ทั้งสามขับรถมาจนถึงตัวจังหวัด เขายังพยายามตามหาเธอมาตลอดทางที่ขับรถผ่าน ถ้าเธอจะกลับไปที่กรุงเทพฯ ต้องมาสถานีรถ ชายหนุ่มไปดูสถานีรถทัวร์ก่อน แต่เขาก็ไม่ได้ถามใครเลย แค่เดินหาแถวนั้นเผื่อว่าเธอจะตกรถ แต่ก็ไม่มีวี่แววเลย
ในหัวใจของเขาร้อนรุ่มมาก ความเป็นห่วงมันมากมายเหลือเกิน มันคือความรู้สึกอะไรกันแน่ หรือเขาแค่รู้สึกผิด ที่ไปทำล่วงเกินเธอแบบนั้น
"พวกมึงทะเลาะกันแรงเลยเหรอวะถึงต้องหนี" เสกสรรยังไม่รู้เรื่องอะไร รู้แค่ว่าเมียของเพื่อนหนีออกจากบ้าน
แต่เหนือตะวันกับมะลิซ้อนก็ไม่ได้อธิบายอะไรให้เสกสรรฟัง
พวกเขาขับรถออกมาแล้วมุ่งหน้าไปสู่เมืองหลวง ซึ่งต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วโมง
"กูว่ามึงขับช้าลงกว่านี้จะปลอดภัยกว่าไหมวะ" แทนที่นั่งรถมานานจะง่วงหรือหลับไปแล้ว แต่นี่เสกสรรกับตื่นเต้นตลอดทาง เพราะยิ่งกว่านั่งรถแข่งเสียอีก
"มึงอย่าพูดมากน่ะ เดี๋ยวกูก็ปล่อยลงตรงนี้ให้หาทางกลับเองเลย"
"ทำไมต้องอารมณ์เสียใส่เพื่อนด้วยวะ" จากนั้นเสกสรรก็ไม่พูดอะไรได้แค่เกาะที่จับตรงข้างประตูไว้ให้แน่น
[คอนโดมกรา]
ทีแรกเสกสรรคิดว่าเป็นคอนโดของเหนือตะวัน เพราะมันหรูหรามาก ราคาคงหลายล้าน แต่แบบไอ้เหนือตะวันนี้เหรอจะมีปัญญาซื้อคอนโดสวยขนาดนี้อยู่
"โผล่หน้ามาได้สักทีนะมึง" คนที่มาเปิดประตูห้องได้เอ่ยพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นใครที่มากดกริ่งเรียก
"เป็นยังไงบ้าง มึงให้คนตามหาเธอให้กูไหม" เหนือตะวันส่งข่าวมาบอกมกราก่อนหน้านั้นแล้ว ว่าเธอหนีออกมาแล้วตามหาไม่เจอ เขาสงสัยว่าเธอจะกลับมาหาพ่อกับแม่
"ไม่มีข่าวเธอหรอก"
ได้ยินแบบนั้นเขาถึงกับนั่งลงที่โซฟาแบบหมดเรี่ยวแรง แล้วนี่เขาจะตามหาเธอเจอได้ยังไง ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร
"แล้วนี่มึงพาใครมาวะ" มกรามองดูเสกสรรที่อยู่ไม่นิ่ง ตอนนี้เดินไปทั่วห้องเพื่อมองดูข้าวของเครื่องใช้
"เพื่อนที่หมู่บ้าน"
"แล้วมึงจะเอายังไงต่อ"
"กูคงต้องกลับบ้านไปหาพ่อกูก่อน"
"ไปหาพ่อหมายความว่ายังไง" เสกสรรหันกลับมาถาม เพราะคิดว่าเหนือตะวันกำพร้า
"มึงอย่าเพิ่งรู้เลย มึงอยู่นี่อย่าสร้างปัญหาแล้วกัน"
"เดี๋ยวนะ?" คนที่พูดขึ้นก็คือมกรา
"กูฝากมันหน่อยแล้วกัน กูคงให้มันไปด้วยไม่ได้หรอก"
"แต่กูก็มีงานต้องทำนะ"
"ก็ให้มันอยู่ที่นี่แหละ"
"มันจะไม่ยกเค้าบ้านกูเหรอ" ทั้งสองมองไปที่เสกสรร ซึ่งตอนนี้ยกเครื่องลายครามขึ้นมามองแบบพินิจ
"ไม่หรอกไอ้นี่มันเลี้ยงง่าย กูไปนะ" ว่าแล้วเหนือตะวันก็รีบออกมาจากคอนโดนั้น ทิ้งให้มะลิซ้อนอยู่กับเสกสรรไป
คฤหาสน์หลังสวยงามและใหญ่โต..
"แม่ดีใจจังที่ลูกกลับมา"
"แม่เป็นอะไรครับ" ชายหนุ่มตกใจเมื่อกลับมาถึงแล้วเห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่
"ก็พ่อของลูกน่ะสิ"
"พ่อทำอะไรอีก"
"พ่อขอหย่ากับแม่"
"อะไรนะครับ??"
"พ่อขอหย่ากับแม่" ประไพพูดพร้อมกับเสียงสะอึกสะอื้น แทบฟังไม่เป็นภาษา
เขายังคงไม่คุยด้วยพอลิฟต์เปิดออก คนร่างหนาก็เข้าไปในนั้น
ตอนนี้ข้างล่างกำลังวิ่งกันให้วุ่น เพื่อที่จะตามคนที่บุกรุกเข้ามา
และเพียงไม่นานลิฟต์ก็ได้มาเปิดออกที่ชั้นผู้บริหาร เขาจำไม่ได้แล้วว่ามาที่นี่ครั้งสุดท้ายเมื่อไร แต่ก็รู้ดีว่าห้องของพ่ออยู่ที่ไหน
แกร็ก!
"เดี๋ยวก่อนสิคุณ คุณมาหาใคร" เลขาหน้าห้องรีบเดินตามคนแปลกหน้า เพราะออกจากลิฟต์มาแทนที่จะคุยกับเธอก่อนแต่เดินไปเปิดห้องท่านประธาน
"พ่ออยู่ไหน"
"พ่อ?"
"ผมถามว่าพ่อผมอยู่ไหน!"
"ท่านประธานเหรอคะ?" เลขาพอรู้อยู่บ้างว่าท่านมีลูกชาย แต่ก็ไม่เคยเห็นหน้า เพราะเธอเป็นเลขาที่เพิ่งจะมาใหม่ได้แค่ไม่กี่เดือน
"ท่านมีนัดค่ะ"
"กับใคร? ที่ไหน??"
"เออ.."
"กับผู้หญิงใช่ไหม บอกผมมาว่าที่ไหน!!"
"ฉันไม่กล้าบอกหรอกค่ะ"
"ได้ถ้าไม่กล้าบอก พรุ่งนี้หางานใหม่ทำได้เลย"
"คงจะเป็นที่บ้านค่ะ ฉันได้ยินแค่ท่านคุยโทรศัพท์" ใช่แล้วสิ่งที่เลขาได้ยินก็คือ สำราญบอกให้คนในสายรออยู่ที่บ้าน แถมคำพูดคำจายังหวานหยดย้อย
"ที่บ้าน?" ถ้าเป็นบ้านของแม่คงไม่ใช่แล้ว ..หรือว่าจะเป็นบ้านหลังนั้น เขานึกขึ้นได้ว่าพ่อมีบ้านอีกหลัง ซึ่งบ้านหลังนั้นเขาเคยไปมาแล้ว..และก็เคยเห็นท่านอยู่กับ...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สยบรัก