วิกกี้ โทมัสไม่ได้ออกไปไหนไกล เธอนั่งอยู่ในสวนด้านหน้าของอาคารรับรองเพียงชั่วครู่
แสงแดดอันอบอุ่นสาดส่องมายังเหนือศีรษะ ราวกับว่ามีสำลีก้อนใหญ่กำลังห่อหุ้มร่างกายของเธอเอาไว้ ชั้นแล้วชั้นเล่าจนเกิดความอบอุ่นขึ้นมา
แอนเดรียที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็กลัวว่าวิกกี้จะเป็นหวัดขึ้นมา เธอจึงเอาผ้าห่มบาง ๆ มาห่มให้วิกกี้
“คุณโทมัสคะ ดอกบัวในสระทางโน้นกำลังบานสะพรั่ง คุณอยากจะไปดูรึเปล่าคะ?”
มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ที่ส่วนนอกสุดในสวนของคฤหาสน์ พ่อบ้านออสบอร์นมักจะให้คนคอยไปดูแลที่นั้นอยู่เสมอ ส่วนเกรกอรี เกรแฮม เขาไม่ค่อยได้ไปที่นั่น
พ่อบ้านออสบอร์นรู้สึกว่าสระน้ำว่างเปล่าจนเกินไปและดูไม่ค่อยสวยมากนัก เขาจึงขอปลูกดอกบัวไว้ที่นั่น
ตอนนั้นยังเป็นเดือนเมษายนอยู่ จึงไม่ใช่ฤดูที่ดอกบัวจะเบ่งบาน
หรือว่าบางทีอาจจะเป็นเพราะสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น หรืออาจจะเป็นเพราะความมากเรื่องของพ่อบ้านออสบอร์นที่สั่งให้เพาะพันธุ์ที่ไม่เหมือนกัน แต่ถึงยังไงในตอนนี้ดอกไม้หลายดอกก็ได้เบ่งบานขึ้นมาแล้ว
วิกกี้กำลังครุ่นคิด เนื่องจากว่าเธอไม่มีอะไรจะทำที่ดีไปมากกว่านี้แล้ว เธอจึงเลือกที่จะไปดูดอกบัว
เธอไปพร้อมกับรถเข็นของเธอ
แอนเดรียเข็นรถเข็นพาเธอไปที่สระน้ำอย่างมีความสุข
เมื่อไปถึงที่นั่นก็มีดอกไม้สีชมพู และสีขาวขนาดใหญ่จำนวนมากบนใบบัวที่ลอยอยู่
บางดอกยังเป็นเพียงแค่ดอกตูม แต่ส่วนใหญ่เริ่มบานแล้ว
แอนเดรียรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“ว้าว! ฉันเพิ่งจะมาดูเมื่อไม่กี่วันก่อนเองค่ะ ตอนนั้นมันยังตูมอยู่เลย ทำไมมันถึงได้บานเร็วขนาดนี้กันนะ?”
ขณะที่เธอพูด เธอก็วิ่งไปเด็ดดอกบัวออกมาหนึ่งอัน
วิกกี้นั้งมองดูดอกไม้ที่ขาวราวกับหิมะ สีของดอกตัดกับใบสีเขียวที่อยู่ข้างล่าง มันดูละเอียดอ่อนและสวยงาม แค่ชำเลืองมองเพียงครั้งเดียวก็ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความเห็นอกเห็นใจในหัวใจของเธอขึ้นมา และยังทำให้เธอเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“เธอเพิ่งจะเก็บดอกไม้ของคุณลุงออสบอร์นไปนะ! ถ้าหากว่าเขารู้ขึ้นมาล่ะก็ เธอจะต้องเจอดีแน่ ๆ เลย!” เธอพูดจาติดตลก
แอนเดรียบ่นออกมาเบา ๆ
“ไม่มีทางหรอกค่ะ! คุณลุงออสบอร์นเป็นคนใจดี ครั้งสุดท้ายที่เขาปลูกดอกไม้เหล่านั้น เขายังขอให้ใครสักคนเก็บมาให้กับเราเป็นพิเศษเลยด้วยซ้ำ เขาบอกว่าถ้ามีดอกไม้ในห้องของผู้หญิง ผู้หญิงคนนั้นก็จะดูมีพลังมากขึ้นด้วย ดังนั้นเขาจะไม่รังเกียจอย่างแน่นอน!”
วิกกี้ยิ้มเล็กน้อยกับคำพูดพวกนั้น
พ่อบ้านออสบอร์นเป็นคนแบบนี้มาตลอด เขาใจดีและมีน้ำใจต่อทุกคนเสมอ
ทั้งสองคนหยอกล้อและหัวเราะกัน จนกระทั้งแอนเดรียที่อยู่ดี ๆ ก็ตัวแข็งทื่อขึ้นมาอย่างกระทันหัน
เธอวิ่งเหยาะ ๆ ไปด้านข้างของวิกกี้เพียงแค่ไม่กี่ก้าว พลางกระซิบกับเธอว่า "คุณโทมัสคะ นั่นคุณลินช์ใช่ไหมคะ?"
วิกกี้เอียงศีรษะเล็กน้อยพลางมองไปทางที่แอนเดรียกำลังชี้ไป
แน่นอนว่าเธอเห็น ยูเลียนา ลินช์ กำลังเดินก้มหน้าไปอีกทางด้วยความรวดเร็ว
แอนเดรียขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“เธอจะไปที่ไหนกันนะ? แล้วทางนั้น...ก็เป็นที่พักของนายน้อยไม่ใช่เหรอ? นายน้อยเคยบอกไว้ว่าไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ไปหาเขาในตอนกลางวันไม่ใช่เหรอ?”
วิกกี้ใบหน้าซีดเผือด แต่ดวงตากลับมืดลง
เธอพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เฉยเมยว่า “อาจจะมีบางอย่างเกิดขึ้นก็ได้”
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็เลิกมองไปทางนั้นทันที
แอนเดรียสังเกตเห็นสีหน้าของวิกกี้ ดูเหมือนว่าใบหน้าของวิกกี้จะไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิม เธอดูไม่สนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ว่าดวงตาของเธอกลับเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย
ทันทีหลังจากนั้น แอนเดรียยิ้มและพูดว่า “คงจะเป็นอย่างที่คุณว่าแหละค่ะ ไม่อย่างนั้นนายน้อยจะเรียกพบคุณลินช์ใปทำไม ในเมื่อเขาเกลียดเธอมากขนาดนั้น อีกอย่างถ้าหากว่าเขาอยากจะพบกับใครสักคนจริง ๆ คน ๆ นั้นจะต้องเป็นคุณค่ะ!”
นิ้วมือของวิกกี้ที่กำลังลูบไล้กระโปรงของเธออยู่นั้นถึงกับสะดุด
เธอเงยหน้าขึ้นมองแอนเดรีย
สายตาของเธอเฉียบแหลมราวกับมีดที่แหลมคม เธอมองตรงไปยังแอนเดรียและถามเธอว่า “ทำไมเธอถึงพูดอย่างงั้นล่ะ?”
แอนเดรียเผยยิ้มออกมาด้วยความสดใส
“ก็มันจริงหนิค่ะ! ใคร ๆ ก็ดูออกค่ะ ว่าหัวใจของนายน้อยอยู่กับคุณโทมัส คุณลินช์แค่ไม่ยอมรับความจริงเท่านั้นเอง ดูสิคะว่ามันกี่ครั้งแล้วที่นายน้อยมาหาคุณ? และมันกี่ครั้งที่เขาไปหาเธอ? ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเธอชอบทำตัวหน้าไม่อายต่อหน้าเขาทุกครั้งแล้วล่ะก็ บางทีนายน้อยอาจจะลืมไปแล้วก็ได้ว่ามีคนแบบเธออาศัยอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้อยู่”
ริมฝีปากของวิกกี้ขดเข้าหากันด้วยความเย้ยหยัน เธอมองแอนเดรียด้วยสายตาจ้องเขม็ง
ถึงแม้ว่าเธอจะยังไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเรียกเธอให้มาหาที่อาคารหลัก แต่หลังจากที่เธอได้พิจารณาถึงความเป็นไปได้แล้ว มันก็คงจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร
ยิ่งไปกว่านั้น การที่เขาเต็มใจเรียกให้เธอมาหาถึงที่นี่ก็ถือว่าเป็นพรสำหรับเธอแล้ว เพราะนี่ถือว่าเป็นก้าวสำคัญในความสัมพันธ์ของพวกเขา
ไม่ว่าในครั้งนี้เขาจะขอให้เธอทำอะไรให้ เธอก็จะยอมทำตามที่เขาบอกทุกอย่าง
แม้ว่าจะต้อง… เสนอตัวให้เขา เธอก็จะทำ
เมื่อเธอนึกถึงสิ่งนี้ เธอก็รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก
ไม่นานนัก เธอก็เข้าไปในส่วนของโถงต้อนรับของอาคารหลัก และเห็นว่าผู้ช่วยฮาโรลด์รออยู่ตรงนั้นแล้ว เมื่อเขาเห็นเธอ เขาจึงยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะก้าวขาไปข้างหน้า
“คุณลินช์ คุณมาถึงแล้ว นายน้อยกำลังรอคุณอยู่ที่ชั้นบนครับ”
ชั้นบนเหรอ?
หัวใจของยูเลียนาเริ่มเต้นแรง
ชั้นบนเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเกรกอรี โดยปกติแล้วจะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปที่นั่น
ครั้งที่แล้ว เธอใช้ความพยายามอย่างมากในการบุกเข้าไปในห้องทำงานของเขา แต่ก็เกือบจะถูกไล่ออกไป
แต่วันนี้เขาตั้งใจเชิญเธอขึ้นไป?
เขาพร้อมที่จะยอมรับเธอด้วยความเต็มใจแล้วอย่างนั้นหรือ?
เมื่อเธอคิดพิจารณาถึงเรื่องนี้ ยูเลียนาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที หัวใจของเธอเต้นแรงราวกับกระต่ายตัวน้อย
เธอพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินตามผู้ช่วยฮาโรลด์ขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว
ในขณะนั้น ณ ห้องรับแขกชั้นบน
ภายในห้องที่ถูกตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามนั้น เกรกอรี เกรแฮม ไม่ได้อยู่คนเดียว
บนโซฟาอันกว้างขวาง มีชายวัยกลางคนกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่ตรงนั้น เขาเอนหลังพิงโซฟาด้วยความเกียจคร้านโดยวางแขนข้างหนึ่งไว้บนที่พักแขน และอีกข้างหนึ่งถือซิการ์ชั้นดีเอาไว้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยพร้อมกับยิ้มออกมา ในขณะที่เขากำลังพูดคุยกับเกรกอรีอยู่นั้น ลมหายใจของเขาก็มีแต่ควันลอยออกมา
สำหรับเกรกอรีนั้น เขายังคงดูเท่และวางตัวได้ดีเหมือนเดิม ในขณะที่เขานั่งตรงข้ามกับชายคนนั้นบนโซฟาอีกตัวหนึ่ง เขาดูสงบและมีความมั่นใจในตัวเอง มีร่องรอยของความเฉียบแหลมและความเฉลียวฉลาดในดวงตาของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก