ผู้ต้องสงสัยคนเดียวที่เหลืออยู่คือ วิกกี้ โทมัส
จึงเป็นเหตุผลที่ยูเลียนามาตามหาสร้อยคอของเธอกับวิกกี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากพฤติกรรมของวิกกี้แล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้กังวลใจกับข้อเท็จจริงที่ว่ายูเลียนากำลังจะเข้าไปค้นห้องของเธอเลย หรือว่าบางทีเธออาจจะไม่ได้ขโมยมันไปจริง ๆ
ยูเลียนาครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ แต่เมื่อเธออยู่ที่นี่แล้วเธอก็ควรจะลองเข้าไปหาดู ดังนั้นเธอจึงรวบรวมความกล้าและกล่าวว่า “ได้ ฉันจะค้นหามันเอง!”
จากนั้นเธอก็พาจินนี่สาวใช้ของเธอเข้ามาในห้อง
ในระหว่างที่ผู้หญิงสองคนกำลังรื้อค้นห้องอยู่นั้น วิกกี้ยังคงนั่งอยู่บนโซฟาอย่างไม่ใส่ใจ
ตรงกันข้าม แอนเดรียที่กำลังเข้ามาเสิร์ฟชาให้วิกกี้ก็รู้สึกตกใจเมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น
“คุณโทมัส พวกเขากำลังทำอะไรคะ?” แอนเดรียรู้สึกประหม่า
วิกกี้ตอบเธอด้วยท่าทางสงบนิ่ง “ปล่อยให้พวกเขาค้นหาไปแอนเดรีย”
แอนเดรียรู้สึกรำคาญใจ แต่เธอก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
ห้องของวิกกี้ไม่ใหญ่มากนัก และวิกกี้เองก็ไม่ชอบให้มีสิ่งของมากเกินไปอยู่ในห้องของเธอ ดังนั้นการตกแต่งจึงค่อนข้างเรียบง่ายและง่ายต่อการค้นหา
ยี่สิบนาทีต่อมาการค้นหาก็สิ้นสุดลง
ยูเลียนาโกรธมากเมื่อเธอสังเกตเห็นวิกกี้ที่ยังคงนั่งอยู่บนโซฟาโดยไม่สนใจเธอเลย เธอรู้สึกได้ถึงความโกรธเกรี้ยวที่ท่วมท้นจนใบหน้าของเธอร้อนผ่าว
วิกกี้เงยหน้าขึ้นมองยูเลียนาอย่างสงบและถามว่า “คุณค้นหาเสร็จหรือยัง? เจอสร้อยคอของคุณหรือเปล่าล่ะ?”
ยูเลียน่ากัดริมฝีปากของเธอแน่น เธอโต้กลับอย่างดื้อรั้น “มันอาจจะไม่ได้อยู่ในห้องของเธอ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่ได้เป็นคนขโมยมันไป เธออาจจะซ่อนมันไว้ที่ไหนสักแห่ง”
การกระทำของวิกกี้ ทำให้ยูเลียนาตกตะลึงมากขึ้น
วิกกี้หัวเราะเยาะและไม่ได้มีร่องรอยของความโกรธเลยแม้แต่น้อย เธอยังคงนั่งอยู่ที่เดิมและกล่าวว่า “ดูจากสิ่งที่คุณพูดแล้ว ไม่ว่ายังไงคุณก็จะคิดว่าต้องเป็นฉัน”
ยูเลียนากลืนน้ำลายด้วยความรู้สึกประหม่า ภายใต้การจ้องมองที่เยือกเย็นของวิกกี้
อย่างไรก็ตาม มันสายเกินไปที่จะถอยกลับในตอนนี้ ยูเลียนาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องโทษผู้หญิงคนนี้ แทนที่เธอจะถอยหนีแต่เธออาจจะทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องใหญ่เลยก็ได้ เพราะผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือการกำจัดวิกกี้ออกไป
แววตาชั่วร้ายปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ
เธอจ้องมองวิกกี้ด้วยรอยยิ้มประชดประชัน “ทุกคนรู้ดีว่าฉันกำลังพยายามที่จะให้โอกาสเธอถ้าหากว่าเธอรู้สึกผิด วิกกี้ ฉันบอกเธอตรง ๆ ว่าแม่ของฉันได้มอบสร้อยคอเส้นนั้นให้กับฉันและมันก็สำคัญกับฉันมากด้วย ถ้าเธอเป็นคนขโมยมันไป ฉันขอเตือนว่าให้เธอส่งมันคืนมาให้ฉัน ถ้าไม่อย่างนั้น…”
“ถ้าไม่อย่างนั้น?” วิกกี้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยือก
แต่ยูเลียนาไม่ได้ยิน ดังนั้นเธอจึงพูดต่ออย่างไม่ใส่ใจ “ถ้าไม่อย่างนั้น ฉันจะให้เกรกอรีไล่เธอออกไป! เตรียมตัวเอาไว้ได้เลย!”
“ฮึ!” วิกกี้ยิ้มเยาะ
ในขณะที่ความคิดเหล่านั้นแวบเข้ามาในหัวของยูเลียนา วินาทีถัดมาเธอก็รู้สึกเจ็บที่ใบหู วิกกี้หยิบกริชออกมาแล้วกดใบมีดอันวาววับลงกับหูของเธอ
ใบหน้าของยูเลียนาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เธอกลายเป็นหินและไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อได้
เธอพูดตะกุกตะกัก “เธอ…เธอกำลังพยายามจะทำอะไร?”
วิกกี้หัวเราะเยาะ เธอสูดหายใจเข้าอย่างแผ่วเบา
เสียงของเธออ่อนโยน ราวกับว่าเธอกำลังพูดจาอ่อนหวานแทนที่จะเป็นการขู่เธอ
แต่สิ่งที่เธอทำนั้นกลับน่ากลัวยิ่งนัก ราวกับงูพิษที่เย็นยะเยือกกำลังเลื้อยเข้าไปในหูของยูเลียนา จนทำให้ขนบนผิวหนังของเธอลุกซู่
วิกกี้พูดเบา ๆ “เดาสิว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนสุดท้ายที่มันกล่าวหาฉันเช่นนี้”
ยูเลียนาเองก็ยังไม่รู้จักวิกกี้ดีพอ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนสุดท้ายคนนั้นคือใคร แล้วเธอจะรู้คำตอบได้ยังไง?
อย่างไรก็ตาม วิกกี้ไม่ได้คาดหวังให้เธอตอบคำถาม วิกกี้จึงกล่าวต่อ “เธอตายไปแล้ว เธอตายด้วยกริชเล่มนี้ ฉันกรีดผิวหนังของเธออย่างช้า ๆ บาดแผลบนใบหน้า ร่างกาย และขาของเธอรวมกันทั้งหมด 91 แผล จากนั้นฉันก็กรีดคอของเธอ และเธอก็ตายลงในที่สุด”
ใบหน้าของยูเลียนาซีดเซียวด้วยความกลัว เธอสามารถจินตนาการได้ถึงความเจ็บปวดเมื่อใบมีดวิ่งผ่านได้ทันที ผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าของเธอเป็นดั่งมารจากขุมนรก
เสียงของเธอสั่นเทา “ถ้า...ถ้าเธอกล้าแตะต้องฉัน เกรกอรีจะต้องไม่ปล่อยเธอไปแน่นอน”
วิกกี้หัวเราะเยาะอย่างเยือกเย็น "โอ้? จริงเหรอ? แต่ถ้าฉันไม่เชื่อล่ะ? ทำไมเราไม่ลองมาดูกันว่า เขาจะแก้แค้นให้คุณไหมเมื่อคุณตาย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก