หลังจากที่ได้มีเกิดเหตุการณ์แบบนี้ครั้งล่าสุด โจเอลไม่เชื่อว่าเอมิเลียจะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับพ่อแม่ของเขา ด้วยเหตุผลนี้เองที่เขาคิดว่า พวกเขาไม่ควรที่จะเจอหน้ากัน
แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนกำลังนั่งด้วยกันเหมือนเพื่อนที่สนิทกันมาก่อน เขาจึงรู้สึกมึนงง
นาตาลีเม้มปากแต่ไม่ได้ตอบอะไร
เธอคิดว่ามันดีที่จะไม่ตอบอะไรออกไป เอมิเลียจึงเป็นคนอธิบายว่า “ฉันมีเรื่องบางอย่างเลยมาหาท่านผู้หญิงฟอสเตอร์ และบังเอิญรู้ว่ามีเรื่องเกิดขึ้นกับท่านประธานฟอสเตอร์ ฉัยเลยมาด้วย”
ในตอนนี้เธอตั้งใจเปลี่ยนการเรียกว่าพี่ซาเวียร์เป็นประธานฟอสเตอร์
สำหรับเธอ โจเอลรู้แค่ว่าเธอ กับนาตาลีและซาเวียร์มีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกัน
สำหรับเรื่องนั้น เขาไม่แน่ใจในรายละเอียดมากนัก
เอมิเลียไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามารบกวนชีวิตของพวกเขา เธอจึงไม่อยากบอกความสัมพันธ์จริง ๆ ของเธอกับพวกเขา
โจเอลพยักหน้าฟังเข้าใจ
ตอนนี้เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากเช่นกัน
สิ่งเดียวที่ตอนนี้เขาทำได้คือ นั่งรอกับพวกเธอ
ในตอนนั้นเองที่โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น
โจเอลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เขาเหลือบมองนาตาลี หลังจากที่เขาเห็นชื่อบนหน้าจอ
เมื่อนาตาลีไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร เขาจึงลุกขึ้นยืนเดินออกไปเพื่อรับสาย
มันมาจากลูซี่
ลูซี่ไม่ได้สนใจอุบัติเหตุบนทางด่วนมากนัก แต่เธอรู้จากเพื่อนร่วมงานในกองถ่ายของเธอ
ปกติแล้วเธอก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ เป็นที่เข้าใจว่ามันเป็นบทสนทนาทั่วไปของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม ทีมงานคนหนึ่งได้เดินทางไปทำงาน แล้วได้ผ่านบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุ และได้ถ่ายภาพที่เกิดเหตุไว้ได้
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ลูซี่จึงดูรูปเธอตกใจมากที่ได้เห็น
รถในภาพถูกชนจนยับ แต่เธอจำรุ่นของรถกับเลขทะเบียนรถที่เลือนลางได้
ตระกูลฟอสเตอร์มีรถยนต์มากมายหลายคัน มันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะจำรถแต่ละคันได้ แต่เธอจำป้ายทะเบียนรถของคันนั้นได้อย่างแน่นอน ก่อนที่พวกเขาจะเป็นแฟนกัน โจเอลเคยใช้รถคันนี้มารับเธอ
ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นรถของโจเอล เธอเลยรู้สึกประทับใจ
ต่อมาเธอจึงรู้ว่าเป็นรถของพ่อเขา เขาขับแค่วันนั้นเฉย ๆ
เมื่อลูซี่ได้เห็นภาพนั้น เธอก็คิดได้อย่างรวดเร็วกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
เธอจึงพาทีมงานออกไป เพื่อขอซื้อรูปถ่ายนั้นเป็นการส่วนตัว และติดสินบนกับทีมงานไม่ไห้พูดเรื่องนี้ออกไป
ทีมงานไม่รู้ว่าทำไมลูซี่ถึงต้องการรูปนั้น เธอตกลงตามที่ลูซี่ขอ เพราะเธอไม่อยากขัดใจลูซี่ แถมเธอยังได้เงินจากรูปพวกนี้ด้วย
หลังจากนั้นลูซี่จึงโทรหาโจเอล
จากที่เขาได้ฟังคำอธิบายของเธอ โจเอลก็ตอบด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ
“ใช่ พ่ออยู่ในนั้นด้วย”
“ห๊ะ?!” ลูซี่อ้าปากค้างและความหวังเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็หายไปจากตัวเธอหมด
เธอรีบถามเขาทันที “ตอนนี้คุณลุงเป็นอย่างไรบ้าง? สาหัสไหม?”
“ผมก็ยังไม่รู้เลย ตอนนี้เขายังอยู่ในห้องผ่าตัด” โจเอลชะงักไป ก่อนเขาจะถอนหายใจ “แต่คนขับรถเสียชีวิตคาที่เลย แม่เลยส่งคนไปดูแงานศพของคนขับรถกับครอบครัวของเขา ส่วนเราก็คงต้องรอจนกว่าการผ่าตัดจะเสร็จ เราถึงจะพูดอะไรได้”
ลูซี่คิดว่าเหตุการณ์นี้ร้ายแรงกว่าที่เธอคิดเอาไว้มากเลย
เมื่อได้ยินแบบนั้น สีหน้าของนาตาลีก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเอมิเลียพูดแบบนั้น
เธอมองเอมิเลียอย่างไม่เชื่อสายตา น้ำเสียงของเธอนั้นเต็มไปด้วยความไม่ชอบใจ “รู้จักกันด้วยหรือไง!”
เอมิเลียตกใจ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่เธอก็ตอบความสงสัยนั้น “ใช่ มีอะไรเหรอ?”
นาตาลีจ้องเขม็งไปที่โจเอล
เขารู้สึกลำบากใจมาก
เอมิเลียไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่เขารู้!
ทั้งหมดนั้นมันเป็นเพราะว่า เอมิเลียกับนาตาลีไม่เข้าใจกัน แล้วยิ่งไปกว่านั้นคือ นาตาลีไม่เคยชอบลูซี่เลย
เธอยังคงสืบปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นอยู่ ในตอนนี้ เธอรู้แล้วว่าลูซี่ได้รู้จักกับเอมิเลียมาตลอด พวกเขาปกปิดความจริงกับเธอ
จากสภาพความเป็นจริงแล้ว กลลวงและการถูกทรยศกับความรู้สึกแปลก ๆ แต่จริง ๆ แล้ว มันมีอยู่เยอะ
โจเอลไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์นี้ได้ ดังนั้นเขาจึงไอออกมาเบา ๆ และพูดว่า “ ถ้าพูดถึงเรื่องนั้น คือ... ครั้งล่าสุดพวกเราได้ไปออกเดตกัน แล้วก็ได้เจอกับคุณจาโร พวกเราเข้ากันได้ดี จึงเป็นเพื่อนกัน แต่จริง ๆ แล้วเราไม่ได้สนิทกันเหมือนที่แม่คิดเลยนะ”
ถึงจะพูดแบบนั้นออกไป คิดว่านาตาลีจะเชื่ออย่างง่าย ๆ งั้นเหรอ?
สุดท้ายแล้ว คนแบบเอมิเลียภายนอกนั้นถึงจะดูเป็นมิตรแล้วเข้าหาได้อย่างง่าย แต่จริง ๆ แล้วเธอเป็นคนหยิ่ง เธอจะไม่ยอกเป็นมิตรกับคนอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย
ดังนั้น นาตาลีจึงโกรธมากอย่างทันที
เธอจ้องเขม็งไปที่โจเอลและพูดเยาะเย้ย “ดีเลย แกเข้ากันได้ดีกับเธอแบบนี้ แกรวมตัวกันเพื่อหลอกฉันใช่ไหม? ทำไมแกไม่บอกแม่ว่าพวกแกรู้จักกัน”
เมื่อรู้ว่าแม่เขากำลังโกรธมากแค่ไหน โจเอลจึงตอบอย่างสุภาพว่า “ก็แม่ไม่ได้ถามพวกเรา”
นาตาลีตัวแข็งทื่อแล้วตะโกนออกมา “แก…!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก