เมื่อรู้สึกได้ถึงความเงียบของเธอ เกรกอรีก็เงยหน้าขึ้นและมองเธอ
วิกกี้เม้มริมฝีปากแน่น ในไม่ช้าเธอก็ตอบว่า “ใช่ ฉันตัดสินใจแล้ว”
การแสดงออกของเกรกอรียังคงไม่เปลี่ยนแปลงนอกจากดวงตาของเขาที่ดูมืดมนเล็กน้อย
“เธอตัดสินใจว่ายังไง?”
วิกกี้พูดเบา ๆ “ฉันยอมรับว่าเมื่อสี่ปีที่แล้วเราถูกหลอก แต่นายเพิกเฉยต่อคำอ้อนวอนของฉันและฆ่าพี่น้องของฉัน ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถแสร้งทำเป็นว่าสิ่งนั้นไม่เคยเกิดขึ้นได้”
เกรกอรีเริ่มมีสีหน้าไม่พอใจ “เธอจะบอกว่า เธอต้องการที่จะต่อต้านฉันเหรอ?”
วิกกี้หยุดชะงักและพูดต่อ “ก่อนหน้านี้ฉันบอกตัวเองเสมอว่าฉันจะต้องแก้แค้นนายทันทีที่ฉันออกมาจากคุก เพื่อนำความยุติธรรมมาสู่ดวงวิญญาณของพี่น้องของฉัน
“แต่ตอนนี้ฉันตระหนักได้ว่าทั้งหมดเป็นเพราะความโลภของพวกเขา ก่อนหน้านี้ผู้คนที่ถอยหลังให้องค์กรนกหงส์หยกต่างก็ต้องพบกับจุดจบหลังจากที่พวกเขาเข้าร่วมสมาคมจีน
“เราจะให้พวกเขาได้ชดใช้ในสิ่งที่พวกเขาทำลงไป แต่สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรา เกรกอรี เกรแฮม ฉันจะไม่ยกโทษให้นาย”
เกรกอรีมองดูเธอโดยไม่พูดอะไร
หลังจากที่วิกกี้ถูกปล่อยตัวออกมา เธอก็รู้สึกว่าเธอแข็งกร้าวและจะไม่มีวันให้อภัย เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสี่ปีที่ผ่านมาและช่วงเวลาที่เขาส่งเธอเข้าคุกนั้นได้ตามหลอกหลอนเธออย่างไร้ความปราณี จนเธอไม่สามารถลืมทุกสิ่งทุกอย่างและก้าวต่อไปได้
เหตุการณ์เหล่านั้นยังคงตามหลอกหลอนเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่เห็นด้วยกับคำขอของเกรกอรี
เมื่อผ่านไปครู่หนึ่งเกรกอรีก็ถามขึ้นว่า “แล้วตอนนี้เธอต้องการอะไร?”
ต้องการทำอะไร?
วิกกี้จ้องมองเขาอย่างว่างเปล่า แท้จริงแล้วเธอเองก็ไม่เคยพิจารณาเกี่ยวกับมัน
เธอไม่รู้ว่าเธอต้องการที่จะทำอะไร เธอเพียงรู้แค่ว่าเธอไม่สามารถเป็นเช่นนี้ได้อีกต่อไป
ความเงียบเข้าปกคลุมห้องอาหารอีกครั้ง
เกรกอรีหยิบตะเกียบขึ้นมาราวกับว่าเขายังคงคาดหวังคำตอบจากเธอและพูดว่า “ถ้าเธอยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ ก็กินข้าวกันก่อนเถอะ”
จากนั้นเขาก็เริ่มกินอย่างเงียบ ๆ
วิกกี้ไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อคืน เมื่อตื่นเช้ามาเธอจึงหิวมาก ดังนั้นเธอจึงหยิบตะเกียบขึ้นมาและกินอย่างไม่เขินอาย
หลังจากอาหารเช้า โทรศัพท์ของเกรกอรีก็ดังขึ้น เขาจึงเดินออกไปรับสายในขณะที่วิกกี้ยังคงนั่งอยู่ เธอมองดูสาวใช้กำลังเก็บถ้วยชามที่เหลือ เธอครุ่นคิดว่าเธอต้องการใช้โอกาสนี้บอกกับเกรกอรี
อย่างไรก็ตาม เธอตระหนักได้ว่าเธอยังคงไม่มีคำตอบสำหรับคำถามก่อนหน้านี้ ดังนั้นเธอจึงยักไหล่อย่างมาใส่ใจ จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นและเดินออกไป
เกรกอรีที่ยืนอยู่และกำลังคุยโทรศัพท์ราวกับว่าเขาไม่ได้สังเกตเห็นว่าเธอเดินออกไป
แต่เมื่อเธอเดินออกไปแล้ว ริมฝีปากของเขาก็ขดขึ้นเป็นรอยยิ้ม
บรรยากาศกำลังดี ในขณะที่ดวงอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้า หลังจากอาหารเช้า ดูเหมือนว่าวิกกี้จะรู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกง่วงนอนขึ้นมา ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจกลับไปที่ห้องนอนของเธอเพื่อพักผ่อน
เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาบ่ายโมงแล้ว จู่ ๆ ใครบางคนก็เคาะประตูห้องของเธออย่างรุนเเรง เธอขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจลุกขึ้นทันที
ทันทีที่เธอเปิดประตูออกมา เธอก็เห็นยูเลียนากำลังยืนอยู่ที่ประตูพร้อมกับทำหน้าบึ้ง
วิกกี้ยังคงสงบแม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับ "เพื่อนสนิท" ของเกรกอรี และถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยชินกับผู้หญิงทุกประเภทที่อยู่เคียงข้างเขาแต่เธอก็รู้ดีว่าโดยพื้นฐานจากสถานะที่สูงส่งและทรงพลังของเขาแล้ว เป็นเรื่องปกติที่เขาจะไม่ถูกดึงดูดโดยผู้หญิงที่ธรรมดา ๆ
ยูเลียนารู้สึกประหลาดใจในทันที ในตอนแรกเธอคิดว่าวิกกี้จะตีเธอตามสัญชาตญาณของเธอ ยูเลียนาสั่นเทาเล็กน้อย ในขณะที่เธอถามวิกกี้ “ทำไม?”
วิกกี้จ้องมองเธออย่างไร้อารมณ์และตอบว่า “คุณกล่าวหาว่าฉันขโมยสร้อยคอของคุณไปไม่ใช่เหรอ? เข้ามาค้นดูเองสิว่าคุณจะเจอของของคุณหรือเปล่า”
หลังจากนั้นเธอก็นั่งลงบนโซฟาอย่างไม่ใส่ใจ
ถึงคราวที่ยูเลียนาจะต้องเป็นฝ่ายลังเล
เมื่อวานนี้เมื่อเธอกลับมาหลังจากการแข่งกีฬากับเกรกอรี สร้อยคอของเธอก็หายไป
เธอมักจะสวมสร้อยคอเอาไว้ที่คอของเธอ และมันก็ไม่ได้มีค่าอะไรเป็นพิเศษ ไม่เช่นนั้นเมื่อตอนที่แฟนเก่าของเธอขายเธอไป พวกค้ามนุษย์ผู้โลภมากเหล่านั้นคงจะเอามันไปจากเธอแล้ว
อย่างไรก็ตาม สร้อยคอเป็นของขวัญเพียงชิ้นเดียวที่แม่ผู้ล่วงลับของเธอได้ทิ้งเอาไว้ให้เธอ ดังนั้นมันจึงมีค่ามาก
ยูเลียนาจ้องไปที่วิกกี้ ในขณะที่ความคิดเหล่านั้นผ่านเข้ามาในหัวของเธอ
ในทางกลับกัน วิกกี้ไม่ได้ใส่ใจและมั่นใจในการกระทำของเธอ
ยูเลียนาชะงักและไม่สามารถพูดอะไรได้อีก
สร้อยคอมีความสำคัญต่อเธอมากที่สุด และคนรับใช้ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้ สมมติว่าถ้าพวกเขาอยากจะขโมยข้าวของของเธอ กล่องเครื่องประดับในห้องของเธอนั้นเต็มไปด้วยเครื่องประดับราคาแพงที่พ่อบ้านออสบอร์นได้มอบมันให้แก่เธอ แต่กลับไม่มีอะไรหายไปยกเว้นสร้อยคอ
เห็นได้ชัดว่าใครก็ตามที่ขโมยมันไปนั้นไม่ได้ทำไปเพื่อเงิน และถ้าไม่ใช่เพื่อเงินก็คงเพื่อความสะใจ
ทั่วทั้งคฤหาสน์มีเพียงพ่อบ้านออสบอร์น และวิกกี้ที่ใกล้ชิดกับเธอ
พ่อบ้านออสบอร์นเป็นคนที่มีความเอาใจใส่และดูสุภาพเรียบร้อย นอกจากนี้เขาเป็นยังผู้ชายและยังมีอายุมากอีกด้วย ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำเช่นนั้นเพื่อกลั่นแกล้งเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก