ที่ห้องอาหาร
"สรุป คือตอนนี้ลูกชายของแม่ยังไม่มีแฟนใช่ไหม"
ผู้เป็นแม่ยังคงถามย้ำกับลูกชาย
"ใช่ครับคุณแม่...ตอนนี้ผมโสดสนิทครับ"
"ถ้ายังงั้นแม่เองก็ขอยืนยันเหมือนกันว่าถ้าลูกยังโสดอยู่แบบนี้แม่คงต้องจับลูกแต่งงานกับเพื่อนแม่แล้วจริงๆนะ...เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่จะนัดเดทให้กับน้องแตงโม"
ผู้เป็นแม่ออกคำสั่งตอนนี้เริ่มเครียด
"อะไรนะครับคุณแม่คุณแม่ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจแบบนี้อีกเหรอครับ"
ลูกชายบทตัดพ้อไม่ได้
"ผมว่าตอนนี้ลูกยังไม่เจอเนื้อคู่ผมว่าคุณใจเย็นก่อนดีกว่า"
ผู้เป็นสามีปรามภรรยาตัวเองเบาๆ
"คุณคะลูกคนอื่นเค้ามีหลานกันสามสี่คนแล้วนะคะแต่ลูกเรานี่สิเดี๋ยวว่าแต่หลานเลยเมียยังไม่มี"
ผู้เป็นแม่มีสีหน้าบึ้งตึง ตอนนี้ที่โต๊ะอาหารเริ่มเครียดขึ้นมาอีกครั้ง ผู้เป็นสามีได้แต่ถอนหายใจเพราะขัดภรรยาไม่ได้
"ไม่รู้แหละไม่ว่ายังไงก็ช่างแม่ให้เวลาลูกภายในสามเดือนต้องหาเมียให้ได้ ถ้าหาไม่ได้แม่จะจับเราแต่งกลับลูกสาวเพื่อนแม่ซักคนหนึ่งแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นถ้าแม่บอกว่าผู้หญิงคนนั้นคือใครไม่ว่ายังไงลูกก็ต้องแต่งงานด้วย ถ้าไม่ยังงั้นแม่กับลูกก็ตัดขาดกัน แค่นี้แม่จะกลั้นใจตายเลยถ้าลูกไม่ยอมแต่งงานและไม่ยอมมีเมีย หึ !
เมื่อพูดจบแม่ก็เดินลุกออกจากโต๊ะอาหารทันที
"คุณแม่ครับ...คุณแม่ !
ลูกชายได้แต่ตะโกนแล้วรีบวิ่งตามผู้เป็นแม่ออกไป
"ไม่ต้องมาตามแม่กลับไปคิดให้ดี ตอนนี้แม่จริงจังนะ รู้บ้างไหมว่าแม่ทุกข์ใจขนาดไหนและแม่ก็รับรู้มาโดยตลอดที่ลูกต้องอกหักจากผู้หญิงคนเก่า แต่ลูกจะไม่ให้โอกาสผู้หญิงคนอื่นบ้างเลยเหรอ ไม่ให้โอกาสแม่ได้อุ้มหลานบ้างเลยเหรอ ? ภายในสามเดือนลูกค่อยพาเมียมาหาแม่ก็แล้วกัน แต่ถ้าภายในสามเดือนยังหาเมียเป็นตัวเป็นตนไม่ได้มายืนยันกับแม่ แม่ก็จะกลั้นใจตายแล้วเราก็ไม่ต้องมาพบเจอกันอีกเลย !
" โถ่ ! คุณแม่ครับ !
"ไม่ต้องมาเรียกแม่...รีบไปหาเมียเป็นตัวเป็นตน แล้วพามาหาแม่...แล้วนับจากวันนี้ไปลูกไม่ต้องมาเจอแม่อีกจนกว่าลูกจะพาเมียมาหาแม่...แล้วไม่ต้องตามมาอีกแล้วนะแม่ต้องการพักผ่อน หึ !
คุณหญิงรัชนีพูดกับลูกชายก่อนที่จะสะบัดหน้าเดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านเพื่อกลับเข้าห้องนอนของตัวเองอย่างอารมณ์เสีย
ส่วนชาคริตตอนนี้ได้แต่ยืนคอตกแล้วมองผู้เป็นแม่เดินขึ้นห้องนอนของท่านไป
ชาคริตได้แต่เดินกลับมาหาผู้เป็นพ่อที่ห้องอาหารผู้เป็นพ่อได้แต่มองหน้าลูกอย่างเห็นใจ
"เป็นไงล่ะ ? แม่เราเค้าก็เอาแต่ใจแบบนี้ล่ะ แต่ที่แม่เค้าพูดก็ถูก ลูกอย่าให้ผู้หญิงคนเก่ามาทำร้ายความสุขในอนาคตของลูกสิ ผู้หญิงทุกคนในโลกนี้ไม่ได้เลวร้ายเหมือนกันหมดนะ ดูอย่างแม่ของลูกสิจริงไหม ?
"ครับคุณพ่อ"
ชาคริตยังคงเงียบและเศร้า
"เอาน่ะทานอาหารกันสองคนพ่อลูกก็ได้...พ่อเอาใจช่วยนะ"
ผู้เป็นพ่อยังคงยิ้มให้กับลูกชายและเลือมือไปตบไหล่ลูกชายเบาเบา
"ครับคุณพ่อ"
แล้วทั้งสองคนพ่อลูกก็ลงมือรับประทาน กันอย่างเงียบเงียบกันสองคน
หลังจากทานอาหารเสร็จชาคริตก็ไปหามาเรียที่คอนโดด้วยโทรทัศน์เรื่องส่วนตัวของเขา
ติ่งหน่อง
เสียงกระดิ่งที่ห้องคอนโดของมาเรียดังขึ้นหญิงสาวจึง เปิดกล้องวงจรปิดที่อยู่หน้าห้องคอนโดของมาเรียดูหญิงสาวถึงกับต้องเอามือทาบที่หน้าอกของตัวเองเพราะเธอตกใจที่จู่ๆท่านประธานก็มาหาหญิงสาวที่คอนโด มาเรียรีบเปิดประตูเพราะกลัวโดนท่านประธานดุเอา
"สวัสดีค่ะท่านประธาน"
"เธอทานอาหารเองด้วยเหรอ"
"ใช่ค่ะท่านประธาน บางวันถ้ากลับดึกดิฉันก็กลับมาทานอาหารที่บ้านค่ะ"
"เธอคงทำอาหารอร่อยสินะเห็นอุปกรณ์เครื่องครัวมีครบครันเลย ?
"ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะท่านประธาน...ดิฉันพอทำได้ค่ะ"
มาเรียพูดและอมยิ้มเล็กน้อยและหญิงสาวยังไม่ลืมที่จะรักษาระยะห่าง
แต่ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันมาเรียก็รู้สึกร้อนผู้ว่าบตามเนื้อตัว ส่วนท่านประธานเองก็ร้อนไปทั่วตัวเช่นเดียวกัน
"ทำไมฉันร้อนแบบนี้เนี่ย...มาเรียเธอไม่เปิดแอร์เหรอ !?
"เปิดแล้วนะคะท่านประธานเปิด 20 ด้วยค่ะ...แต่ดิฉันว่าดิฉันเองก็ร้อนเหมือนกันค่ะ"
ตอนนี้มาเรียรู้สึกร้อนวูบวาบตั้งแต่ท้องน้อยจนถึงหน้าอก ท่านประธานเองตอนนี้เค้าก็ได้รู้แล้วว่าเค้าต้องโดนวางยาอย่างแน่นอน
"นี่มาเรียเธอกล้าวางยาปลุกเซ็กฉันเหรอ ?
ชาคริตถามด้วยความโมโห
"ไม่นะคะท่านประธาน...ดิฉันไม่ได้ทำแบบนั้นเลย !
หญิงสาวตกใจในขณะที่ท่านประธานกล่าวหาเธอ
"ถ้าเธอไม่ได้ทำแบบนั้นแล้วทำไมฉันรู้สึกเหมือนโดนวางยาแบบนี้ล่ะ...เธอไม่ต้องมาโกหกนะ...ฉันเคยโดนมาก่อน ! นี่เธออยากเป็นเมียฉันอยากนอนกับฉันขนาดนั้นเลยเหรอถึงได้วางยาฉันเนี่ย !?
เสียงของชาคริตเริ่มขาดหายแหบพร่า ส่วนมาเรียเองตอนนี้หญิงสาวกค่อยๆ ปลดเปรื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ของตัวเองออกเนื่องจากหญิงสาวเองก็รู้สึกร้อนและเริ่มมีความต้องการ
ส่วนชาคริตเองตาก็เริ่มพร่ามัวและความต้องการของท่านประธานเองก็เริ่มบังเกิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานไร้ใจ