SO BAD เพื่อนสนิทร้ายซ่อนรัก นิยาย บท 38

-The Most-

“มึงจะนั่งซึมทำห่าไรไอ้ติน” เสียงไอ้เควินดังเข้ามาในสมองผมทำให้ผมถอนหายใจด้วยความรำคาญ

“เออ มึงเรียกพวกกูมานั่งดูมึงถอนหายใจรึไง” ไอ้แอลถามขึ้นบ้าง แล้วพวกมันสองคนก็นั่งมองหน้าผมด้วยสายตากดดัน

“เฮ้อ!” ผมถอนหายใจออกมาหนักๆ แล้วก็ยกเหล้าขึ้นกระดกทีเดียวหมดแก้ว

“เอา เอาไปอีก แดกเยอะๆ เลยมึง เมาแล้วจะได้พูด” ไอ้เควินยื่นแก้วของมันมาให้ผมอีกแก้ว ผมเลยปัดมือมันออกเบา ๆ

“กูไม่เข้าใจว่ะทำไมผู้หญิงไม่ชอบพูดตรง ๆ วะ กูไม่ใช้ผู้วิเศษที่จะรู้ทุกความคิดนะเว้ย”

“เออ ผู้หญิงก็แบบนี้แหละมึงต้องเข้าใจเขา” ไอ้เควินปรมาจารย์ด้านการเอาใจผู้หญิงตอบผมมา ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรกูเลยครับ

“มีคำแนะนำอื่นไหม” ผมถามออกไปทันที

“ไม่ว่ะ กูไม่เคยมีเมีย ไม่รู้จะหาวิธีเข้าใจผู้หญิงไปทำไม มึงถามไอ้แอลดิ” ไอ้เควินยักไหล่ให้ผม

“ไม่รู้ว่ะ ปกติงี่เง่าเมื่อไหร่กูก็จัดให้ดอกใหญ่ ๆ ตื่นมาก็หาย” ไอ้เชี่ยแอลตอบด้วยน้ำเสียงเรื่อย ๆ ของมัน แต่ผมแทบอยากกระโดนถีบปากมัน แม่งไม่ได้ช่วยอะไรกูเลย

“พวกมึงแม่งไร้ประโยชน์ฉิบหาย”

“ไอ้ห่าผู้หญิงแต่ละคนไม่เหมือนกันมึงจะง้อเหมือนกันได้ไงวะ นั่นเมียมึงมึงต้องรู้จักดีกว่าพวกกู” ไอ้แอลพูดขึ้นมา มันทำให้ผมคิดตาม

“เออ แล้วผู้ชายแต่ละคนก็ไม่ได้เหมือนกัน วิธีการง้อก็ไม่เหมือนกัน อย่างไอ้ห่าแอลที่จริงแม่งอาจจะเต้นส่ายตูดง้อเมียก็ได้มันแค่ไม่บอกใครมึงจะทำตามไหมล่ะ”

“สัส! กูไม่เคย” ไอ้แอลรีบตอบกลับเหมือนร้อนตัวจนผมชักจะสงสัยว่าที่จริงแล้วมันเคยทำอย่างที่ไอ้เควินพูดรึเปล่า

“สรุปคือกูต้องคิดเอง”

“เออ / เออ” พวกมันตอบพร้อมกัน แม่งโคตรไร้ประโยชน์เลยแล้วยังต้องเปิดเหล้าเลี้ยงพวกมันอีก กูเอาค่าเหล้าไปเลี้ยงเมียไม่ดีกว่าเหรอวะ

-สามวันต่อมา–

ตั้งแต่วันที่เราทะเลาะกันที่ลานจอดรถนี่ก็ 3 วันแล้วที่ออสตินหายไปจากชีวิตฉัน ส่วนฉันก็ไม่ได้พยายามติดต่อกลับแล้วก็ไม่ได้ไประบายหรือขอคำปรึกษาจากใครเพราะไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้

“มินช่วงนี้ดูซึม ๆ ใจลอยบ่อยนะ” พี่พอร์ชทักฉันหลังจากที่เราสองคนไปคุยงานกับลูกค้าเสร็จ

“หืม จริงเหรอคะ คิดไปเองเปล่า มินสบายดี” ฉันยิ้มให้พี่พอร์ชแล้วก็พยายามกลบเกลื่อนไม่ให้เขาสงสัยไปมากกว่านี้ ไม่รู้สิความรักเป็นเรื่องของคนสองคน ถ้ามันไม่สุดจริง ๆ ฉันก็ไม่อยากเอาไประบายให้ใครฟังหรอกนะ

“ถ้ามีอะไรไม่สบายใจให้นึกถึงพี่นะมิน” พี่พอร์ชหันมาบอกฉันแล้วส่งยิ้มอบอุ่นให้ ฉันเองก็ไม่ได้ตอบอะไรไปแค่ส่งยิ้มขอบคุณให้เขาและยิ้มตอบเพื่อให้เขาสบายใจว่าฉันโอเค จากนั้นพี่พอร์ชก็ไปส่งฉันที่คอนโดเพราะกว่าจะคุยกับลูกค้าเสร็จก็เลยเวลาเลิกงานไปแล้ว

ฉันเดินเข้าห้องด้วยสภาพซังกะตาย พออยู่คนเดียวอาการนอยล์ก็จะกลับมาอีกครั้ง แต่พอเข้ามาในห้องกลับรู้สึกแปลก ๆ เพราะเหมือนในห้องนี้ไม่ได้มีฉันอยู่แค่คนเดียว หรือจะเป็น...ไม่หรอกไม่ใช่ เขาหายไปตั้งหลายวันแล้วคงไม่โผล่มาแล้วมั้ง

หมับ!

“คิดถึงที่รักจัง” ดูเหมือนสิ่งที่ฉันคิดจะผิดเพราะเขาอยู่ที่นี่จริง ๆ แถมยังมากอดฉันจากด้านหลังแล้วก็พูดเสียงหวานออกมาเหมือนเราไม่เคยทะเลาะกัน

“มาทำไม”

“มาหาเมีย ไม่ได้เหรอ” ออสตินตอบแล้วก็กอดฉันแน่นขึ้นพร้อมกับกดจูบลงที่ผมฉันเบา ๆ เหอะ! กลับมาตอนนี้นี่นะ ลืมเรื่องที่เราทะเลาะกันไปแล้วรึไงหรือไม่ใส่ใจ

“ปล่อยได้แล้วติน ฉันเหนื่อยอยากพัก” ฉันบอกเขาแล้วแกะมือเขาออกแต่ออสตินก็ไม่ยอมเพราะเขายิ่งกอดแน่นขึ้น

“คนดีอย่าดื้อสิ คุยกันก่อน” ออสตินพูดเสียงอ้อนแต่ใช่ไม่ได้ผลกับฉันหรอกนะ

“ไม่มีอะไรต้องคุยทั้งนั้น”

“ยังโกรธอยู่เหรอ ขอโทษนะครับถ้าเผลอไปทำอะไรให้ที่รักโกรธ แต่บอกหน่อยได้ไหมว่าโกรธเรื่องอะไร” ออสตินปล่อยแขนลงแล้วหมุนตัวมายืนข้างหน้าฉันพร้อมกับมองหน้าฉันด้วยแววตาขอร้อง

ฉันอยากจะตะโกนดัง ๆ ใส่หน้าเขาว่า มึงไม่ได้เผลอหรอกแต่มึงตั้งใจปิดบังอะไรบางอย่าง! แต่ก็เลือกที่จะไม่ให้ความใจร้อนมันมาพังทุกอย่าง ถ้าต้องจบก็ขอจบกันด้วยดี ฉันเลยเลือกที่จะสบตากับเขาแล้วสูดลมหายใจเข้าให้เต็มปอดเพื่อรวบรวมพลังกับสติ

“นายมีอะไรปิดบังฉันรึเปล่า?” ฉันถามเขาออกไปทำให้ออสตินขมวดคิ้วแล้วทำหน้างงก่อนที่จะส่ายหน้า เท่านั้นแหละฉันไม่ทนอะไรแล้ว การที่ออกจากห้องแต่เช้าแอบคุยโทรศัพท์ลบแชทนี่เรียกว่าไม่มีอะไรปิดบังได้เหรอ

“ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้ออสติน” ฉันถอยหลังออกห่างเขาช้า ๆ พยายามกักเก็บน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา

“...” ??? หลังจากที่เขามองหน้าฉันไปพักหนึ่งออสตินก็พูดออกมาช้า ๆ ทำให้ฉันมึนงงหูอื้อตาลายไปหมด

“หมายความว่าไง” ฉันถามเขาออกไปเสียงเบา เบาจนฉันเองก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงของตัวเอง ออสตินก็เลยเอามือมาไล้ที่แก้มของฉัน

“ที่จริงที่ทำเหมือนมีความลับก็แค่ต้องไปจัดการโปะหนี้ห้องนี้ให้ ห้องบ้าอะไรแพงชิบ เท่ารูหนูราคาตั้งหลายล้าน ขายทิ้งเลยนะมินบ้านผัวใหญ่กว่านี้เป็นร้อยเท่าไหนจะห้องที่ผับอีกไม่ต้องมาอยู่ที่นี่เลย อีกเรื่องก็แค่ตั้งใจจะจัดเซอร์ไพรส์เธอเพื่อขอแต่งงานแต่ดันมียัยขี้สงสัยมาทำตัวเป็นโคนันสมัครเล่นแผนก็เลยล่ม เสียเงินจ้างคน จ้างตากล้อง จ้างนักดนตรี ปิดร้านอาหารไปล่วงหน้าแล้วตั้งเป็นแสน แต่ตอนนี้เละแล้ว” ออสตินอธิบายช้า ๆ แต่ยาวแบบม้วนเดียวจบทำเอาฉันอ้าปากค้าง

“จะ...จริงเหรอ”

“อืม”

“...”

“อ่าส์! ไหน ๆ แผนเซอร์ไพรส์มันก็ล่มไม่เป็นท่าแล้วถ้างั้น...ช่วยให้เกียรติแต่งงานกับผู้ชายเลว ๆ คนนี้ได้ไหม แต่งงานกันนะคนดี สัญญาว่าจะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีให้ได้” ออสตินกอดฉันเบา ๆ แล้วจูบลงที่หน้าผาก ตอนนี้สติฉันแทบจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาไม่นึกไม่ฝันว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสได้โดนขอแต่งงานจากคนตรงหน้า

“คิดดีแล้วเหรอ” ฉันถามเขาออกไปเสียงเบาเพราะกลัวเขาจะเปลี่ยนใจทีหลัง เพราะมันไม่ง่ายนะที่จะแต่งงานกับใครสักคน ฉันอยากให้เขามั่นใจจริง ๆ

ออสตินยิ้มให้ฉันแล้วกระชับเอวฉันเข้ามากอดให้แน่นขึ้น

“เคยบอกรึยังมินว่ารักเธอมากแค่ไหน” ออสตินพูดออกมาด้วยรอยยิ้มอบอุ่นแต่ฉันตอนนี้แค่ได้ยินคำว่ารักจากเขา คำว่ารักที่ไม่เคยหลุดออกมาจากปากเขาเลยสักครั้งก็ทำเอาฉันแทบจะยืนไม่อยู่

“รักนะครับที่รัก รักมาก รักมานาน รักแล้วก็อยากดูแลคนดีมาตั้งนานแล้ว ว่าไงครับ แต่งงานกันได้ไหม” ออสตินถามแล้วบรรจงเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาช้า ๆ ให้ฉัน

“อื้อ~ แต่ช่วยพูดอีกครั้งได้ไหม” ฉันพยักหน้าตอบรับแล้วขอร้องให้เขาบอกรักฉันอีกครั้ง

“ตินรักมิน รักมาก”

“ฮึก! ฮื่อ~ มินก็รักตินนะ” ฉันโผกอดเขาเต็มแรงแล้วก็บอกรักเขาออกไปเหมือนกัน

ตอนนี้ฉันไม่มีข้อสงสัยอะไรในตัวเขาอีกแล้ว ทุกคำพูด ทุกน้ำเสียง ทุกแววตาที่เขาส่งให้ฉันมันมีแต่ความรักความจริงใจและฉันก็ควรที่จะเชื่อใจเขาที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักเหมือนกัน แต่ฉันรู้ดีว่าการแต่งงานไม่ใช่จุดจบของความสุขมันคือจุดเริ่มต้นของความรักอีกขั้นหนึ่งต่างหาก ไม่รู้ว่าในอนาคตเราจะยังรักกันแบบนี้หรือมีความสุขแบบนี้ไหม แต่ฉันขอลองเสี่ยงกับมันดูสักครั้งถ้าคนที่อยู่ข้างฉันคือเขา คือออสตินคนนี้คนเดียวเท่านั้น

--- END ---

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: SO BAD เพื่อนสนิทร้ายซ่อนรัก