กำลังกอดเสี่ยวหนานเฟิงไว้แน่น แล้วพูดเสียงเย็นชา “อย่ากอดแน่นขนาดนั้น เขาจะรู้สึกอึดอัด”

ฉางเฮิ่นเทียนกล่าวอย่างสุภาพ “แม่นางกล่าวถูกแล้ว ข้าจะคลายเดี๋ยวนี้แหละ”

“รู้แล้ว”

อินชิงเสวียนรับคำเบาๆ แล้วนั่งยองๆ ลงหลังก้อนหิน

เฟิงอวิ๋นลี่งุนงงอยู่บ้าง อินชิงเสวียนไม่ได้ถอดกางเกงออก หรือว่านางคิดจะหนี?

ถ้าเป็นเช่นนั้น แล้วเด็กล่ะ?

ด้วยทักษะวรยุทธ์แมวสามขาของตัวเอง จะสามารถปกป้องเสี่ยวหนานเฟิงกับฉุยอวี้ได้หรือ?

ขณะที่กำลังมึนงง จู่ๆ อินชิงเสวียนก็ดึงตัวนางลง

เฟิงอวิ๋นลี่นั่งยองๆ โดยไม่รู้ตัว แล้วมีบางอย่างที่มีแสงจางๆ ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของนาง

ในนั้นเขียนว่า ‘อย่าพูด ถ้าสิ่งที่ข้าพูดถูกต้อง เจ้าแค่พยักหน้าก็พอ!’

เฟิงอวิ๋นลี่มองดูสิ่งเล็กๆ นี้ด้วยความตกใจ แต่ยังคงพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว

นิ้วเรียวของอินชิงเสวียนกดรัวเร็วอีกหลายครั้ง แล้วตัวอักษรก็เปลี่ยนไปทันที

“เจ้าถูกขโมยเฒ่านั่นขู่ใช่หรือไม่”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์