โรสน้อยตกใจทันที ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ต้องการยอมรับมันแต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะยอมรับได้ว่า นายน้อยคนโตและนายน้อยรองนั้น ไม่ใช่คู่แข่งที่เหมาะสมของเกรกอรี เกรแฮมอย่างแน่นอน
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งและในที่สุดเธอก็พูดความจริง “มะ…ไม่”
คุณนายเกรแฮมหัวเราะอย่างไม่ถือสา
เธอถอนหายใจและพูดว่า “ใช่แล้ว พวกเขาไม่ใช่คู่แข่งที่เหมาะสมของเกรกอรีเลย ตอนนี้แฮร์ริสันเองก็แก่มากแล้ว เห็นได้ชัดว่าในอนาคตใครจะได้สืบทอดเกรแฮม คอร์ปอเรชั่น ในฐานะแม่เลี้ยงที่ไม่เคยได้อยู่ดูแลเขาในตอนที่เขายังเป็นเด็ก ดังนั้นความรักที่เขามีต่อฉันมันอาจจะน้อยกว่าที่เขามีให้กับคนรับใช้ที่นี่เสียอีก”
“มองดูจากสถานการณ์นี้แล้ว เมื่อแฮร์ริสันชราภาพหรือจากไป เธอคิดว่าเราสามคนจะใช้ชีวิตที่เหลือของเราได้ยังไง?”
โรสน้อยตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
เธอมองเห็นแต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอ และไม่พอใจกับทัศนคติของเกรกอรีที่มีต่อคุณนายเกรแฮมในก่อนหน้านี้
แต่เธอไม่เคยคิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้เลย
คุณนายเกรแฮมส่ายหัวและถอนหายใจอีกครั้ง
“เธอคิดว่าฉันยินดีที่จะเข้ามาในที่ของผู้หญิงอีกคนของแฮร์ริสัน และมองดูทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทิ้งไว้ ดูแลลูกชายที่เธอทิ้งไว้ข้างหลังและปล่อยให้ความภาคภูมิใจ และศักดิ์ศรีของฉันจมลงกับพื้นอย่างนั้นเหรอ?
“ไม่ใช่ว่าฉันต้องการ ฉันเพียงแค่ไม่มีทางเลือก ในตอนที่ตระกูลเกรแฮมกำลังต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก อย่างน้อยก็ยังมีใครบางคนที่จะสามารถช่วยเหลือตระกูลเอาไว้ได้ ถ้าไม่มีเขา ตระกูลเกรแฮมก็อาจจะต้องถึงจุดจบ และถ้าไม่มีตระกูลเกรแฮมก็จะไม่มีเรา”
ในขณะที่เธอพูด ดวงตาของเธอก็มืดมนลง จากนั้นเธอก็พูดด้วยเสียงต่ำ “เกรกอรียังคงมีความกตัญญู ถ้าหากวันหนึ่งเราจะต้องต่อสู้เพื่อการสืบทอดขึ้นมาจริง ๆ และถึงแม้ว่าเราจะไม่เคยแสดงพระคุณใด ๆ ต่อเขาเลย แต่ตราบใดที่เราแสดงความกตัญญูเพียงแค่พื้นผิว นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาไม่ปฏิบัติต่อเราสามคนรุนแรงเกินไป ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วหรือยัง?"
โรสน้อยตัวแข็งทื่อ
เธอไม่เคยคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นความคิดของคุณนายเกรแฮมที่อยู่ลึกลงไปภายในหัวใจของเธอ
เธอมองก้มหน้าลงอย่างไม่เต็มใจ เธอดูหวาดกลัวและไม่พอใจเล็กน้อย
เธอพึมพำเบา ๆ “ดูเหมือนว่านายน้อยคนโตและนายน้อยรองจะยังพอมีโอกาส ทำไมคุณจะต้องทำให้ตัวเองทนทุกข์ด้วยวิธีนี้…”
แม้ว่าเสียงของเธอจะเบามาก แต่คุณนายเกรแฮมก็ได้ยินทุกอย่างที่เธอพูด
เธอเลิกคิ้วและถามว่า “แล้วเธอเห็นว่าฉันกำลังทุกข์ทนอยู่หรือเปล่า?”
หืม! มันจะเป็นทุกข์ได้ยังไง?
ถึงแม้ว่าลูกชายของเธอทั้งสองคนจะมีโอกาสสืบทอดตระกูลเกรแฮมจริง ๆ แน่นอนว่าเธอจะรู้สึกดี แต่ถ้าพวกเขาทำไม่ได้ เพียงแค่เธอต้องแสดงด้านที่ดีออกมา มันก็เพียงพอแล้วที่จะช่วยเธอได้ในภายภาคหน้า
มันเหมือนกับการพยายามหาทั้งปลาและอุ้งเท้าหมีไปพร้อม ๆ กัน เธอทำสิ่งนี้เพื่อให้ตัวเองได้รับความคุ้มครองเป็นสองเท่า แล้วมันจะเป็นความทุกข์ได้ยังไง?
เธอเพียงครุ่นคิดอยู่ภายในใจและไม่ได้บอกมันให้โรสน้อยฟัง
โรสน้อยเป็นเพียงสาวใช้ที่มองแต่สิ่งที่อยู่บนพื้นผิว เธอจะค้นหาผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับเท่านั้น ดังนั้นมันจึงไม่มีประโยชน์ที่คุณนายเกรแฮมจะบอกเธอ
คุณนายเกรแฮมส่ายหน้าและหยุดพูด
ทันใดนั้นเอง เสียงเครืองยนต์ของรถยนต์ก็ดังเข้ามาจากภายนอก
เธอชะงักเล็กน้อยแล้วถามว่า “ใครกลับเข้ามา?”
โรสน้อยเองก็งุนงงเช่นกัน เธอพูดว่า “ฉันเองก็ไม่แน่ใจค่ะ นายน้อยยังคงอยู่ในห้องของเขา และยังไม่ได้ออกไปไหน หรือว่าจะเป็นพ่อบ้านออสบอร์น นอกจากนายน้อยแล้ว เขาเป็นคนเดียวที่จะสามารถขับรถเข้าออกจากคฤหาสน์แห่งนี้ได้”
คุณนายเกรแฮมส่ายหน้า
“ไม่ใช่เขา พ่อบ้านออสบอร์นนำให้อาหารเย็นมาให้เราและเพิ่งจะเดินกลับไปที่สวนหลังบ้าน ฉันเพิ่งจะเห็นเขาเดินไปออกไปด้วยตาของฉัน”
เธอนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วสั่ง “โรสน้อย ออกไปดูว่าเป็นใคร”
โรสน้อยพยักหน้าและรีบออกไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากผ่านไปหนึ่งนาทีเธอก็กลับมา
ท่าทางของเธอดูไม่ค่อยดีนัก
แต่เจนนี่นั้นแตกต่างจากเธอ
เจนนี่เป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนและซื่อสัตย์ ดังนั้นวิกกี้จึงไม่อยากให้เธอเดินบนเส้นทางที่ผิด เธอไม่ต้องการเห็นเจนนี่ถูกรังแก แม้ว่าเธอจะไม่สามารถอยู่เคียงข้างเจนนี่ได้ตลอดเวลาเพื่อปกป้องหรือเฝ้ามองดูเธอ แต่วิธีเดียวที่เธอจะสามารถทำได้คือขอให้เธอเปลี่ยนงานและออกจากสถานที่แห่งนั้นทันที
หากไม่มีเงินก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนงานหรือการดำเนินชีวิต
ดังนั้นวิกกี้จึงขอเงินหนึ่งหมื่นดอลลาร์จากพ่อบ้านออสบอร์นเพื่อนำไปให้เจนนี่ เจนนี่เคยบอกกับเธอว่าเธออยากจะเปิดร้านเสื้อผ้าแฟชั่นเป็นของตัวเอง และวิกกี้ก็ยังจำมันได้ดี
แม้ว่าเงินจำนวนหนึ่งหมื่นเหรียญจะไม่ใช่เงินจำนวนมาก แต่มันก็เพียงพอสำหรับการเริ่มต้นในการเปิดร้านเล็ก ๆ ได้
ร้านค้าให้เช่าในย่านนี้มีราคาไม่สูงมากนัก ดังนั้นมันจึงเพียงพอสำหรับเจนนี่ในการเริ่มต้นทำสิ่งที่เธอใฝ่ฝัน
แต่ถึงอย่างนั้น เจนนี่ก็ยังต้องพึ่งพาความสามารถของตัวเธอเอง เพื่อให้เธอสามารถเดินต่อไปบนถนนสายนี้ได้
วิกกี้ทำได้เพียงแค่ช่วยเหลือเธอ แต่วิกกี้ไม่สามารถเดินร่วมทางไปกับเธอได้ และเธอก็คิดว่าทุกคนจะต้องรู้จักรับผิดชอบต่อชีวิตของตัวเองในท้ายที่สุด
ดังนั้นวิกกี้จึงทำได้เพียงแค่ให้เงินเธอและอธิบายเหตุผลของเธอให้เจนนี่ฟัง
เมื่อเจนนี่ได้ยินเช่นนั้น ในตอนแรกเธอก็ปฏิเสธที่จะรับมันไว้
เป็นเพราะเธอรู้ดีว่าเงินหนึ่งหมื่นเหรียญไม่ใช่เงินจำนวนเล็กน้อยสำหรับวิกกี้ และมันก็มากเกินไป เธอจึงไม่สามารถยอมรับเอาไว้ได้
ดังนั้นวิกกี้จึงบอกกับเธอว่าจะให้เจนนี่ยืมเงินจำนวนนี้ และค่อยนำมันมาคืนเธอเมื่อเจนนี่มีรายได้ที่มั่นคง
เจนนี่รับเงินมาอย่างไม่เต็มใจ
จากนั้นเจนนี่ก็ถามวิกกี้ว่าเธอหาเงินจำนวนนี้มาได้ยังไง
วิกกี้เองก็เตรียมคำตอบของเธอไว้แล้วเช่นกัน
วิกกี้บอกเพียงแค่ว่า เธออาศัยอยู่ที่บ้านเพื่อนและกำลังช่วยเพื่อนของเธอทำบางสิ่งบางอย่าง ดังนั้นเงินนี้จึงเป็นเงินเดือนล่วงหน้าของเธอ เธอพูดเช่นนั้นเพียงเพราะว่าเธอไม่ต้องการให้เจนนี่เป็นกังวล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก