ในสถานที่ที่วิกกี้ได้อาศัยอยู่ มีพร้อมทั้งอาหารเตรียมไว้ให้กับเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินมากมายนัก ทั้งหมดที่เธออยากจะทำก็คือ เอาเงินให้กับเจนนี่ไว้เพื่อลงทุน
หลังจากที่เจนนี่ได้ฟังแบบนั้นแล้ว เธอจึงทิ้งความลังเลและความกังวลในใจออกไป พลางยอมรับเงินนั้นไว้ด้วยความโล่งใจ
วิกกี้ไม่อยากอยู่กับเจนนี่นานจนเกินไป เธอจึงรีบกลับไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเธอกลับมาถึงที่คฤหาสน์ เธอก็ได้สังเกตเห็นรถคันหนึ่งที่เธอไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนจอดอยู่ข้างนอก
เธอเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยพลางเดินลงจากรถ ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปในอาคาร เธอก็ได้ยินเสียงเหมือนผู้หญิงคนหนึ่งกำลังโมโหอยู่
“ใครเป็นคนอนุญาตให้พวกเธอพาผู้หญิงคนนี้เข้ามากันมิทราบ? พวกเธอไม่รู้กันเลยเหรอว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเข้ามายังตระกูลเกรแฮม?”
น้ำเสียงที่เปล่งออกมาของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ปิดบังความโกรธเอาไว้เลย วิกกี้หันหน้าไปมองและเห็นพ่อบ้านออสบอร์นจากหางตาของเธอ เขาวางมือไว้แนบชิดกายของเขาด้วยท่าทีที่สงบเสงี่ยม และก้มศีรษะลงราวกับว่าเขาไม่ได้รับฟังอะไรเลยแม้แต่น้อย
ภาพความทรงจำได้แวบเข้ามาในดวงตาของเธอ วิกกี้หรี่ตาลง เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และในที่สุดเธอก็จำได้ว่าน้ำเสียงที่แสนจะคุ้นเคยนี้เป็นของใคร
น้ำเสียงแบบนี้เธอเคยได้ยินมันมาก่อน
เธอคือแม่เลี้ยงของเกรกอรี แต่เขาก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอแล้วหนิ?
เมื่อสี่ปีที่แล้ว ก่อนที่เรื่องระหว่างเกรกอรีกับเธอจะจบลงนั้น แม่เลี้ยงของเขาคนนี้รู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นอย่างดี
เธอกับเกรกอรีต้องการที่จะหมั้นหมายกันเอาไว้ แต่แม่เลี้ยงคนนี้กลับต่อต้านเป็นอย่างมาก
คำพูดมากมายได้ถาโถมเข้ามาทำร้ายจิตใจของเธอ
ในขณะที่วิกกี้กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ความเย็นยะเยือกก็ได้แวบผ่านเข้ามาในดวงตาของเธออย่างรวดเร็ว
อ่า วันนี้เธอมาถึงที่นี่ทำไมกันนะ?
เมื่อสักครู่นี้เธออาจจะเห็นแล้วว่าวิกกี้เพิ่งจะกลับเข้าบ้านมา
เธอจึงเริ่มตะโกนและส่งเสียงดังมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเห็นว่าวิกกี้ได้กลับมาถึงที่บ้านแล้ว นี่เป็นการข่มขวัญเธออยู่ใช่ไหม?
ดูเหมือนว่าหลังจากสี่ปีที่ผ่านมา มุมมองของเธอที่มีต่อวิกกี้ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย
แม้ว่าวิกกี้จะคิดแบบนั้น แต่เท้าของเธอกลับไม่ยอมหยุด เธอยังคงก้าวเดินไปข้างหน้าต่อไป
คิ้วที่โก่งโค้งรับกับดวงตาอันคมสวย บวกกับริมฝีปากสีแดงที่เผยยิ้มแบบผิวเผิน และท่าทางเดินตัวยืดตรงเต็มไปด้วยความสง่างาม ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและความภาคภูมิใจของผู้หญิงคนนี้อย่างสมบูรณ์แบบ เธอเดินตรงเข้าไปในโถงทางเข้าราวกับราชินีที่กำลังมองออกไปข้างนอกโลก
พ่อบ้านออสบอร์นกำลังยืนอยู่ข้างหลังของเธอ เขาอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเมื่อมองไปที่เธอ
เขาเป็นคนที่คุ้นเคยกับวิกกี้อยู่แล้ว และเขาก็ชอบเธอมาโดยตลอด เขาเชื่อมาเสมอว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนเรียบร้อยและสุภาพเป็นอย่างมาก และถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีในการรับเลือกให้มาเป็นคุณนายหญิงของเกรแฮมคนต่อไป
แต่ทว่าเขากลับไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะพราวเสน่ห์ได้มากถึงขนาดนี้ ความรู้สึกนี้มันเหมือนกับว่า...
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้มันราวกับว่าเธอไม่ใช่คนที่เขาเคยรู้จักมาก่อนอย่างสิ้นเชิง!
แม้ว่าเธอจะมีผิวพรรณแบบเดียวกัน แต่วิกกี้คนที่สวยและใจกว้างในเมื่อก่อนจะปล่อยออร่าออกมาอย่างรุนแรง จนราวกับว่าเธอกำลังดูถูกเหยียดหยามทุกคนได้อย่างไร?
ดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้นมา เขาขมวดคิ้วและดูเหมือนว่าเขากำลังนึกถึงอะไรบางอย่างอยู่
ในตอนนี้มีเสียงอึกทึกดังขึ้นที่ทางเข้า เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะบังคับให้ความกังวลเหล่านั้นฝังเอาไว้ในใจ พลางเดินเข้าไปในคฤหาสน์
“ฮะ! การหมั้นหมายของเธอถูกยกเลิกไปตั้งนานแล้ว เธอจะมาที่นี่ทำไมอีก?”
ภายในห้องนั่งเล่นอันโอ่อ่านี้ หญิงวัยกลางคนกำลังนั่งเอาแขนไขว้กันบนโซฟากว้าง เหล่าชายหญิงที่สวมเสื้อผ้าอันเรียบง่ายได้ยืนตั้งแถวอยู่ตรงหน้าของเธอ พวกเขาทั้งหมดก้มหน้าลงด้วยสีหน้าไม่พอใจ
วิกกี้เดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นด้วยความสงบ เธอกวาดสายตามองไปทั่วทั้งห้องอย่างเย็นชา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ
ในเวลาเดียวกันนั้น เธอก็ไม่หยุดที่จะตรวจสอบและมองทุกคนทีละคนที่กำลังยืนอยู่ตรงนั้น
แต่ทว่าเธอกลับไม่เจอเกรกอรี เกรแฮม ตามที่ได้คาดคิดเอาไว้
เธอขมวดคิ้ว
เธอโต้กลับอย่างหยาบคายในทันทีว่า “ในเมื่อคุณพูดมากมาขนาดนี้แล้ว ฉันก็กล้าท้าให้คุณทำตัวไม่ดีกับฉัน!”
ด้วยคำตอบกลับประโยคเดียวนั้น ทำให้ในเวลานี้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นถึงกับตกตะลึง
คุณนายเกรแฮมไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า หลังจากสี่ปีที่ผ่านพ้นไป ประโยคแรกที่ได้ยินจากปากของวิกกี้จะพูดแบบนี้กับเธอ
ในทางที่เลวร้าย องค์กรคฤหาสน์หงส์แดงได้ถูกทำลายลงอย่างสมบูรณ์ วิกกี้ไม่เพียงแต่ไม่เหลืออะไรแล้ว แต่เธอยังมีประวัติการติดคุกติดตัวอีกด้วย
ถึงแม้ว่าเธอจะพ้นโทษและได้รับการปล่อยตัวแล้วก็ตาม แต่สิ่งนี้มันก็ยังคงถือว่าเป็นมลทินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอ
ความจริงที่ว่าครอบครัวเกรแฮมได้เชิญให้เธอกลับมาที่นี่ คงจะส่งผลให้เกิดการพูดซุบซิบนินทากันอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการที่ให้ที่พึ่งแก่เธอในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในชีวิตของเธอ มันคงจะไม่เป็นอะไรถ้าหากว่าพวกเขาจะไร้ซึ่งความกตัญญู แต่กับเธอ เธอกล้าพูดจาหยาบคายแบบนี้ออกมาได้อย่างไร?
ในตอนแรกคุณนายเกรแฮมเหมือนจะถือไพ่ที่เหนือกว่า แต่ว่าในตอนนี้เธอกำลังโกรธจัด
คุณนายเกรแฮมถอนหายใจออกมาพร้อมกับลุกขึ้นยืน นิตยสารทั้งหมดที่วางอยู่บนโซฟาล้มระเนระนาดลงมา เพราะการขยับตัวที่รุนแรงของเธอ เธอจ้องมองด้วยความโกรธ พร้อมกับแสดงท่าทีที่แตกต่างออกไปจากภาพลักษณ์ตามข่าวลือที่ว่ากันว่าเธอนั้นเป็นคนอ่อนโยน และสง่างามอย่างสิ้นเชิง
เธอพูดจาติดตลกว่า “ไม่เลวเลยหนิ! เธอดูเปลี่ยนไปหลังออกมาจากคุกนะ เธอคิดว่าฉันจะกลัวน้ำเสียงแบบนั้นของเธอเหรอ? ฮึ่ม! แต่ว่าครอบครัวเกรแฮมเป็นครอบครัวนักธุรกิจที่ดี เราไม่จำเป็นต้องลดตัวลงไปโต้เถียงกับคนประเภทอย่างเธอ บางทีวันนี้ฉันคงอาจจะต้องช่วยตัดสินใจอะไรบางอย่าง!”
พูดยังไม่ทันขาดคำ แววตาของเธอก็ได้เปลี่ยนไป เธอตะโกนใส่โรสน้อยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ของเธอว่า “โรส ไล่เธอออกไปซะ!”
โรสน้อยตอบรับคำสั่งด้วยความเคารพและรีบวิ่งไปข้างหน้า เพื่อคว้าแขนของวิกกี้เอาไว้ คนรับใช้คนอื่นที่เหลือที่เห็นอยู่ในขณะนั้น ไม่มีใครก้าวขาออกไปช่วยสักคน พวกเขาต่างพากันถอยหลังออกมา
แม้ด้วยการแสดงออกท่าทางเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ไม่อาจรอดพ้นไปจากสายตาของวิกกี้ได้
ริมฝีปากโค้งมน พร้อมกับเสียงหัวเราะอันเยือกเย็น และดวงตาที่หรี่ลงของเธอรวมตัวกัน ดูเฉียบขาดราวกับดวงจันทร์ดับ มือทั้งสองของเธอกำหมัดเอาไว้แน่น เผยให้เห็นถึงข้อมือที่ซีดเผือดของเธอ
ทันใดนั้นเอง เธอก็ได้ยินเสียงของการเคลื่อนไหว ดวงตาของเธอบ่งบอกว่ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ เธอจึงค่อย ๆ คลายหมัดของเธอออก
โรสน้อยรีบวิ่งไปตรงหน้าของเธอและกำลังจะคว้าแขนเธอเอาไว้
วิกกี้ดูเหมือนว่าจะตกใจขึ้นมา แต่เธอก็ไม่ได้ตอบโต้หรือสวนกลับต่อการโจมตีครั้งนี้เลยแม้แต่นิดเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก