เนลล์อดที่จะหดหู่ใจไม่ได้
เธอมองถ้วยชาที่สาวใช้นำมาให้แล้วแอบคิดว่าต้องมีอะไรผสมอยู่ในนั้น
สาวใช้พูดขึ้นอย่างสุภาพและนุ่มนวลเมื่อเธอเห็นว่าเนลล์นั่งนิ่งไม่ไหวติง “คุณเจนนิงส์คะ ชาของคุณค่ะ”
ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใส่อารมณ์กับสาวใช้เพราะเธอไม่ได้ทำอะไรผิด
เนลล์จึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “วางทิ้งไว้ตรงนั้นแหละ”
หญิงสาวพูดตรง ๆ โดยไม่แม้แต่จะละสายตาออกจากถ้วยน้ำชา
สาวใช้เม้มริมฝีปากไม่กล้าแม้แต่จะปริปากพูดอะไรออกไป ก่อนจะวางถ้วยชาลงแล้วเดินออกไป
เหลือเพียงเนลล์อยู่ในห้อง หญิงสาวนั่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่ขยับเขยื้อนขณะที่เธอสำรวจภายในห้อง มันถูกตกแต่งอย่างหรูหรา ทว่าก็ไม่มากจนเกินงาม
หญิงสาวนับกล้องที่มองเห็นได้อย่างน้อยสี่ตัว
‘เจฟฟ์ ฟลินเดอร์ทำบ้าอะไรของเขานะ?’
เนลล์ไม่ได้โง่ เจฟฟ์เป็นคนมีอิทธิพล ไม่มีทางที่เขาจะจับเธอมาล่ามโซ่เพียงเพื่อความสนุกเท่าหรอก
ก็ใช่ที่เธอเป็นเพื่อนของเกรกอรี่และวิกกี้ ทว่าเธอไม่ได้สนิทกับเจฟฟ์ ฟลินเดอร์เลย เขาไม่ได้ผลประโยชน์อะไรจากการกระทำแบบนี้ บริษัทลีย์ คอร์ปอเรชั่น และตระกูลฟลินเดอร์มีความเกี่ยวข้องกันน้อยมาก และไม่มีความเกี่ยวข้องกันในทางธุรกิจอีกด้วย
นั่นทำให้เกิดคำถามว่าเขากำลังวางแผนอะไรอยู่?
ขณะที่เนลล์กำลังพยายามปะติดปะต่อเรื่องราว เสียงสะอื้นก็ดังขึ้นมาจากข้างนอกประตู
“เนลลี่...”
เนลล์ชะเง้อมองแล้วจำเสียงนั้นได้ทันที “คุณแม่ หนูอยู่นี่ค่ะ!”
“เนลลี่!” เคธี่วิ่งเข้ามาพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น
คงเป็นเพราะเคธี่อายุมากแล้วและไม่มีทางสู้ เจฟฟ์จึงไม่ได้เฝ้าระวังเธอเข้มงวดนัก อย่างน้อยก็เห็นได้จากการที่เธอไปไหนมาไหนได้โดยไม่ถูกโซ่ล่ามเอาไว้
เมื่อเห็นเนลล์ เคธี่มองราวกับได้พบพี่น้องที่พลัดพรากกันไปนานพลางประคองใบหน้าของลูกขึ้นทันทีแล้วลูบเบา ๆ “เนลลี่ใช่ไหม?! พระเจ้าช่วย! ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า?”
เนลล์ส่ายหน้า “หนูไม่เป็นไรค่ะ”
เธอรีบสำรวจดูว่าเคธี่เป็นอะไรหรือเปล่าแล้วก็โล่งอกเมื่อพบว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บที่ตรงไหน
“คุณแม่ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ? พวกมันทำร้ายคุณแม่หรือเปล่า? ไม่สบายตรงไหนไหมคะ?”
“ไม่เลย แม่ไม่เป็นไร”
ผู้เป็นแม่ตอบทว่าร่างกายกลับสั่นเทิ้ม เนลล์ทราบทันทีว่าเป็นเพราะการอยู่แปลกที่ไปกระตุ้นความทรงจำที่เลวร้ายของผู้เป็นแม่โดยไม่รู้ตัว ท่านจึงรู้สึกกลัว
เนลล์ค่อย ๆ ปลอบแม่ “คุณแม่คะ อย่ากังวลไปเลยนะคะ หนูอยู่ตรงนี้แล้ว เราจะปลอดภัยค่ะ”
เคธี่พยักหน้าพลางถามทั้งน้ำตา “เนลล์ พวกมันเป็นใคร? ทำไมพวกมันถึงจับเรามาที่นี่?”
เนลล์เม้มริมฝีปาก ‘เธอควรบอกเคธี่ไหม?’
ถ้าเธอปิดปากเงียบ คุณแม่คงยิ่งกังวลไปกันใหญ่ เนลล์ข่มความรู้สึกเอาไว้
“มัน... มันคือคนที่หนูเคยเล่าให้คุณแม่ฟังก่อนหน้านี้ค่ะ มันตามรังควานเกรกอรี่กับวิกกี้ และตามล่าไหมหยกสวรรค์”
เคธี่จำเรื่องนี้ได้ เธอเล่าให้ฟังตอนที่พวกเธอยังอยู่ที่ประเทศที
เคธี่บอกตัวเอง เมื่อก้มลงมองจึงสังเกตเห็นโซ่ที่ล่ามเนลล์เอาไว้ ดวงตาของเธอหรี่ลง
“เนลลี่ นี่คืออะไรลูก?”
เธอคว้าโซ่ขึ้นมา แววตาเต็มไปด้วยความโกรธ “พวกมันทำกับลูกแบบนี้ไม่ได้! ลูกท้องอยู่! ...”
เนลล์ไม่อยากให้แม่ออกแรงมากเกินไปจึงพยายามปลอบท่าน “คุณแม่คะ หนูปลอดภัยดีค่ะ พวกมันทำแบบนี้เพื่อให้มั่นใจว่าหนูจะหนีไม่ได้ หนูไม่ได้ถูกล่ามจนทำอะไรไม่ได้เลยค่ะ”
เนลล์เม้มปากพลางลดเสียงลงเบาเป็นกระซิบ “มีกล้องวงจรปิดอยู่ในห้องนี้ค่ะ หนึ่งตัวอยู่ด้านหลังคุณแม่บริเวณ 4 นาฬิกา อีกตัววอยู่ที่ 12 นาฬิกา และอีกตัวอยู่ทางขวามือคุณแม่ใกล้กับกระถางต้นไม้ อีกมากกว่าหนึ่งตัวตรงประตู จำเอาไว้นะคะ ถ้าคุณแม่มีโอกาสหาทางปิดกล้องพวกนั้นให้ได้นะคะ”
เคธี่สะดุ้งสุดตัว ทั้งอยากจะหันไปดู ทว่าเนลล์ห้ามเธอเอาไว้
“อย่ามองนะคะ คุณแม่ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ เมื่อมีโอกาสคุณแม่ค่อยแอบดูนะคะ”
เคธี่เข้าใจในสิ่งที่ลูกบอกจึงพยักหน้ารับ หลังจากนั้นเธอทั้งคู่ยังคงอยู่ในห้องด้วยกัน
เจฟฟ์อาจจะไม่ได้ล่ามโซ่เคธี่ แต่ก็ให้คนเฝ้าดูอยู่ข้างนอกตลอด เขาอ้างว่าพวกเธอเป็นสาวใช้ ทว่าเนลล์เห็นกับตาว่าพวกเธอจับตาดูพวกเธออยู่ตรงนั้น
ถึงอย่างไรก็ตาม เธอก็กำลังตั้งครรภ์ ส่วนเคธี่ก็เป็นหญิงชราไม่มีทางสู้ที่ไม่มีพิษภัย
เนลล์ไร้ซึ่งหนทางที่จะหนีพวกมันไป ดังนั้นเธอจึงเลือกใช้วิธีอื่น
โดยต้องสุขุมรอบคอบและใจเย็น เธออยากรู้ว่าเจฟฟ์กำลังวางแผนอะไรอยู่
ในอีกด้านหนึ่ง กิดเดียนกำลังสติแตกด้วยความตกใจ
พวกเขาใกล้จะได้กลับบ้านแล้ว แต่ทว่ากลับมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก