เคธี่หัวเราะออกมาอย่างมีความสุขเมื่อเธอได้ฟังคำตอบของเนลล์
เธอมองดูหน้าท้องของเนลล์และสงสัยว่าจะเป็นอย่างไรตอนที่ทารกคลอดออกมา
เธอไม่มีลูก ลูกคนเดียวที่เธอให้กำเนิดเสียชีวิตไปอย่างกะทันหัน
ทำให้เธอเสียใจที่ไม่มีลูกแท้ ๆ ถึงแม้ว่าเนลล์จะปรากฏตัวในภายหลังก็ตาม
อย่างน้อยเธอก็ทำใจแล้ว เพราะเรื่องราวเหล่านั้นได้เป็นอดีตไปแล้ว
หลังจากที่ตัดสินใจได้แล้ว พวกเธอจึงเก็บสัมภาระและไปหาฌอน
ก่อนที่จะไปหาฌอน เนลล์ได้ไปหากิดเดียนและบอกข้อเสนอนี้กับเขา
กิดเดียนที่ได้ฟังก็เห็นด้วยกับความคิดที่ให้เคธี่กลับบ้านไปกับพวกเขา
ส่วนฌอนนั้น เขาคงไม่ขัดข้องถ้าเคธี่อยากไป
ดังนั้นพวกเขาจึงไปหาฌอน
เมื่อฌอนทราบว่าเคธี่จะกลับไปกับเนลล์ สีหน้าของเขาก็หม่นลง
เนลล์จึงเกลี้ยกล่อมเขา “คุณแม่อยู่ที่นี่คนเดียวค่ะ อีกทั้งคุณลุงเองก็อยู่กับคุณแม่ตลอดเวลาไม่ได้ ด้วยสุขภาพของคุณแม่ในทุกวันนี้ก็คงไม่เหมาะที่คุณแม่จะออกไปหาเพื่อนอีกด้วย คุณลุงปล่อยให้คุณแม่อยู่ตัวคนเดียวทุกวันราวกับคุณแม่เป็นของประดับบ้านไม่ได้ แบบนั้นมันไม่ดีต่อสุขภาพของคุณแม่ค่ะ หนูทราบดีว่าคุณลุงฌอนรักคุณแม่ค่ะ เพราะแบบนี้หนูจึงมั่นใจว่าคุณลุงจะยอมและให้คุณแม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับท่านได้ไหมคะ?"
อันที่จริงคำพูดของเนลล์แทงใจดำฌอน
เขารักเคธี่ด้วยใจจริง เขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ
น่าเสียดายที่ในตอนนั้นเธอแต่งงานแล้ว เมื่อทราบว่าเธอเป็นภรรยาของคนอื่น ฌอนรู้สึกได้เพียงผิดหวัง
ในเวลาต่อมาเคธี่ถูกซิลเวีย วอร์กเกอร์กับฌอร์น เจนนิ่งหลอกให้ติดกับ เธอจึงประสบอุบัติเหตุ โชคชะตาพลิกผันให้ฌอนได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้และพาเธอเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมายังต่างประเทศ ซึ่งพวกเขาทั้งคู่ที่ครองรักและมีความสุขกัน
ถึงแม้ว่าเคธี่จะอยู่กับเขาเหมือนเดิมดังที่เขาต้องการ ทว่าเขาเข้าใจว่าลึกลงไปแล้วมีบางอย่างในชีวิตของเคธี่ที่ขาดหายไป
เธอไม่ควรปลีกตัวมาอยู่กับเขาเพียงลำพังราวกับกบในกะลาที่ไม่รับรู้ถึงโลกภายนอก
เคธี่เกิดมาเพื่อใช้ชีวิตโดยมีผู้คนรายล้อม เธอต้องการความรักและเอาใจใส่ มีลูกหลานมากมาย ซึ่งเป็นชีวิตแบบคนธรรมดา
เธอไม่ควรมาติดอยู่ที่นี่ ทั้งทำตัวราวกับรูปปั้นที่รอให้สามีกลับมา จากนั้นก็ใช้ชีวิตที่น่าเบื่อต่อไป
ขณะที่เขาครุ่นคิด ท่าทางของฌอนก็อ่อนลง
เขามองไปที่เนลล์ก่อนจะพูดขึ้น “หนูมั่นใจใช่ไหมว่าหนูจะดูแลเคธี่ได้เป็นอย่างดีหลังจากที่เธอกลับบ้านไปกับหนู?”
“หนูมั่นใจค่ะ” เนลล์ตอบโดยไม่ต้องคิด จากนั้นจึงให้สัญญา “หนูสัญญาค่ะว่าหนูจะดูแลคุณแม่เป็นอย่างดี อย่างไรเสีย หนูก็รักแม่มากกว่าคุณค่ะ ไม่มีทางที่เราจะทำร้ายท่าน”
ฌอนพยักหน้ารับ
เนลล์พูดต่อ “จริง ๆ แล้วถ้าคุณลุงมิลเลอร์ไม่ลำบากใจ คุณลุงไปกับเราได้นะคะ ทั้งทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของประเทศบ้านเกิดของเราเอื้ออำนวยต่อการวิจัยของคุณลุงมากกว่า แบบนี้คุณลุงจะได้ไม่ต้องอยู่ห่างจากคุณแม่ แถมยังได้ทำในสิ่งที่คุณลุงรักอีกด้วย ได้ผลประโยชน์กันทั้งสองฝ่ายเลยนะคะ”
ฌอนกลับยิ้มด้วยความเศร้าพลางส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรหรอก ลุงไม่ไป ยังมีโครงการในห้องแลปอีกมากที่ยังไม่เสร็จ จะเป็นอย่างไรล่ะถ้าลุงไม่อยู่? นอกจากนี้...”
เขาชำเลืองมองไปที่เคธี่แล้วพูดขึ้น “อย่างไรก็ตามลุงขัดใจเคธี่มาหลายปีแล้ว ลุงคิดอยู่เสมอว่าต้องมีเธออยู่เพราะลุงรักเธอ แต่ลุงไม่เคยสังเกตเลยว่าเธอรู้สึกเหงามากแค่ไหน ลุงล้มเหลวในฐานะสามี”
เคธี่ทนเห็นเขาเป็นแบบนี้ไม่ได้ เช่นนั้นเธอจึงพูดขึ้น “ฌอนคะ อย่าพูดแบบนั้น ถ้าไม่ได้คุณฉันคงตายไปแล้ว ฉันไม่เคยโทษคุณ...”
ถ้าเขากลับไปยังประเทศจีนและกิดเดียนให้ทุนสนับสนุนการวิจัยของเขาจริง ๆ คงจะเป็นเรื่องดี
ขณะที่เขากำลังไตร่ตรองข้อเสนอนี้ เขาก็มองไปที่กิดเดียนดวงแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง
“คุณพูดจริง ๆ ใช่ไหม? คุณจะให้เงินทุนลุงทุกปีเพื่อทำการวิจัยต่อไปใช่ไหม?”
“แน่นอนครับ”
กิดเดียนระบายยิ้ม “เรากำลังคุยกันเรื่องการวิจัยทางการแพทย์นะครับ ผลการวิจัยจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศรวมถึงประชาชน ดังนั้นผมควรสนับสนุน”
ฌอนพยักหน้ารับ
“เอาล่ะ ขอลุงเก็บข้อเสนอของคุณไปคิดในคืนนี้นะ แล้วพรุ่งนี้ลุงจะให้คำตอบ”
“ได้ครับ แต่คุณลุงมีเวลาคิดแค่คืนเดียวนะครับ เมื่อคุณลุงตัดสินใจได้และตกลง ผมจะสั่งให้สร้างห้องทดลองให้คุณลุงทันที ถึงตอนนั้นคุณลุงจะถอนตัวทีหลังไม่ได้แล้วนะ”
“เข้าใจแล้ว”
หลังจากที่ฌอนตอบแล้ว เขาโบกมืออย่างกังวลใจเพื่อให้คนอื่น ๆ ออกไป
เนลล์สังหรณ์ใจว่ามีความเป็นไปได้มากว่าเขาจะตอบตกลง
หญิงสาวโอบแขนของเคธี่พลางพูดขึ้นด้วยความสบายใจ “คุณแม่ไม่ต้องกังวลแล้วนะคะ ถ้าคุณลุงฌอนกลับไปกับเรา เราจะได้กลับมาอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว”
เคธี่พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย เธอเองก็พอใจกับทางออกนี้
เธอหันไปหากิดเดียนพลางส่งยิ้มให้เขา “ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะกิดเดียน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก