"ผมคิดว่าเราควรจะจัดระบบระเบียบของพนักงานต้อนรับใหม่ดีกว่าไหมครับ"
กึก!! เสียงของในมือของหัวหน้าแผนกต้อนรับถึงกับตกพื้น
"ยังไงเหรอครับท่าน" ผู้จัดการใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างกายก็รีบถามกลับ
"แผนกต้อนรับเป็นหน้าเป็นตาของบริษัท เราควรที่จะหาบุคคลที่เชื่อถือได้มารับตำแหน่งนี้ ยิ่งเป็นหัวหน้าแผนกแล้วก็ยิ่งต้องดูให้ดี" สายตาของภูธรมองไปดูป้ายที่เหน็บอยู่ หน้าอก ก็เห็นแล้วว่าเธอคนนี้คือหัวหน้าแผนก
"ดิฉันขอโทษค่ะ ดิฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร ถ้าดิฉันรู้จะไม่ทำแบบนั้นเลยค่ะ" หัวหน้าแผนกรีบยกมือขึ้นไหว้ ขอโทษขอโพย
"มันเรื่องอะไรกันแน่" ผู้จัดการใหญ่ หันไปหาคนที่กำลังตื่นตูมอยู่
"ท่านเข้ามาเมื่อวานนี้ มาถามหาท่านประธานค่ะ"
"แล้วเธอก็ไม่แจ้งขึ้นไปข้างบนเหรอ" ผู้จัดการยังคงสอบถามต่อ
"แจ้ง..ค่ะ" ตอบแบบตะกุกตะกัก
"แจ้งหรือไม่แจ้งเดี๋ยวก็รู้" ภูธรพูดเหมือนว่าจะตรวจสอบ เพราะเมื่อวานนี้เขาก็ได้แอบสังเกตอยู่ ว่าเธอคนนี้ไม่ได้ติดต่อไปที่ไหนเลย
"ขอโทษจริงๆ ค่ะ ดิฉันไม่ได้แจ้ง"
"แค่แจ้งหรือไม่แจ้งขึ้นไปเธอยังโกหกเลย แบบนี้คงให้ทำงานด้วยกันไม่ได้แล้วมั้ง"
"ดิฉันมีลูกต้องเลี้ยงอย่าให้ดิฉันออกเลยนะคะ ดิฉันจะพยายามทำงานให้ดีกว่านี้"
โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง..
พอผลออกมาแน่ชัดแล้วว่าภรรยาของเขากำลังตั้งครรภ์ มันทำให้คนที่กำลังจะเป็นพ่อถึงกับยิ้มไม่หุบ
"นี่คือลูกของผมหรือครับ" เหนือตะวันตื่นเต้นมาก ตอนนี้หน้าจอที่เขานั่งมองอยู่ มีก้อนเล็กๆ ที่ขยับไปมา
"ใช่แล้วค่ะ" แล้วคุณหมอก็ชี้ให้ดู ว่าเป็นส่วนไหนของลูกเขาบ้าง ถึงแม้ว่าเด็กในครรภ์จะยังเล็กมาก แต่ก็พอเห็นเป็นตัวเป็นตนแล้ว
"ลูกพ่อ" มือหนากุมมือแม่ของลูกไว้แน่น ทั้งสองมองสบตากัน เพราะความรู้สึกตอนนี้มันยากจะบรรยาย
เย็นวันเดียวกัน.. ที่คฤหาสน์บ้านของเหนือตะวัน
จั๊กจั่นเศร้าลงมาก ใจจริงก็ดีใจกับเพื่อน แต่อีกใจแอบอิจฉา
"เป็นอะไรแม่นกแก้ว..นกขุนทอง"
พอได้ยินคนพูดใกล้ๆ จั๊กจั่นถึงกับมองซ้ายมองขวา เพราะเธอไม่ได้ชื่อนกแก้วหรือนกขุนทอง
"คุณนายแม่พูดกับฉันเหรอคะ"
"อยู่ด้วยกันสองคนจะให้พูดกับใครล่ะ"
"เปล่าค่ะไม่มีอะไร"
"วันนี้ไม่พูดแจ้วแจ้วอีกแล้วเหรอ"
"ไม่แล้วค่ะกลัวคนเบื่อ"
"ใครเบื่อ" นางไม่เคยมีคนที่จะมาพูดแบบนี้ด้วยสักครั้ง พอเห็นจั๊กจั่นแล้วก็รู้สึกเอ็นดู
จั๊กจั่นไม่ตอบอะไร เพราะมันเป็นเรื่องที่น่าอับอาย ขอเก็บไว้คนเดียวก็พอแล้ว
"คุณนายแม่คะ" เธอก็เลยพาคุณนายแม่ของเธอเปลี่ยนอารมณ์
"อะไร"
"คุณนายแม่เคยกินตำมะขามอ่อนไหมคะ"
"อะไรของเธอ ฉันจะตามอารมณ์เธอทันไหมเนี่ย"
"จั๊กจั่นเห็นหลังบ้านมีต้นมะขาม ลูกเล็กๆ มันกำลังออก..ถ้าเราเอามาตำผสมกับใบอ่อน แบบนี้เลยนะคะคุณนายแม่" หญิงสาวยกโป้ขึ้น เหมือนให้รู้ว่ามันสุดยอด
"เอากับเด็กคนนี้สิเมื่อกี้ยังนั่งเศร้าอยู่เลย" ประไพได้แต่มองตามหลังไป นางยังไม่บอกเลยว่าอยากจะกินกับเธอไหม
เวลาผ่านไป..
"แม่กำลังทำอะไรอยู่ครับ" เหนือตะวันพาภรรยากลับมาถึงบ้าน ก็เห็นแม่ของเขากำลังทำอะไรกับจั๊กจั่นอยู่สักอย่าง ที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้าน
พอเห็นแบบนี้ น้ำลายของมิลานถึงกับสอออกมา
"เราจะไปทำไม"
"ไม่รู้เหมือนกันแต่อยากจะไป"
เหนือตะวันก็เลยยอมให้จั๊กจั่นขึ้นรถมาด้วย ส่วนมิลานขอไม่ตามมา เพราะรู้สึกเวียนหัว
[คอนโดหรู]
ทั้งสองขึ้นมาชั้นบนพร้อมกัน
"โทรตามกูมามีอะไรวะ"
"ก็เห็นมึงหายเงียบ.. ยังอยู่อีกเหรอ" ทีแรกคิดว่าเหนือตะวันมาคนเดียว พอเห็นอีกคนเดินตามหลังเข้ามา เสกสรรถึงกับเปลี่ยนคำพูด
"ทำไมพี่เสกถึงพูดแบบนี้"
"ขอร้องล่ะ กลับบ้านนอกไปซะ"
"ถ้าฉันกลับไปพี่ก็ต้องกลับไปด้วยสิ"
"เธอจะอะไรกับฉันนักหนา"
"ทีตอนอยากได้ พูดคำหวานสารพัด!"
"ใจเย็นน่าาค่อยพูดค่อยจากัน" ตอนนี้ทุกคนอยู่ในห้อง แม้กระทั่งมะลิซ้อน และมกราต่างก็รีบลุกขึ้นมาเป็นกรรมการ
"มันก็ตามภาษาผู้ชาย ถ้าผู้หญิงไม่ให้ เขาจะเอามาได้ไหม"
"พี่เสก!!"
"อะไร!!"
"ได้! ถ้าอย่างนั้นพี่กล้ากลับหมู่บ้านกับฉันไหม กลับไปบอกพวกผู้ใหญ่"
"ทำไมกูจะไม่กล้าวะ! กลับตอนนี้เลยไหม!!"
จั๊กจั่นแค่เอาผู้ใหญ่มาขู่ เพราะรู้ดีว่าเสกสรรกลัว แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะไม่กลัวแล้ว แถมยังท้าให้กลับตอนนี้เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สยบรัก