อินเหิงเกิดใจกว้างขึ้นมาและกล่าวว่า: "ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็จุมพิตเถอะ"
เขาเกือบจะไม่มีชีวิตรอดแล้ว จะยังใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้ทำไม
ขณะนี้เมิ่งอู่ได้กัดแกนกลางคำหนึ่งจากนั้นคายออก เวลาต่อมาก็ก้มศีรษะพร้อมกับบีบไปที่คางของอินเหิงโดยที่เขาก็เปิดปากอย่างร่วมมือ
เมิ่งอู่เทน้ำหวานเข้าไปในปากเขาทีละน้อย
ในชั่วพริบตา อินเหิงที่แห้งแล้งมาเนิ่นนานเสมือนได้สัมผัสแหล่งกำเนิดชีวิต เคลื่อนลูกกระเดือกอย่างไม่สามารถควบคุมได้ แล้วดึงความหวานนั้นจากปากของนาง
ไม่นึกฝันว่าริมฝีปากของนางช่างนุ่มนวลยิ่งนัก อินเหิงดูดดื่มกับริมฝีปากของนางและพลิกกลับ
เมิ่งอู่ขมวดคิ้ว ดึงออกทันท่วงทีแล้วกล่าวว่า: "นี่ เป็นข้าที่เอาเปรียบเจ้า ไม่ใช่ให้เจ้ามาเอาเปรียบข้า"
อันที่จริงนางมิใช่คนที่จะเอาเปรียบผู้อื่น ที่นางกล่าวว่าให้นางจุมพิต หากมิใช่ปากต่อปาก จะส่งต่อน้ำหวานแก่เขาได้เช่นไร?
แต่คิดไม่ถึงว่าเจ้านี่จะเปลี่ยนจากแขกมาเป็นเจ้าบ้าน กลืนกินปากของนาง
อินเหิงเลียที่มุมปาก ม่านตาสีอ่อนเย้ายวนเล็กน้อยนั้นมองมายังนางแล้วกล่าวว่า: "ยังมีอีกหรือไม่?"
เมิ่งอู่กล่าว: "ซื่อสัตย์หน่อย อย่าริอาจดูด ข้าก็จะให้เจ้า"
"ย่อมได้"
เมิ่งอู่เคี้ยวอีกจากนั้นก็คายกากออกมา ก้มตัวลงชิดไปยังริมฝีปากเขา เขากลืนมันอย่างสะอาดหมดจด ยังมิลืมม้วนเกี่ยวความหวานจากริมฝีปากของนาง
เช่นนี้เมิ่งอู่จึงให้น้ำอ้อยสองต้นแก่เขา
เมิ่งอู่ไม่สามารถดึงหรือลากเขาไปได้โดยตรง จึงต้องคิดหาวิธีพาเขาออกจากทุ่งข้าวฟ่างนี้
นางหักต้นข้าวฟ่างมากมายมามัดเป็นแพอย่างง่าย ย้ายเขามาที่แพจากนั้นก็ลากแพออกไป
นางฉีกมุมเสื้อของเขาแล้วบิดให้เป็นเชือก ดึงอยู่ข้างหน้าด้วยอาการหอบ แล้วกระซิบให้กำลังใจตนเองว่า: “ถ้ามิใช่เพราะเห็นแก่หน้าตาที่ดีของเจ้า......”
อินเหิงกล่าวขึ้นทันใดว่า: "เจ้าจะพาข้ากลับไปที่บ้านรึ?"
“มิเช่นนั้นหล่ะ” เมิ่งอู่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า: “นำกลับไปเลี้ยงดูจากนั้นให้เป็นสามีในอนาคตของข้า”
“ไม่กลัวว่าข้าจะทำให้เจ้าลำบากรึ?”
เมิ่งอู่กล่าวว่า: “ข้ายังกลัวว่าเจ้าจะไม่มาทำให้ข้าลำบากซะอีก จะเป็นการดีที่สุดหากศัตรูของเจ้าเดินเข้าประตูมา แล้วกำจัดภูตผีปีศาจของบ้านข้าให้หมดสิ้น ถึงเวลานั้นข้าเพียงแค่ปกป้องความปลอดภัยของท่านแม่เจ้าของร่างเดิมก็เพียงพอแล้ว”
น่าเสียดายที่นางไม่รู้ว่าเจ้าของร่างเดิมถูกหวังสี่ซุ่นบีบคอจนตายไปแล้วตั้งแต่ตอนที่อยู่ในทุ่งข้าวฟ่าง ตอนนี้ในร่างนี้มีวิญญาณอื่นอยู่
นางเซี่ยริมฝีปากซีดเซียว กล่าวด้วยใบหน้าเจ็บป่วยว่า: "อาอู่ ที่เจ้าทำอยู่นี่คือ......"
เมิ่งอู่กล่าวว่า: "ข้าเก็บคนผู้หนึ่งกลับมา"
ในเมื่อตอนนี้นางอยู่ในร่างของเจ้าของเดิม งั้นก็อยู่ด้วยความสงบ นางจะช่วยดูแลแม่ของเจ้าของเดิม จะไม่มีวันปล่อยให้พวกอันธพาลพวกนี้รังแกได้อีก!
เมื่อก่อนนางเซี่ยเป็นลูกสาวของท่านอาจารย์ในหมู่บ้าน และนางก็เป็นคนเจ้าระเบียบมาก
ชายหญิงไม่สามารถใกล้ชิดกันได้ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้พ่อของเมิ่งอู่ก็ไม่อยู่ ยิ่งไม่สมควรนำผู้ชายเข้ามาบ้านโดยง่าย
หากแพร่ออกไปจะถูกชี้จมูกด่าแช่งได้
นางเซี่ยกล่าวอย่างหวาดกลัวว่า: "เจ้าจะพาผู้ชายเข้าบ้านง่ายดายได้เช่นไร...... "
แต่เมิ่งอู่กลับไม่ได้ใส่ใจกับจริยธรรมคำสนเหล่านั้นแต่อย่างใด ก่อนจะกล่าวว่า: "หากข้าทิ้งเขาโดยไม่สนใจ อาการบาดเจ็บสาหัสเช่นนั้น คงจะต้องตายเป็นแน่ "
ตายแล้วใบหน้าหล่อเหลานั้นก็น่าเสียดายสิ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สวามีข้าโฉมงามดั่งปุบผา
คุณแอดมินมาอัพเดทบทต่อไปทีนะคะ อยากอ่านมากๆเลย...