“รู้แล้ว”
คนขับรถรับคำแล้วกลับรถเพื่อขับไปยังเส้นทางอื่น
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ทางด้านของกิดเดียน...
เขากำลังเล่นอยู่กับลูก ๆ แล้วจู่ ๆ ประตูก็เปิดผางออก
ชายผมบลอนด์เดินเข้ามาด้วยแววตาเลือนลอย อีกทั้งศีรษะยังมีเลือดออก
เขาตรงมาหากิดเดียน แล้วทรุดกายลงต่อหน้าชายหนุ่ม
“คะ-คุณนายลีย์ กะ-กับคุณนายเจนนิงส์...เกิดเรื่อง...” ชายคนนั้นหมดสติไปทันทีหลังจากที่พูดจบ
...
เมื่อเนลล์ฟื้นขึ้นมา เธอก็นอนอยู่บนเตียงใหญ่และหรูหรา
หญิงสาวรู้สึกเจ็บที่ท้ายทอยจนสะดุ้ง
เนลล์พยายามยันกายลุกขึ้นนั่ง ทว่าเมื่อเธอขยับแขนขา ก็ได้ยินเสียงโซ่เหล็กกระทบกันดังขึ้น
หญิงสาวใบหน้าซีดเผือด ครั้นหันกลับไปมองก็พบว่าแขนขาของเธอถูกโซ่เส้นหนาสี่เส้นล่ามเอาไว้
ปลายด้านหนึ่งของโซ่พันรอบข้อมือและข้อเท้าของเธอเอาไว้ ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งติดอยู่กับผนังและพื้นเหมือนกับโซ่ที่ใช้ล่ามนักโทษที่ถูกคุมขังในคุกใต้ดินสมัยโบราณ
หญิงสาวใจหาย
ห้องนี้ถูกตกแต่งอย่างหรูหราสไตล์ยุโรปโดยใช้โทนสีขาวและทอง ผ้าม่านเปิดออกเผยให้หญิงสาวเห็นท้องฟ้ายามราตรี
ในสมองของเนลล์เต็มไปด้วยคำถามขึ้นมาทันที
‘นี่เธออยู่ที่ไหนกัน?’
‘เกิดอะไรขึ้น?’
ความทรงจำสุดท้ายคือเธอนั่งอยู่ในรถ แล้วจู่ ๆ ก็มีคนใช้เข็มแทงคอเธอจากใต้เบาะนั่ง
เคธี่เองก็ถูกแทงด้วยเข็มเล่มเดียวกัน
เดี๋ยวนะ แล้วเคธี่อยู่ที่ไหน?
เนลล์มองไปทั่วห้องอย่างร้อนใจ แต่มีเพียงเธอที่อยู่ที่นี่
เคธี่หายไป!
เมื่อหญิงสาวรู้ตัว เนลล์ตกใจมากทั้งพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นนั่งแล้วแผดเสียงเรียก “คุณแม่! คุณแม่คะ คุณแม่อยู่ที่ไหน?!”
“มีใครอยู่ไหม?! พวกแกเป็นใคร? พวกแกพาฉันมาที่นี่ทำไม?!”
“แกกล้าลักพาตัวฉันมา แต่ไม่กล้าเสนอหน้าแกมาให้ฉันเห็นอย่างนั้นเหรอ?!”
“แกต้องการอะไร? เงินเหรอ?! บอกมาสิแล้วฉันจะเอามาให้! ขอแค่ปล่อยแม่ฉันไป!”
เนลล์กรีดร้องอยู่เป็นนาน ทว่าไร้ซึ่งการตอบสนอง
ภายในห้องใหญ่ที่ว่างเปล่านี้ดูเหมือนว่าจะมีเพียงเธอเท่านั้น ยามที่หญิงสาวแผดเสียงกรีดร้อง เธอได้ยินเสียงของตัวเองสะท้อนกลับมาแว่ว ๆ
เนลล์ดูอ่อนแรงจากการถูกพันธนาการ
หญิงสาวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนอกเสียจากเรื่องที่เธอถูกลักพาตัวมา
ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้? พวกมันต้องการอะไร?
ถึงอย่างไรก็ตาม เธอต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง
ทว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอแค่ถูกมัดไว้กับเตียงเท่านั้น อีกทั้งไม่ได้ถูกพาตัวไปที่อื่น ด้วยเหตุนี้ดูเหมือนพวกมันจะอยากให้เนลล์ยังมีชีวิตอยู่
“ขอบคุณอย่างนั้นเหรอ?” เนลล์หัวเราะเยาะ น้ำเสียงของเธอไร้ซึ่งอารมณ์
หญิงสาวชี้ไปที่โซ่ที่ล่ามเธอเอาไว้ “ล่ามฉันไว้แบบนี้ นายยังหวังให้ฉันขอบคุณอีกเหรอ? เจฟฟ์ ฟลินเดอร์ ความคิดของนายมันไม่ต่างอะไรกับฆาตกร อย่าคิดว่าคนอื่นจะคิดอะไรแผลง ๆ เหมือนนาย”
เนลล์ต่อว่าฉอด ๆ และไม่อภัย ทว่าเจฟฟ์กลับไม่สะทกสะท้าน
สีหน้าของเขายังเหมือนเดิมขณะที่เขาระบายยิ้มบาง ๆ “ผมรู้ว่าวิธีที่ผมใช้ออกจะ...ดิบเถื่อนไปสักหน่อย แต่ผมทำในสิ่งที่ผมต้องการ เพราะผมเกรงว่าคุณจะทำสิ่งที่คาดไม่ถึงแล้วกระทบต่อความสัมพันธ์ของเรา ดังนั้นผมต้องขอโทษล่วงหน้า”
เนลล์รู้สึกโกรธที่เขาตอบโต้เธออย่างใจเย็น
เหมือนกับว่าเธอกำลังอาละวาดอยู่คนเดียว มันทำให้เธอยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก
เมื่อเขาพูด เจฟฟ์ปิดบังข้อมูล ทำให้เนลล์ไม่ได้เบาะแสใด ๆ
เธอจำใจทนมองเขาด้วยความรังเกียจ
“แม่ ของฉัน อยู่ ที่ ไหน? นายทำอะไรกับท่าน?”
เจฟฟ์ยิ้มอย่างเป็นมิตร “ไม่ต้องเป็นห่วง คุณมอร์ริสันเป็นแม่ที่คุณเคารพ แน่นอนว่าเราจะดูแลท่านด้วยความเอาใจใส่ ท่านนอนหลับอยู่ข้างล่าง ผมจะพาคุณไปหาท่านเมื่อท่านฟื้น”
หลังจากนั้นเขาจึงออกคำสั่ง “ใครก็ได้เอาชามาให้คุณเจนนิงส์ที”
สาวใช้ที่อยู่ข้างนอกรับคำสั่งแล้วรีบออกไป
เขาหันกลับมาหาเนลล์พลางส่งยิ้ม “ถึงผมจะยังปล่อยคุณออกจากโซ่ไม่ได้ แต่ผมจะไม่ทรมานคุณ ข้างนอกมีสาวใช้ประจำอยู่สองคน ถ้าคุณต้องการอะไร ก็ให้เรียกใช้พวกเธอ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมต้องขอตัว”
เจฟฟ์ชะงักเท้าแล้วมองดูเนลล์ราวกับมีอะไรจะพูดแล้วก็เดินจากไป
หลังจากที่เขาออกไปแล้ว สาวใช้ก็นำชาเข้ามาให้เธอ
แขนและขาของเนลล์จะถูกล่ามโซ่เอาไว้ แต่โซ่ที่ล่ามมีความยาวอยู่มาก ซึ่งทำให้ไม่เป็นอุปสรรคในขยับเพื่อกินหรือดื่ม
เขาเจตนาทำให้เป็นแบบนี้ ด้วยเหตุนี้จึงไม่อาจเป็นข้ออ้างให้เขาปล่อยเธอให้เป็นอิสระได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก