ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก นิยาย บท 1052

ขณะที่ชิม่อนยังคงตกใจอยู่นั้น กิดเดียนจึงพูดต่อด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “มีมากมายหลายสิ่งบนโลกนี้ที่เราไม่อาจหยั่งรู้หรือมองเห็นด้วยข้อจำกัดของเรา ยกตัวอย่างทฤษฎีทางฟิสิกส์เรื่องควอนตัมเวลาและอวกาศ เรายังบอกไม่ได้เลยว่าถูกหรือผิด จริงหรือเท็จ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีอยู่จริง เพียงเพราะเราไม่เห็นหรือไม่ได้ศึกษาวิจัย”

“นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงเชื่อ สิ่งที่เรียกว่าการเป็นอมตะ เราอธิบายในแบบที่เราเข้าใจ แต่ความหมายมันอาจจะเปลี่ยนไป ถ้าเราอธิบายโดยใช้คำพูดของสิ่งมีชีวิตอื่น สิ่งมีชีวิตอะไรที่มีอายุขัยยืนยาวกว่ามนุษย์หลายสิบเท่า? ในสายตาของเรา แบบนั้นจะไม่ถือว่าเป็นอมตะอย่างนั้นเหรอ?”

ชิม่อนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

“คุณ...กำลังพูดถึงสิ่งมีชีวิตอะไร?”

กิดเดียนหรี่ตามองชั่วครู่ก่อนจะหัวเราะออกมา

“แค่ยกตัวอย่างเท่านั้นครับ คุณคิดว่าผมจริงจังเหรอ?”

ชิม่อนนิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมาเจื่อน ๆ “

เขาหวาดผวาโดยไม่รู้ตัว

“ผมตื่นเต้นมากไปหน่อย”

ชิม่อนเช็ดเหงื่อที่หน้าผากแล้วรินน้ำชาให้ตัวเองอีกถ้วย

เมื่อเห็นการกระทำของเขา กิดเดียนจึงค่อย ๆ เตือนเขา “ดื่มชาเย็น ๆ มากเกินไปไม่ดี ระวังด้วย”

ชิม่อนทอดถอนใจ หลังจากที่ดื่มน้ำชาเย็น ๆ เพื่อให้ริมฝีปากที่แห้งผากชุ่มชื่น

“บอกตรง ๆ นะครับ เรื่องนี้ทำให้ผมหนักใจมานานแล้ว มันทำให้ผมอึดอัด ทุกครั้งที่ผมคิดถึงเรื่องนี้ ผมจะฝันร้ายถึงสิ่งที่ประหลาดและเหลือเชื่อมากที่สุด ดังนั้นผมจึงคิดว่าถ้าผมได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครสักคนฟัง ผมคงรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง”

ริมฝีปากของกิดเดียนเผยยิ้มจาง ๆ ทว่าแววตาของเขาเรียบนิ่ง

“เล่าสิคุณฟลินเดอร์ ผมจะฟัง”

“ครับ เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว...”

จากนั้นชิม่อนจึงเล่าให้กิดเดียนฟังว่าเขาได้รับคำสั่งจากเจฟฟ์ให้ไปรบเร้าเกรกอรี่เพื่อขอซื้อผ้าไหมหยกสวรรค์ได้อย่างไร เขานำหยกอาถรรพ์ไปยังเกาะเล็ก ๆ ได้อย่างไร และได้พบกับเจฟฟ์ครั้งแรกที่เกาะนั้น

นอกจากนั้นเขายังพูดถึงเรื่องที่ได้เห็นความผิดปกติของเจฟฟ์ และไม่อาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้

ตลอดเวลาที่กิดเดียนนั่งอยู่ตรงนั้นและฟังอย่างเงียบ ๆ โดยไม่ขัดจังหวะเขาเลยสักคำเดียว

ใบหน้าของเขายังคงเรียบนิ่งราวกับกำลังฟังเรื่องธรรมดาทั่ว ๆ ไปบนโลกนี้ และไม่ใช่เรื่องแปลกเหลือเชื่อเหนือจินตนาการแต่อย่างใด

เมื่อชิม่อนกำลังจะเล่าจบ เขาก็สังเกตเห็นสีหน้าของกิดเดียนด้วยเช่นกัน จึงถามด้วยความแปลกใจ “คุณลีย์ คุณไม่คิดว่าเรื่องนี้แปลกเหรอครับ? หรือคุณไม่เชื่ออะไรเลย?”

กิดเดียนคิดไตร่ตรองเรื่องที่ได้ฟังแล้วเผยยิ้มบาง ๆ

“ไม่ครับ ผมเชื่อ แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ได้แปลกอะไรขนาดนั้นเลย”

เขานิ่งไป กำลังใช้ความคิดว่าจะพูดอย่างไรให้ชิม่อนเข้าใจได้ง่าย

เขาถามเบา ๆ “คนที่อยู่มาเป็นพันปี พูดง่าย ๆ คือเป็นอมตะ แต่ถ้าเป็นแบบนั้น ทำไมเขาถึงต้องพยายามตามหาสิ่งที่ทำให้เขาเป็นอมตะ? เขาอยากได้ไปเพื่ออะไร? หมายความว่าหยกอาถรรพ์มีความลับอื่นซ่อนอยู่ใช่ไหม? คุณเคยคิดเรื่องนี้บ้างไหม?”

ชิม่อนอึ้งไป

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนที่กิดเดียนจะถามเขา

สำหรับเขา การที่เจฟฟ์มีชีวิตอยู่ก็ลำบากใจมากพอแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่เคยคิดไปไกลขนาดนั้น

ยังไม่รวมที่เขาถูกขับออกจากตระกูลเพราะเขาไม่ยอมเฝ้าเกรกอรี่ ทำให้เจฟฟ์ไล่เขาออกมาด้วยความโกรธ

การถูกปฏิเสธเช่นนี้หมายความว่าความพยายามกว่าครึ่งชีวิตของเขานั้นสูญเปล่า เป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ยิ่งใหญ่สำหรับชิม่อน

ทว่า เขาไม่ลืมเรื่องที่เจฟฟ์ ฟลินเดอร์กำลังวางแผนก่อการใหญ่ แม้ว่าเขาจะเป็นคนเงียบ ไม่มีความกังวล และเป็นคนดีก็ตาม

ทว่าเรื่องบางอยากที่ส่งผลกระทบร้ายแรงจนไม่มีใครทานทนได้

ชิม่อนอยูมานานพอที่จะเชื่อในลางสังหรณ์ของตัวเอง

นั่นคือเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ยอมเฝ้าเกรกอรี่เอาไว้ ไม่ใช่ว่าสงสารหรือมิตรภาพที่เขามีต่อชายผู้นั้นที่ยังหลงเหลืออยู่

ทว่าเป็นเพราะรู้สึกได้ถึงอันตราย จึงไม่ยอมฝืนใจเข้าร่วมกับมัน

นั่นคือเหตุผลที่เขาออกมานับตั้งแต่วินาทีนั้น เขาถอนตัวจากทุกสิ่งทุกอย่าง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก