"ได้ครับ"
พ่อบ้านออสบอร์นรู้สึกไม่ค่อยสบายใจกับชายคนนั้นสักเท่าไร แต่เขาก็เกรงกลัวจึงตอบออกไปด้วยความเคารพอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เกรกอรีพูดจบแล้ว เขาไม่ได้กลับไปยังที่ห้องทำงานของเขา เขาถอดเสื้อโค้ตของเขาออกแล้วเดินออกไป
พ่อบ้านออสบอร์นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินตามเขาไปพลางเอ่ยถามว่า “นายน้อยครับ คุณจะออกไปข้างนอกเหรอครับ?”
"ใช่ ผมจะออกไปข้างนอก"
เขาตอบออกมาเบา ๆ และสั่งว่า “เตรียมรถไว้ให้ผมหน่อย ผมจะออกไปข้างนอก”
พ่อบ้านออสบอร์นตกใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็รีบตอบกลับไปอย่างสุภาพว่า “ครับ ผมเข้าใจแล้วครับ”
...
รถโรลส์รอยซ์สีดำถูกขับออกมาจากทางเข้าของคฤหาสน์
ในหฤหาสน์ห้องหนึ่ง จากทางเข้าของคฤหาสน์
ยูเลียนา ลินช์ยืนอยู่ที่ขอบของหน้าต่าง เธอมองออกไปที่รถด้วยกล้องส่องทางไกลและเผยยิ้มออกมาอย่างเย็นชา
เธอวางกล้องส่องทางไกลลง และใช้นิ้วเคาะลงไปที่ขอบหน้าต่างอย่างไม่ตั้งใจหลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะกัดฟันด้วยความโกรธ
เกรกอรี เกรแฮมแกล้งทำตัวเป็นคนดี?
เขาไม่บ้าตัณหา และไม่หลงเสน่ห์ความงามของผู้หญิงบ้างเลยเหรอ?
ฉันต้องการหาคำนี้ด้วยตัวของฉันเอง เขาชอบ หลิว เซียฮุ่ยอยู่หรือเปล่า? เพราะไม่ว่าฉันจะยั่วยวนเขาสักเท่าไหร่ เขาก็ไม่มีท่าทีที่จะสนใจฉันเลยแม้แต่น้อย
เธอหันหน้ากลับมาขณะที่กำลังครุ่นคิดถึงเรื่องนั้น พร้อมเดินออกไปที่ทางออก
จินนี่ที่เป็นคนรับใช้ส่วนตัวของเธอ ได้รับคำสั่งจากเธอในก่อนหน้านี้ว่าให้มารออยู่ข้างนอกห้องของยูเลียนา
จู่ ๆ ประตูก็เปิดออก จินนี่มองดู ยูเลียนา ลินช์ ด้วยความว่างเปล่า ก่อนจะถามเธอว่า คุณยูเลียนาคะ คุณบอกให้ฉันมารอที่นี่ คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ?”
ยูเลียนา ลินช์ มองมาที่เธอและยิ้มเยาะออกมา
“ใช่แล้วฉันมีอย่างอย่าให้เธอช่วย…เป็นเรื่องใหญ่ที่เราต้องทำให้สำเร็จ”
ในขณะที่ยูเลียนากำลังพูดอยู่นั้น ในแววตาของเธอก็มีประกายแห่งความชั่วร้ายออกมา
จินนี่มองเธอจากด้านหลัง ขณะที่เธอกำลังเดินออกไปด้วยความคลุมเครือ
จินนี่เป็นเพียงแค่คนรับใช้ของเกรกอรี เกรแฮม และยูเลียนา ลินช์ ทั้งสองคนจึงถือว่าเป็นเจ้านายของเธอเหมือนกัน
เธอไม่แน่ใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขา เธอจึงไม่กล้าพูดหรือถามอะไรต่อ
ทั้งหมดที่เธอทำได้ก็คือติดตามยูเลียนาอย่างใกล้ชิด
ในขณะเดียวกันของอีกด้านหนึ่ง
ที่ทางเข้าเรือนจำ
“95201 โทษของคุณได้หมดลงแล้ว คุณได้รับการปล่อยตัวแล้ว”
เสียงประตูเหล็กที่ปะทะกันดังมาจากข้างหลังเธอ วิกกี้ โทมัสไม่ได้มองกลับไป ผมสั้นของเธอทำให้ใบหน้าของเธอดูซีดผอม เธอเดินออกจากคุกทีละก้าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
วันนี้อากาศดีมากเป็นพิเศษ ลมที่พัดโชยมาของฤดูใบไม้ร่วงที่สดชื่นกับท้องฟ้าในฤดูใบไม้ร่วงที่แสนสดใส
สายลมพัดผ่าน ต้นออสมันตัสที่ริมถนน ทำให้กลีบสีขาวของดอกออสมันตัสพลิ้วไหวไปตามแรงลม และพัดพาเอากลิ่นอายของดอกเข้ามา
เด็กสาวอายุสิบเจ็ดย่างสิบแปดปีกำลังเอนกายพิงกับต้นออสมันตัสที่สูงและเรียวด้วยแจ็กเก็ตหนัง และกระโปรงสั้นของเธอ
เธอก้มหน้าลงและกำลังพยายามจุดบุหรี่ในปากของเธอด้วยไฟแช็ค
ก่อนที่เธอจะตกใจกับเสียงกระทบกันของประตูเหล็ก เธอจึงรีบวางบุหรี่ลงแล้วเงยหน้าขึ้นไปมอง เธอเห็นหญิงสาวคนหนึ่งค่อย ๆ เดินออกมาจากประตูคุก
“พี่คะ!”
ร่างกายของเธอสั่นเทาเล็กน้อย ทำให้บุหรี่หลุดออกจากมือของเธอ
วินาทีถัดมา เธอรีบพุ่งตัวเข้าหาไปหาพี่สาวของเธอ ก่อนจะกระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของวิกกี้
“พี่คะ ในที่สุดพี่ก็ได้ออกมาสักที!”
น้ำตาของเธอไหลออกมาเอ่อล้นเต็มสองแก้ม ร่างกายของเธอสั่นเทาไปด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับเสียงตะกุกตะกักของเธอ
เจนนี่ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ
เธอรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก “พี่เพิ่งจะออกมาจากคุก พี่ไม่มีทั้งเงินและไม่มีทั้งเพื่อนที่อยู่ที่นี่ แล้วพี่จะไปอยู่ที่ไหนกันคะ?”
วิกกี้ยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของเธออยู่เสมอ แต่ถ้าหากว่ามองดี ๆ แล้วก็จะเห็นได้ไม่ยากเลยว่ารอยยิ้มของเธอนั้น เป็นรอยยิ้มที่ไม่ค่อยเต็มใจและบางครั้งก็ดูเย็นชา
เธอพูดออกมาเบา ๆ “เด็กโง่ แม้ว่าฉันจะไม่ได้มีเพื่อนที่นี่ แต่ฉันก็พึ่งพาตัวเองได้ ฉันหาที่พักได้อย่างง่ายดายเลยแหละ”
วิกกี้ไม่อยากให้เจนนี่พูดเกลี้ยกล่อมเธออีกต่อไป เธอจึงพูดขัดจังหวะเด็กสาวขึ้นมา ก่อนจะพูดต่อว่า “ยิ่งไปกว่านั้น คุณลุงเทย์เลอร์คงไม่ต้องการให้ฉันกลับไปที่นั้นอีก ถ้าฉันกลับไปกับเธอ เธออาจจะมีปัญหาก็ได้ และชีวิตของเราจะไม่ง่ายอีกต่อไป เธอรู้จักฉันดี ฉันไม่ชอบความรู้สึกที่ต้องไปพึ่งพาใคร”
สิ่งที่เธอพูดออกมาค่อนข้างตรงไปตรงมา
เจนนี่ เทย์เลอร์ก็เลยเถียงเธอไม่ได้
ท้ายที่สุด วิกกี้ก็ได้บอกความจริงกับเธอ
คุณลุงเทย์เลอร์ที่เธอพูดถึงคือพ่อเลี้ยงของเธอเอง และคือพ่อผู้ให้กำเนิด เจนนี่ เทย์เลอร์
ส่วนแม่ที่ให้กำเนิดวิกกี้มา ได้ไปแต่งงานใหม่กับครอบครัวเทย์เลอร์ ตั้งแต่วันแรกไบรอัน เทย์เลอร์ ก็ไม่เคยชอบวิกกี้เลย เพราะเขาคิดว่าเธอเป็นตัวภาระที่แม่ของเธอส่งมาให้ เขาจึงปฏิบัติต่อเธออย่างแย่ ๆ เสมอมา ทั้งดุด่าและทุบตีเธอโดยไม่มีเหตุผล
ในช่วงวัยเด็กของวิกกี้ โทมัส เธอยังไม่รู้วิธีรับมือกับเขา เธอจึงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสภายใต้การเลี้ยงดูของเขา
ตอนนั้นเธอก็ยังรู้สึกว่าพอทนได้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ เขาจะแค่ดุด่าหรือข่มขู่เธอเท่านั้น
เพราะไม่ว่าเขาจะไม่ชอบเธอมากแค่ไหน เขาก็จะตีเธอแค่เพียงครั้งเดียวหรือสองครั้งเท่านั้น ไบรอันจะไม่ออกอาการมากจนเกินไป เมื่ออยู่ต่อหน้าของวาเนสซ่าแม่แท้ ๆ ของเธอ
ต่อมาครอบครัวเทย์เลอร์ได้สูญเสียธุรกิจไปโดยไม่ทันตั้งตัว แถมบ้านของพวกเขาก็ยังมาถูกไฟไหม้อีก
เพื่อนบ้านของพวกเขาจึงพากันซุบซิบเกี่ยวกับอุบัติเหตุในครั้งนี้ว่า เป็นเพราะวิกกี้แอบหลับไป ในขณะที่เธอกำลังหุงข้าวอยู่ มันเลยทำให้บ้านเกิดไฟไหม้
ไบรอันโกรธจัด เขาดึงตัวเธอมาและทุบตีเธออย่างหนัก
โชคดีที่ความสูญเสียของพวกเขาไม่ได้มากเท่าไหร่นัก เนื่องจากเปลวไฟไม่ได้รุนแรงมากและพวกเขาก็สามารถควบคุมเอาไว้ได้
ด้วยเหตุนี้ วิกกี้จึงไม่ได้ถูกไล่ออกจากครอบครัว
แต่เนื่องจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น มันได้สร้างความรู้สึกแย่ ๆ ข้างในจิตใจของเขา ไม่ว่าเขาจะมอง วิกกี้ โทมัสอย่างไร เขาก็จะคิดว่าอยู่เสมอว่าเธอมันเป็นตัวซวย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก