พ่อบ้านออสบอร์นตัวแข็งทื่อ เขารู้สึกประหลาดใจที่เห็นยูเลียนาอยู่ที่นี่
ครั้งสุดท้ายที่เห็นยูเลียนาคือตอนที่เธอกำลังทานอาหารอยู่อีกชั้นหนึ่งของคฤหาสน์ เธอจะมาถึงที่นี่ได้อย่างรวดเร็วได้อย่างไร?
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเกรกอรียังอยู่ในห้องอ่านหนังสืออยู่ สีหน้าของพ่อบ้านออสบอร์นก็เปลี่ยนไป เขารีบเดินไปหายูเลียนาในทันที
ในอีกด้านหนึ่ง ยูเลียนากำลังหลงทาง
คนใช้เพิ่งจะบอกกับเธอว่าเกรกอรีอยู่ในห้องอ่านหนังสือชั้นบน แต่เธอก็ไม่ได้ชี้ให้เห็นว่ามันอยู่ตรงไหน
หลังจากที่ยูเลียนาขึ้นไปที่ชั้นบนแล้ว เธอก็ได้รู้ว่าชั้นนี้มีห้องมากเกินไป ประตูห้องถูกปิดเอาไว้ทุกบาน เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนเป็นห้องไหน
เธอไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องหาห้องของเกรกอรีทีละห้อง
แต่เธอก็ไม่ได้ต้องการทำให้มันเกิดความวุ่นวาย เพราะเธอก็ไม่ต้องการถูกมองว่าเป็นคนไร้มารยาท นั่นคือเหตุผลที่เธอเหลือบมองเข้าไปในห้องหลังจากเปิดประตูแต่ละห้องอย่างเงียบ ๆ
การที่เธอเดินไปตามทางเดินแบบนั้น เป็นผลให้เธอถูกมองว่าน่าสงสัยในสายตาของคนอื่น
เมื่อพ่อบ้านออสบอร์นเดินเข้ามาใกล้ยูเลียนา เธอวางถาดลงบนพื้นและหันหน้าไปทางประตู เธอหมุนลูกบิดประตูและมองเข้าไปข้างใน
สิ่งที่เธอเห็นภายในห้องนั้นก็คือห้องรับแขกที่ยังไม่ได้รับการตกแต่ง นี่ไม่ใช่ห้องอ่านหนังสือที่เธอกำลังมองหาอยู่ เธอเดินถอยห่างออกจากประตูมาด้วยความท้อแท้
หลังจากที่เธอปิดประตูลง เธอก็ก้มลงหยิบถาดที่วางอยู่บนพื้น จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นแล้วหันหลังกลับ
ทันทีที่เธอหันกลับมา เธอก็ได้ชนเข้ากับใครสักคนหนึ่ง
ยูเลียนาตกตะลึงและกรีดร้องออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่ในขณะที่เธอเริ่มกรีดร้องพ่อบ้านออสบอร์นก็รีบเอามือปิดปากของเธอทันที
หลังจากปิดปากเธอได้แล้ว คุณออสบอร์นก็ดึงยูเลียนาเข้าไปที่ด้านข้าง จากนั้นเขาก็ปล่อยมือออกแล้วถามว่า “คุณลินช์ คุณมาที่นี่ทำไม?”
ยูเลียนารู้สึกไม่พอใจที่พ่อบ้านออสบอร์นเอามือปิดปากและลากเธอออกไปเป็นอย่างยิ่ง
แต่เมื่อคิดพิจารณาดูแล้วว่าเขาเป็นถึงพ่อบ้านของคฤหาสน์แห่งนี้ และเธอเป็นแค่เพียงแขกรับเชิญ ยูเลียนาจึงตัดสินใจที่จะเก็บคำบ่นของเธอเอาไว้ในใจ
ยูเลียนานึกอะไรบางอย่างขึ้นได้เล็กน้อย เมื่อเธอได้ครอบครองคฤหาสน์แห่งนี้ และกลายเป็นคุณนายเกรแฮมแล้ว เธอจะต้องทำให้มั่นใจให้ได้ว่าพ่อบ้านออสบอร์นจะต้องโดนลงโทษกับการกระทำของเขา
ขณะที่เธอกำลังคิดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของเธอก็คลายจากความตึงเครียดลง จากนั้นเธอก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและสุภาพว่า “พ่อบ้านออสบอร์นค่ะ ฉันมาที่นี่เพื่อตามหาคุณเกรแฮมค่ะ”
พ่อบ้านออสบอร์นขมวดคิ้วขึ้นมาเมื่อได้ยินในสิ่งที่เธอบอก
“คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ?”
ยูเลียนายิ้มออกมา ในมือถือถาดเอาไว้ข้างหน้าของเธอพลางพูดว่า “คือว่า ตอนที่ฉันกำลังกินข้าวเย็นอยู่ แล้วฉันก็ดันคิดขึ้นมาได้ว่าคุณเกรแฮมอาจจะยังไม่ได้กินข้าว ฉันก็เลยเลือกเอาอาหารอร่อย ๆ มาส่งให้เขาที่นี่ค่ะ พ่อบ้านออสบอร์นคะ คุณเกรแฮมกำลังอยู่ในห้องอ่านหนังสือใช่ไหมคะ?”
พ่อบ้านออสบอร์นพูดว่า “ผมเคยบอกคุณไปแล้ว ว่าเขากำลังทานอาหารอยู่ในห้องอาหารอีกห้องหนึ่ง คุณเอาของพวกนี้กลับไปเถอะ เขาไม่ต้องการมันหรอกครับ”
ตอนแรกเขาคิดว่าท่าทางที่รุนแรงของเขาจะทำให้ยูเลียนารู้สึกกลัวขึ้นมาบ้าง
แต่ยูเลียนากลับทำเหมือนว่าเธอไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูด ซึ่งนั้นมันทำให้เขารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก
เธอถือถาดอาหารเอาไว้ในมือ และไม่ได้สนใจคำพูดของพ่อบ้านออสบอร์น ก่อนจะหัวเราะออกมา "พ่อบ้านออสบอร์นคะ คุณไม่ใช่คุณเกรแฮมนะคะ คุณจะรู้ได้ยังไงว่าเขาอยากกินของพวกนี้หรือเปล่า? คุณเกรแฮมยังไม่ได้กินข้าวเลย และยิ่งเขายุ่งมากจนดึกดื่นป่านนี้ อีกอย่างฉันเองก็ไม่ได้มีอะไรทำ ฉันคิดว่าฉันควรจะแสดงความขอบคุณต่อเขาด้วยการเอาอาหารมาให้เขาทาน”
หลังจากพูดจบประโยคเธอก็เดินหน้าต่อไป
สีหน้าของพ่อบ้านออสบอร์นเปลี่ยนไปเมื่อเขาเห็นสิ่งที่ยูเลียนากำลังทำ
เขาพยายามที่จะหยุดเธอไว้อีกครั้ง
“คุณลินช์ครับ บุคคลภายนอกไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องอ่านหนังสือของนายน้อยครับ คุณควรกลับไปที่ห้องพักของคุณซะ”
ยูเลียนาเหลือบมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง
สายตาของเธอมีความเย็นชาเล็กน้อย
“นายน้อยของคุณบอกเอาไว้แบบนี้เหรอ?”
ท้ายที่สุด สถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวเธอก็ไม่ได้แย่เลย เธอได้กินของอร่อย ๆ และมีเสื้อผ้าสวย ๆ หรูหราให้สวมใส่ไม่มีขาด
ในช่วงเวลานั้น เธอต้องทนต่อการถูกกลั่นแกล้งสารพัด ขณะที่เธอเตร็ดเตร่ไปมา เธอได้พลาดชีวิตช่วงนั้นไปแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอต้องแต่งงานกับชายชราที่อายุเกินห้าสิบไปแล้วละก็ เธอคงจะกลับไปที่บ้านเกิดของเธอตั้งนานแล้ว
เธอไม่อยากละทิ้งชีวิตของเธอไปแบบนั้น เธอจึงยืนหยัดที่จะสู้ต่อไป เธอจะไม่ละทิ้งโอกาสดี ๆ ที่กำลังปรากฏอยู่ต่อหน้าของเธอไปอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ตอนนี้เธอก็มีแผนการที่เธอคิดว่าสมบูรณ์แบบที่สุดไว้แล้ว
ตามความสัมพันธ์แล้วเกรกอรีถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเกรแฮม ที่อยู่ภายใต้การปกครองของเหล่าสี่ตระกูลใหญ่ อีกทั้งเขายังเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเกรแฮมที่ได้รับการสนับสนุนมากที่สุดอีกด้วย และมีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะเป็นผู้ครอบครอง บริษัทเกรแฮม คอร์ปอเรชั่น ทั้งหมดเช่นกัน
ตรงกันข้ามกับบริษัทที่พ่อของยูเลียนาเป็นเจ้าของอยู่นั้น ไม่มีอะไรเทียบได้กับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเกรแฮม คอร์ปอเรชั่น เลยแม้แต่น้อย
หากว่าเธอสามารถจับเกรกอรี และกลับไปที่บ้านของเธอพร้อมกับเขาได้ เธอก็คงจะสามารถปฎิเสธที่จะแต่งงานกับชายชราผู้อายุเกินห้าสิบได้ ยิ่งไปกว่านั้นพ่อของเธอก็คงจะให้เกียรติเธออีกด้วย
ในก่อนหน้านี้ยูเลียนาเป็นคนที่เชื่อในเรื่องของความรัก
เธอคิดว่าเมื่อหญิงสาวคนหนึ่งได้พบกับความรักแล้ว เธอจะไม่สนใจกับทุกสิ่งทุกอย่างอีกต่อไปแล้ว
แต่หลังจากที่เธอได้พบกับความหายนะในครั้งนั้น เธอก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่ง ในชีวิตจริงถ้าหากว่าเธอเลือกที่จะละทิ้งชีวิตที่สุดแสนจะมั่งคั่งไปแล้ว ที่ที่ทุกอย่างเป็นได้เพียงแค่เธอเอ่ยปากสั่ง ความรักก็ไม่มีค่าอะไรเลย
ผู้ชายที่เธอเคยรักและเคยมอบหัวใจให้กับเขา คือคนเดียวกับที่ขายเธอ
ยูเลียนาอยู่ในความโกรธขั้นสูงสุด และต้องการแก้แค้นเขา
แต่ด้วยสถานะของเธอในตอนนั้นไม่ได้มีอำนาจพอที่จะแก้แค้นเขาได้
ถ้าหากว่ายูเลียนากล้าปรากฎตัวที่ประเทศจีน พ่อของเธอก็คงจะจับตัวเธอไปในทันที คงไม่ปล่อยให้เธอได้กลับไปแก้แค้นเขาอย่างแน่นอน และเมื่อถึงเวลานั้น พ่อของเธอก็คงจะไม่ยอมรับฟังเธอ เขาคงคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เธอได้ประสบพบเจอ เป็นแค่เรื่องโกหกเพื่อเป็นข้ออ้างในการปฎิเสธการแต่งงานของเธอ
นอกจากนี้ เธอยังได้ตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างอย่างคลุมเครือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก