“เหรอครับ แต่พี่ว่าเราเคยเจอกันแล้วนะ”
“...ที่ตึกจอดรถตอนวันวาเลนไทน์” เขาพูดช้า ๆ ชัด ๆ แล้วก็มองหน้าฉันเพื่อค้นหาคำตอบ
“...” !!! ฉันนั่งนิ่งเหมือนโดนจับได้ ไม่เหมือนสิตอนนี้โดนจับได้จริง ๆ แต่เขารู้ได้ไงเขาจะจำได้เหรอมันผ่านมา 3 ปีแล้วนะ คนอย่างอีตานี่ไม่มีทางที่จะจำฉันในสภาพไม่สวยแบบนั้นได้แน่นอน
“พี่เควินพูดอะไรคะ วันวาเลนไทน์ไหน” ฉันแกล้งถามไปยิ้มไปแอ๊บทำหน้าใสซื่อส่งให้เขา
“ตอนที่ขนมไปสารภาพรักกับพี่ไงครับ” เชี่ย! รู้จริงอ่ะ ไปรู้มาจากไหนแล้วทำไมถึงได้รู้ เรื่องนี้มันเป็นความลับมากเลยนะ!
“พี่เควินจำคนผิดรึเปล่าคะ” ฉันไม่ยอมรับหรอกค่ะ เรื่องอะไรจะยอมรับใช่ไหมคะซิส ไหนหลักฐานไม่มีสักนิดเดียว
“พี่จำไม่ผิดหรอกครับ...เพราะพี่จำไม่ได้” เขาตอบกลับมา แล้วดูคำตอบของเขาสิมันยิ่งทำให้ฉันงงหนักไปอีก
“จำไม่ได้? พี่เควินคะขนมไม่รู้ว่าพี่พูดเรื่องอะไรขนมงงไปหมดแล้ว”
“ขนมไม่ต้องงงหรอกครับเรื่องนี้ขนมรู้ดี พี่รู้หมดแล้วครับว่าขนมเคยไปสารภาพรักพี่แล้วโดนพี่ปฏิเสธ แล้วตอนนี้ที่มาสนิทกับพี่ก็เพราะขนมจะหาทางเอาคืนพี่ ใช่ไหม?” ไม่เหลือเค้าของความกะล่อนจากตัวเขาเลยค่ะ อีตานี่ในโหมดจริงจังไล่ต้อนจับผิดดูน่ากลัวมาก โดยเฉพาะแววตาของเขาที่ไม่ได้อยู่ในโหมดกะล่อนแล้ว ส่วนฉันก็กำลังสงสัยว่าเขาไปรู้ได้ยังไง คำถามนี้มันวนอยู่ในหัวฉันเต็มไปหมด
“ไม่ต้องสงสัยหรอกครับว่าพี่รู้ได้ยังไง เอาเป็นว่าพี่ไม่รู้ว่าขนมอยากจะแก้แค้นพี่ด้วยวิธีไหนบ้าง พี่จะไม่สนใจเรื่องนั้น แต่ขนมช่วยลืมเรื่องเก่าไปได้ไหม พี่ว่าเราสองคนมาทำความรู้จักกันใหม่ดีกว่า” เขาพูดขึ้นพร้อมกับมองฉันเพื่อรอคำตอบ มันเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ไฟเขียวขึ้นพอดีอีตาเควินเลยขับรถมาจอดที่ปั๊มน้ำมันใกล้ ๆ
“ว่าไงครับ เราสองคนมาทำความรู้จักกันใหม่ดีกว่าไหม” พอเขาจอดรถเสร็จก็หันมาถามฉันด้วยคำถามเดิม
“ทำความรู้จักกันใหม่? เหอะ!” ฉันพูดแล้วก็แค่นยิ้มออกไป
“กับคนที่เหยียดหน้าตา มองแค่เปลือกนอกแล้วก็สนใจแค่ความรู้สึกของผู้หญิงที่สวยมันมีอะไรให้ต้องทำความรู้จักเหรอ รู้ไหมว่าฉันโคตรเกลียดนายเลย” ฉันหันไปพูดกับเขาหลังจากที่มีเวลานั่งคิดทบทวนตอนที่เขาขับรถเข้ามาในปั๊มเมื่อกี้ฉันก็สรุปได้ว่าควรยอมรับแบบแมน ๆ ไปเลยดีกว่า
“เกลียดพี่?”
“ใช่ ฉันเกลียดนาย เกลียดมากจนไม่อยากเห็นนายมีความสุข ผู้ชายที่เอาแต่มองหาผู้หญิงสวย ๆ แล้วก็ล้อเล่นกับความรู้สึกของผู้หญิง เห็นผู้หญิงเป็นของเล่นแบบนายอย่าว่าแต่ทำความรู้จักกันใหม่เลย ตอนนี้ก็ไม่ได้อยากรู้จักด้วยซ้ำ!”
“สรุปที่คุยกับพี่ที่ผ่านมาเพราะอยากหาทางแก้แค้น” เขาถามฉันด้วยน้ำเสียงนิ่งที่เดาไม่ถูกว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“อืม”
“แล้วไม่อยากแก้แค้นต่อแล้วรึไง”
“โดนจับได้แล้วจะต้องแก้แค้นต่อทำไม ต่อไปนี้ฉันทำอะไรนายก็รู้อยู่ดีว่าฉันจะแก้แค้น”
“เหอะ! ตลกว่ะขนม พี่อุตส่าห์ขอให้ลืมเรื่องที่ผ่านมาแล้วเริ่มต้นกันใหม่แล้วนะ” ไอ้บ้าเควินแค่นยิ้มใส่ฉัน เริ่มต้นใหม่ยังไงคะเริ่มต้นแบบมาคั่วกันใหม่น่ะเหรอ ตลกเหมือนกันค่ะ
“เรื่องของนาย” ฉันตอบแค่นั้นพอ คำพูดของฉันมันอาจจะดูเด็กมาก แต่ฉันก็ขี้เกียจพูดเยอะค่ะย้อนกลับไปได้กี่รอบฉันก็จะพูดคำเดิม
“แล้วจะเอายังไงต่อ”
“ก็ต่างคนต่างอยู่สิ ถือว่าฉันแพ้ฟาล์วแล้วกัน บาย” ฉันบอกแค่นั้นก็เปิดประตูรถออกมาทันที แม่งเอ๊ย! เขารู้ได้ไงวะ สรุปความตั้งใจที่จะเอาคืนไอ้บ้านั่นล่ม พัง เละตุ๊มเป๊ะไม่เป็นท่า!
#KANOM END
#KEVIN TALK
ผมนั่งมองขนมที่เดินลงรถไปนิ่ง ๆ
ตุ๊บ!
ปริ๊น ๆๆ
“ขึ้นรถครับขนม” ผมขับตามขนมที่เดินออกมาจากปั๊มได้ไม่ไกลแล้วก็ลดกระจกเรียกเธอเพราะแถวนี้ไม่มีป้ายรถเมล์กว่าจะถึงมหาลัยเธอก็อีกไกล ถ้าจะเรียกแท็กซี่ก็อย่าหวังเลยเพราะเวลานี้แท็กซี่หายากจะตาย
“ไม่ขึ้น! จะไปไหนก็ไปเลยไปไอ้เลว!” น้ำเสียงเหวี่ยงที่ไม่เคยใช้คุยกับผมดังขึ้นมา ผมว่าผมเริ่มเจอตัวตนที่แท้จริงของขนมแล้วครับ อย่างแรกเลยคือปากดี แล้วก็มั่นใจว่าที่เมาแล้วละเมอด่าวันนั้นมันคือผมชัด ๆ อ้อ! ไหนจะที่เธอแก้ตัวว่าด่าหมาอีก สรุปขนมแม่งหลอกด่าผม
“ขึ้นมาพี่จะไปส่ง” ผมพยายามข่มใจไม่ให้ดุเด็กงี่เง่าแล้วก็พูดกับเธอดี ๆ อีกครั้ง ผมเป็นผู้ชายอะไรอ่อนได้ก็ยอมอ่อนก่อนครับแล้วเดี๋ยวค่อยไปแข็งทีหลัง ส่วนอะไรแข็งก็...หึ ๆๆ
“ไม่จำเป็น แล้วก็รู้เอาไว้ด้วยว่าฉันไม่เคยอยากขึ้นรถนายเลยสักครั้ง นั่งทับรอยใครบ้างก็ไม่รู้” ขนมหยุดเดินแล้วก็หันมาบอกผม ปากสวย ๆ ที่พ่นคำพูดออกมานี่โคตรทำให้ผมหงุดหงิดเลยให้ตายเถอะ
“ตกลงจะไม่คุยกันดี ๆ ใช่ไหมขนม” ผมเริ่มหมดความอดทนกับเธอแล้ว ผมอุตส่าห์มาง้อแล้วแต่ทำไมยังงอแงไม่เลิกแบบนี้วะ
“ใครอยากคุยดีกับนายฮะ! หลงตัวเองมากไปรึเปล่าเควิน” คุยกับผมด้วยคำแทนตัวว่านายฉันผมก็หงุดหงิดแล้วนะ นี่เธอกล้าดียังไงมาเรียกชื่อผมห้วน ๆ แบบนี้วะ ผมไม่เคยง้อหรืออดทนกับผู้หญิงคนไหนมาก่อนแล้วตอนนี้ผมก็จะไม่ง้อเธอแล้วเหมือนกัน
“อยากเป็นศัตรูกับพี่ใช่ไหมขนม” ผมกัดฟันถาม ยัยเด็กงี่เง่านี่ปากดีจริง ๆ คุยกันดี ๆ ไม่ได้ก็มาเป็นศัตรูกันไปเลยแล้วกัน
“เออ! อยากเป็นชนิดที่ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบด้วยซ้ำรู้เอาไว้ซะ!” เธอพูดจบก็เดินไปทันทีทิ้งให้ผมนั่งโมโหอยู่ในรถคนเดียว
“ขนม!” ขนมก้าวร้าวกับผมเกินไปแล้วครับ เด็กมันดื้อแบบนี้ต้องสั่งสอนให้หลาบจำ
หมับ!
“มานี่!”
“เฮ๊ย! ปล่อย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: So Sexy Girl สยบรักร้ายนายเจ้าชู้
ตอนต่อไป มาตอนไหน...