ที่นั่นเป็นที่ที่วิกกี้ได้พบกับบุคคลที่น่าจดจำที่สุดในชีวิตของเธอ
มันคือการพบปะแบบไหนกัน?
เมื่อเธอนึกย้อนกลับไป ฉากนั้นค่อนข้างปกติ ไม่มีอะไรพิเศษ ไม่มีการปรากฏตัวที่ต่างออกไป ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์หรือสถานที่
ในสวนหลังบ้านที่เต็มไปด้วยต้นองุ่น วิกกี้เห็นเด็กชายอายุราว ๆ 11 หรือ 12 ปีกำลังนั่งอยู่ใต้ร่มเงาของต้นองุ่น เขาถือหนังสืออยู่ในมือ และกำลังจดจ่ออยู่กับการเรียนของเขา
เขาเป็นชายที่มีใบหน้างดงาม เขาสวยราวกับเด็กผู้หญิงทั้ง ๆ ที่เขายังเป็นเด็ก
ดวงตากลมโตและขนตาที่ยาวพลิ้วไหว ผิวของเขาขาวราวกับหยกขาวเกรดดี
เขาอยู่ในชุดสูทตัวเล็ก ๆ ที่ออกแบบมาอย่างประณีต สวมรองเท้าหนังสีเรียบอยู่ที่เท้าของเขา และผมของเขาก็ถูกจัดทรงอย่างสง่า แม้ในเวลาที่เขากำลังเรียน เขาก็แตกต่างไปจากเด็กคนอื่น ๆ โดยสิ้นเชิง
วิกกี้ตัวน้อยตกตะลึงไปชั่วครู่หนึ่ง
เด็กชายวางหนังสือลงแล้วเงยหน้าขึ้น ราวกับว่าเขารู้ว่ามีคนกำลังมา
แววตาคู่นั้นช่างเยือกเย็น ดังเช่นเขาเป็นอิสระจากทุกสิ่งทั้งปวงบนโลกใบนี้และกำลังอยู่เหนือยอดเขา ดวงตาของเขาแทรกซึมเข้าไปในหัวใจของวิกกี้
วิกกี้คิดว่าเธอจะไม่มีวันลืมการพบกันครั้งแรกตลอดช่วงชีวิตที่เหลือของเธอ
ลุงเกลนเดินนำเธอไปที่สวนหลังบ้านและแนะนำเขาให้เธอรู้จัก “นี่คือนักเรียนของฉัน เกรกอรี่ เกรแฮม เรียกเขาว่าพี่เกรกอรี่ก็ได้”
จากนั้นเขาก็แนะนำวิกกี้ให้รู้จักกับเกรกอรี “ส่วนเธอคือวิกกี้ โทมัส ตั้งแต่นี้ไป เธอคือหลานสาวของฉัน นาย ในฐานะพี่ชายของเธอจะต้องดูแลเธอ และอย่ารังแกเธอ ตกลงไหม?”
เด็กชายที่อยู่ข้างหน้าไม่ได้พยักหน้าหรือส่ายหัว เขาไม่เห็นด้วยด้วยซ้ำ
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย เขามีอายุเพียงแค่ 11 หรือ 12 ปี แต่ด้วยใบหน้าที่เย็นชาของเขา ทำให้เขาดูราวกับชายชราที่ติดอยู่ในร่างของเด็ก และกำลังมีท่าทางที่ไม่พอใจ
เขาเปิดปากและถามว่า “วิกกี้ โทมัส? เธอไม่ใช่ลูกเลี้ยงของครอบครัวเทย์เลอร์เหรอ? เธอกลายเป็นหลานสาวของคุณลุงได้ยังไง?”
ลุงเกลนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
เขาไม่คิดว่าเกรกอรี่จะรู้ว่าถึงความเคลื่อนไหวภายนอก เพราะเด็กชายมักจะซ่อนตัวอยู่แต่ในสวนหลังบ้านอยู่เสมอ
ลุงเกลนอธิบายสถานการณ์ของวิกกี้ให้เขาฟัง
จากใบหน้าของเขา เขาไม่ได้แสดงความเห็นอกเห็นใจใด ๆ เขาเพียงแค่พ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา
เขากล่าวว่า “ทำตัวตามสบาย ตราบใดที่เธอไม่รบกวนการเรียนของฉันก็ไม่มีปัญหาอะไร”
ลุงเกลนเคยชินกับปฏิกิริยาของเขา ชายชราหัวเราะและเดินจากไปพร้อมกับวิกกี้
สำหรับวิกกี้นั้นค่อนข้างแปลกใจ
เธอไม่รู้ว่าเด็กเหลือขอผู้นี้เป็นคนยังไง ทัศนคติของเขานั้นแย่ขนาดไหนกัน
ลุงเกลนเป็นคนใจดีมากที่เต็มใจรับเธอเข้ามา และยังสอนเด็กหนุ่มผู้นั้นอีกด้วย แต่เขาคุยกับลุงเกลนด้วยมารยาทที่แย่ ๆ เช่นนั้นได้ยังไง?
น่าขบขันสิ้นดี!
เธอจิกปากของเธอ และอยากจะหักกลับไปจ้องหน้าเกรกอรี่ด้วยสายตาอันดุร้าย เพื่อให้เขารู้ว่าเธอเองก็ไม่ใช่คนที่เขาจะมารังแกได้ง่าย ๆ
แต่เมื่อเธอหันหลังกลับมา เธอก็เห็นรูปลักษณ์ของเด็กชายที่กำลังตั้งใจเรียนและกำลังก้มหน้าลงอย่างเงียบสงัด และน่าดึงดูดราวกับอัญมณีที่กำลังสาดแสงอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์
เธอฟุ้งซ่านทันที
บนโลกใบนี้คงจะไม่มีใครหล่อเหลาได้เท่าเด็กชายผู้นี้อีกแล้ว
ฮึ! เพราะว่านายดูดี ดังนั้นฉันจะยกโทษให้!
แต่มันจะไม่มีครั้งหน้า…ฮึม อึม
มันก็เป็นเช่นนั้น วิกกี้อาศัยอยู่กับลุงเกลนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
ในยุคนั้น เรื่องของการคุ้มครองเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะนั้นไม่แข็งแรงนัก
เขาค่อนข้างมีอิทธิพลในสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นเขาจึงรับเลี้ยงเธอด้วยเหตุผลเหล่านั้น
หลังจากนั้น วิกกี้ตัวน้อยก็เข้ามาอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
หลังจากที่เธอเข้ามา เธอตระหนักได้ว่าตระกูลของเกรกอรี่ เกรแฮมนั้นเป็นตระกูลที่ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และเนื่องจากสุขภาพของเขา เกรกอรี่จึงไม่สามารถไปโรงเรียนได้
ลุงเกลนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีและมีการศึกษาที่ดี ดังนั้นตระกูลของเกรกอรี่จึงได้ทำข้อตกลงกับเขา
ทางด้านของตระกูลของเกรกอรี่จะให้เงินสนับสนุนแก่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และลุงเกลนจะเป็นผู้รับผิดชอบในการเป็นครูผู้สอนของเกรกอรี่
อันที่จริง ลุงเกลนรู้ดีถึงภายในจิตใจลึก ๆ ของเกรกอรี่ เพราะถึงแม้ว่าในบางครั้งเขาจะเงียบและเย็นชา แต่เขาก็เป็นเด็กที่ฉลาดหลักแหลม
ไม่ว่าลุงเกลนจะสอนอะไร เขาพูดเพียงแค่ครั้งเดียว เกรกอรี่ก็เข้าใจได้ในทันที
สำหรับเกรกอรี่แล้ว การกระทำของวิกกี้ไม่ได้มีผลกระทบต่อเขาเลย
เพื่อการเรียนการสอนที่สะดวก เกรกอรี่จึงอาศัยอยู่ที่นี่เป็นประจำ
มันแตกต่างจากเธอ เขาอยู่ที่นี่ในฐานะแขก โดยมีคนรับใช้ แม่บ้าน และพี่เลี้ยงอยู่เคียงข้างเขา
เขาเป็นดั่งนายน้อยผู้สูงศักดิ์และหยิ่งผยอง
แตกต่างจากเธอ
เธอเป็นดั่งวัชพืชที่ผู้คนไม่ต้องการ เธอไร้บ้านและจะได้รับในสิ่งที่เธอต้องการเมื่อเธอเอ่ยคำของร้อง
เพื่อการเอาใจลุงเกลน ในทุก ๆ ครั้งที่เธอเลิกเรียน เธอจะเตรียมอาหาร ซักผ้า และทำความสะอาดลานบ้าน บางครั้งเธอยังช่วยลุงเกลนดูแลเด็กกำพร้าที่อายุน้อยกว่าในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอีกด้วย
ถึงแม้ว่าลุงเกลนจะบอกเธอไปหลายครั้งว่าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นก็ตาม
เนื่องจากเขาสัญญาว่าเขาจะดูแลเธอ และลุงเกลนจะไม่ไล่เธอไป ดังนั้นเธอจึงไม่จำเป็นต้องทำให้ใครพอใจในตัวเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก