ทันทีที่ลิซซี่พูดอย่างนั้น ทุกคนต่างพากันตะลึง
เนลล์ที่เป็นคนแรกที่ตอบสนองทันที เธอรีบก้มลงเพื่อปิดปากของลิซซี่
จากนั้นใบหน้าของเธอปรากฎรอยยิ้มที่แสนอึดอัดให้ลูซี่และพูด “ฉันขอโทษจริง ๆ เด็กมักจะชอบพูดตรงไปตรงมาเสมอ เธอไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไรอยู่น่ะ”
จากการพิจารณาน้ำเสียงของลูซี่ก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ยอมรับว่าเธอกำลังมีความสัมพันธ์กับโจเอล ในเมื่อพวกเขาไม่ได้คบกันการมีลูกก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน
เนลล์ซึ่งเป็นหัวหน้าของลูซี่ แต่เธอรู้สึกว่าคำพูดของลูกสาวของเธอที่พูดออกมาอย่างกระทันหันทำให้ทั้งคู่รู้สึกขุ่นเคืองใจ
หน้าของลูซี่แดงก่ำไปด้วยความเขินอายเช่นกัน เธอรีบส่ายหน้าทันที “ไม่เป็นไรเลย”
โจเอลดึงสติกลับมาเช่นกัน เขาไออย่างอึกอัก และรีบเปลี่ยนเรื่องรีบทีเปลี่ยนหลักเลี่ยงกับคุยเกี่ยวกับหัวข้อดังกล่าวต่อหน้าเด็ก
“สายแล้วนะ พี่สะใภ้ เดี๋ยวพวกเราจะไปทางนั้นกันต่อ”
เนลล์พยักหน้า
“ไปสิ ขอให้สนุกกันนะ”
จากนั้นโจเอลก็ได้เดินนำทางลูซี่ไป
เมื่อพวกเขาเดินจากไป เนลล์ก็ได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก
ในขณะเดียวกัน
หลังจากออกไปนิทรรศการศิลปะ ลูซี่และโจเอลก็ไปเข้าไปยังพิพิธภัณฑ์ใกล้เคียง
โจเอลอยากที่จะไปนิทรรศการศิลปะเด็ก แต่ลูซี่กลับสนใจที่จะไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มากกว่า
ในตอนแรก เธอคิดจะพาเข้าไปที่นิทรรศการศิลปะก่อน จากนั้นเธอจะไปเยี่ยมชมด้วยตัวเอง
แต่ถึงอย่างนั้น โจเอลก็ตามเธอไปด้วย
หมายความเขาจะไปกับเธอ
แต่ถึงอย่างไรลูซี่กลับรู้สึกฝืนใจ เธอไม่สามารถเปลี่ยนใจผู้ชายคนนี้ได้ เธอจึงปล่อยให้เขาตามเธอมา
ทั้งคู่เดินเล่นไปรอบ ๆ สถานที่แห่งนี้เป็นเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับด้านเทคโนโลยี
ลูซี่รู้สึกทึ่งกับอุปกรณ์เทคโนโลยีต่าง ๆ เธอพบว่าในชีวิตจริงเธอไม่คุ้นเคยกับพวกมันซะส่วนใหญ่
แต่โชคดีที่โจเอลมีความรู้เกี่ยวกับด้านเทคโนโลยีอยู่แล้ว จากสิ่งที่เขาคอยอธิบายให้เธอฟังข้าง ๆ หลายสิ่งหลายอย่างดูจะเป็นไปได้และเธอเริ่มที่จะเข้าใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
จากนั้น เธอถามเขาเกี่ยวกับหัวข้อความสัมพันธ์ทางด้านเทคโนโลยีที่เธอเคยอ่านบนอินเตอร์เน็ตแต่ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไร
โจเอลตอบคำถามของเธอทีละข้อ แม้ว่าหัวข้อนั้นจะลึกซึ้งมากขนาดไหน แต่ส่วนมากเธอก็สามารถจับใจความและเข้าใจได้
ในเวลาเดียวกัน ชายวัยกลางคนสวมใส่ชุดสูท วิ่งตรงพร้อมกับหอบมายังพวกเขา เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์สองคนตามหลังเขามา
เขาเข้าใกล้โจเอลและยิ้มให้เขา “ใช่คุณจริง ๆ ด้วย นายน้อยฟอสเตอร์ ทำไมคุณไม่ส่งคนมาแจ้งว่าให้ผมทราบละครับว่าคุณมาที่นี้? ผมจะได้เตรียมการต้อนรับคุณอย่างดี”
โจเอลพยักหน้า และพูดอย่างเย็นชา “จะทำเอะอะใหญ่โตไปทำไม? ผมแค่มากับแฟนของผม”
แฟน?
ชายวัยกลางคนรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นเขาได้สังเกตุเห็นลูซี่ ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ โจเอล
เธอสวมใส่แมสและหมวก ทำให้ชายวัยกลางคนไม่สามารถจำเธอได้ในทันที เขาจึงตอบกลับไปอย่างไม่มั่นใจ “คุณคือ… ต้องการให้ผมเรียกคุณว่ายังไงดีครับ?”
แต่ถึงอย่างไร วันนี้เจด้า เธอก็ไม่ได้อยู่ที่นี้ ภายในกลุ่มประกอบด้วยแชนนอนและญาติของเธออีกสองคน ซึ่งเป็นทายาทของครอบครัวชนชั้นสูงในเมืองหลวง
“ทำไมโชคดีอย่างนี้นะ! ทำไมฮันต้องมาเจอนังนี่ที่นี้ด้วย?!”
แชนนอนบ่นอย่างน่ารังเกียจ ญาติของเธอทั้งสองคนก็เห็นลูซี่เช่นกันและเริ่มหัวเราะคิกคัก
“นี่ ชื่ออะไรเหรอ? ทำไมถึงไม่ทักทายแชนนอนพี่สาวคนโตของเราล่ะ? ไม่กลัวว่าจะทำผิดต่อเธอเหรอ?”
“ใช่ เธอไม่รู้เหรอ ว่านอกจากสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ตระกูลของพี่แชนนอนเป็นตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดที่มีอยู่ด้วยนะ? เธออยู่ในวงการบันเทิงไม่ใช่เหรอ? งั้นดีเลย พี่แชนนอนก็อยู่ในวงการเหมือนกัน ถ้าเธอคุกเข่าลงและคำนับให้เธอสามครั้ง ในอนาคตเธออาจจะคุ้มครองเธอก็ได้นะ”
จากนั้น ผู้หญิงที่พูดประโยคนี้หัวเราะขึ้นมา
สายตาของลูซี่เต็มไปด้วยอารมณ์มากมาย เธอเงียบและหันหลังเพื่อเดินต่อ
หญิงสาวโกรธมาหและรีบคว้าเธอไว้ “นี่! ท่าทางของเธอมันคืออะไร? ฉันอุส่าให้คำแนะนำอย่างสนิทสนมแต่เธอเลือกที่จะเงียบ มันหมายความว่าอะไร?”
ลูซี่จ้องมองไปที่เธอ
ถ้าเธอจำไม่ผิด ผู้หญิงคนนี้คือ เออซูล่า ปีเตอร์สัน เธอเป็นญาติของแชนนอน เธอมีชื่อเสียงที่ค่อนข้างย่ำแย่ในเมืองหลวง และเป็นที่รู้จักทั่วว่าเป็นคนตีสองหน้า
ลูซี่หัวเราะอย่างเย็นชา และปัดมือของเออซูล่าทิ้ง เธอพูดอย่างเย็นชา “ขอบคุณที่เตือนนะ แต่ฉันไม่ได้เป็นบุคคลสำคัญ แม้ว่าฉันจะทำงานในวงการบันเทิง แต่ฉันก็ไม่ใช่คนทะเยอทะยานเลยและฉันใช้ชีวิตตามรายได้ที่ฉันมี เธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับฉันหรอก”
“โอ้ เธอก็แค่ขอทาน! ฉันก็คิดว่าเธอเป็นใคร!”
แชนนอนหัวเราะเยาะเย้ยและขึ้นเสียง “นี่ เธอเดินวนมาหลายรอบแล้วนะ เธอมีปัญญาซื้อของที่นี่หรือเปล่า?”
ลูซี่ขมวดคิ้วของเธอ ทำให้เกิดรอยย่นระหว่างคิ้วของเธอ
เออซูล่าพูดขึ้นมาเช่นกัน “เธอรู้หรือเปล่า? พิพิธภัณฑ์ที่นี่ดำเนินการหลักการกุศลนะ สิ่งของที่นี่สามารถซื้อจากนั้นรายได้ก็จะนำไปบริจาคให้พิพิธภัณฑ์โดยที่ส่วนหนึ่งจะเป็นทุนการวิจัย เธออยู่ที่นี่มาได้สักพักแล้วแต่เธอยังไม่ได้ซื้อของที่นี่ไปเลยเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก