พอตกเย็นมาเรียค่อยค่อยลืมตาตื่นขึ้นมา หญิงสาวจึงนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เธอกำลังนอนอยู่ที่ห้องทำงานของท่านประธาน
เมื่อหญิงสาวค่อยค่อยลืมตาตื่นขึ้นมาโซฟาใหญ่ฝั่งตรงกันข้ามกับเธอกลับเห็นร่างของท่านประธานกำลังนอนหลับในท่าสบายอยู่ตรงข้ามกับเธอ
"ท่านประธานก็ง่วงเหมือนกันเหรอเนี่ย"
มาเรียได้แต่พูดคนเดียวเบาเบาก่อนที่จะยกนาฬิกาข้อมือของตัวเองขึ้นมาดูหญิงสาวก็ได้ดูว่านี่เกือบ 6 โมงเย็นแล้วมาเรียจึงรีบลุกแล้วหยิบถุงยาและกระเป๋าสะพายของตัวเองเดินออกจากห้องทำงานท่านประธานทันที
เมื่อหญิงสาวเดินออกมาก็ได้พบกับแวนซึ่งรออยู่ที่หน้าห้องทำงานของท่านประธาน
"อ้าวมาเรียกลับแล้วเหรอ ?
ลูกน้องคนสนิทของท่านประธานเอ่ยถาม
"ค่ะพี่แวนกลับแล้วค่ะ"
"แล้วเจ้านายของพี่ล่ะทำอะไรอยู่ทำไมป่านนี้ท่านยังไม่ออกมาจากห้องทำงานเลยล่ะ ?
แวนถามด้วยความสงสัย
ชูววววว !!! หญิงสาวเอานิ้วชี้ปิดปากจู๋
"อย่าเสียงดังไปค่ะพี่แวนตอนนี้ท่านประธานกำลังนอนหลับพริ้มอยู่ที่โซฟาห้องทำงานค่ะ มาเรียตื่นจึงรีบหยิบของแล้วแอบย่องออกมาค่ะกลัวท่านประธานตื่นแล้วจะออกอาการเกรี้ยวกราดค่ะ"
มาเรียพูดพร้อมกับหัวเราะใส่แวนซึ่งแวนเองก็อดขำไม่ได้
"อีกนานละคะกว่าท่านประธานจะตื่น...พี่แวนยืนรอต่อไปเถอะนะคะ 555"
มาเรียทำน่าขำแล้วก็โบกมือบ๊ายบายให้กับลูกน้องคนสนิทท่านประธานแล้วหญิงสาวก็กดลิฟต์ ลงด้านล่างทันทีเพราะตอนนี้ได้เวลาเลิกงานของเธอแล้ว
มาเรียออกไปจากห้องทำงานได้ไม่นานตอนนี้เสียงโทรศัพท์ของท่านประธานชาคริตก็ดังขึ้น
กริ้งงงงง !!!
เมื่อเสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มดังขึ้นจึงทำให้เขารู้สึกตัวแล้วลุกขึ้นมานั่งที่โซฟาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูจึงได้รู้ว่าเบอร์โทรศัพท์เป็นแม่ของเขาที่โทรมานั่นเอง ชาคริตสายศีรษะเบาเบาก่อนที่จะรับโทรศัพท์
"สวัสดีครับคุณแม่"
"นี่มันเกือบจะ 6 โมงแล้วนะเรานัดกัน 6 โมงเย็นนะลูก...ตอนนี้อยู่ไหนแล้วเนี่ย !?
ผู้เป็นแม่ถามลูกชายด้วยความอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องเลขาสาวที่สมจิตได้เล่าให้กับคุณหญิงรัชนีได้ฟัง
"ครับคุณแม่กำลังจะออกจากบริษัทครับ"
"รีบมาเลยนะพ่อกับแม่รออยู่"
ผู้เป็นแม่บอกลูกชายอย่างมีเลศนัย
"ครับคุณแม่ออกไปเดี๋ยวนี้ล่ะครับ"
เมื่อวางสายโทรศัพท์จากผู้เป็นแม่เรียบร้อยตอนนี้สายตาคมของชาคริตก็กวาดตามองรอบห้องทำงานของตัวเองก็ไม่เจอแม้แต่เงาของเลขาสาว เขาจึงได้สอดสายตามองหาถุงยาของผู้ป่วยและกระเป๋าสะพายของหญิงสาวแต่ก็ไม่เจอ
"สงสัยแอบกลับบ้านไปแล้วแน่เลย"
ชาคริตได้แต่บ่นพึมพำคนเดียวเมื่อเห็นเป็นแบบนี้แล้วชายหนุ่มจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกมาจากห้องทำงานของตัวเอง
"แวนมาเรียกลับไปนานหรือยัง ?
เค้าถามลูกน้องคนสนิทในขณะที่เดินออกมาจากห้องทำงานแล้ว
"กลับไปสักพักแล้วครับเจ้านาย...เธอเห็นว่าเจ้านายกำลังหลับอยู่ก็เลยไม่อยากจะปลุกรบกวนเจ้านายครับ"
"อืม ...... ไม่เป็นไร "
"ครับเจ้านาย"
แวนทำความเคารพชาคริต
"วันนี้กลับบ้าน"
ชาคริตออกคำสั่ง
"ครับเจ้านายคุณผู้หญิง LINE มาตามผมเมื่อสักครู่นี้ครับท่าน LINE มาสอบถามว่าเจ้านายทำอะไรอยู่ผมก็เลยบอกไปว่าหลับอยู่ครับ"
แวนรายงานเจ้านายตัวเอง
"อืม...."
ที่คฤหาสน์โวลตูรี่
"สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่"
เมื่อเดินเข้ามาภายในบ้านลูกชายก็ทำความเคารพพ่อกับแม่
"พ่อบอกเราไว้ก่อนเลยนะเจ้าคริต ถ้ายังหาเมียเป็นตัวเป็นตนไม่ได้อยู่แบบนี้แม่นายจับนายคุมถุงชนกับเพื่อนเขาจริงๆนะ"
"แล้วทำไมลูกต้องขับรถให้เธอนั่งด้วยล่ะ ?
ผู้เป็นแม่ก็ยังคงถามลูกชายต่อไปด้วยความที่อยากรู้และยังไม่หายสงสัยนั่นเอง
"ก็เพราะว่าผมรู้สึกผิดไงครับคุณแม่ผมก็เลยต้องดูแลเธอนิดหน่อย"
"แล้วลูกรู้สึกผิดเรื่องอะไรล่ะ?
ตอนนี้ผู้เป็นแม่กำลังทำหน้าฉงนและสงสัยเป็นที่สุด
"เรื่องมันยาวนะครับคุณแม่ เอาเป็นว่ามาเรียต้องเจ็บตัวเพราะ ผู้หญิงในสต๊อกของผมครับ เขาทำเธอหัวร้างข้างแตกผมก็เลยต้องพาเธอไปโรงพยาบาลและต้องยกเลิกการประชุมในวันนี้ด้วย"
"ถ้าเรื่องมันยาวมากก็ไม่ต้องเล่าก็ได้นะลูกอันที่จริงพ่อก็ไม่ได้อยากจะรู้เรื่องราวของหนุ่มสาวสักเท่าไหร่หรอก...ผมว่าเราเรียกให้ลูกมาทานข้าวด้วยกันเราก็ควรจะไปทานข้าวได้แล้วเดี๋ยวข้าวมันเย็นชืดหมด"
ผู้เป็นพ่อพูดพร้อมกับพยักหน้าให้กับลูกชาย
"ก็ได้ค่ะทานอาหารไปด้วยคุยไปด้วยก็ได้"
ผู้เป็นแม่ยังไม่หยุดความคิดที่จะซักใส่ไล่เรียงลูกชายตัวเอง
"โถ่ ! คุณแม่ครับมันไม่ได้มีอะไรอย่างนั้นเลยคุณแม่อย่าคิดมากไปเองฝ่ายเดียวเลยนะครับเดี๋ยวจะพะวงเอาเสียเปล่าเปล่าเสียเวลา Shopping ของคุณแม่หมดครับ"
"ก็แม่อยากรู้เรื่องของลูกชายแม่นี่นาว่าเมื่อไหร่แม่จะได้ข่าวดีมีหลานให้อุ้มเสียที"
"คุณแม่ครับตอนนี้เนื้อคู่ผมยังไม่เกิดเลยไม่ต้องรีบก็ได้ครับ"
"แล้วเราจะรอไปถึงเมื่อไหร่ล่ะฮะ...แม่น้อยใจแล้วนะ...ลูกเพื่อนแม่ทุกคนเค้าก็ได้อุ้มหลานกันเกือบทุกคนแล้วสำหรับลูกชายคนโตลูกสาวคนโตของบ้านแต่แม่มีลูกชายคนเดียวกลับไม่มีหลานให้แม่อุ้มซะงั้น...แม่น้อยใจแล้วนะแล้วแม่ก็เหงาด้วย"
ผู้เป็นแม่พูดพร้อมกับทำหน้าหงิกแบบเอาแต่ใจตัวเอง
"คุณไม่ต้องเหงาหรอกถ้าคุณเหงาเดี๋ยวผมจะพาไปเที่ยวรอบโลกอีก"
สามีบอกภรรยาเพื่อปลอบใจ
"มันไม่เหมือนกันนี่คะคุณ การไปเที่ยวมันก็มีความสุข แต่ว่าถ้าการได้อุ้มหลานจะมีความสุขมากกว่าได้เที่ยวรอบโลกอีกนะคะ"
ผู้เป็นภรรยาบอกสามีพร้อมกับทำหน้าง้ำ พ่อของชาคริตได้แต่เดินไปโอบไหล่ภรรยาแล้วจุ๊บที่แก้ม
"ไปทานข้าวกันก่อนเถอะนะคุณจะได้คุยไปด้วยไง "
คุณหญิงรัชนีได้แต่พยักหน้าให้กับสามีแล้วทุกคนก็เดินไปที่ห้องอาหารเพื่อทานมื้อค่ำอย่างมีความสุข
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานไร้ใจ