ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก นิยาย บท 866

“พวกเราไม่คาดคิดกันมาก่อนเลยว่า ในขณะที่พวกเราทุกคนกำลังหลับอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงระเบิดดังออกมาจากห้องของนายน้อย”

“เมื่อพวกเรารีบพังประตูเข้าไปดู ก็เห็นว่าห้องทั้งห้องถูกไฟไหม้ไปแล้ว พวกเราจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพาตัวนายน้อยออกมา แต่ว่าเขาก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ดี”

“และพวกเราก็ไม่สามารถหาตัวคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับห้องนั้นในช่วงเวลาอันสั้นได้ พวกเราจึงรีบพากันกลับมาก่อน”

วิกกี้ขมวดคิ้วเมื่อได้ฟังคำตอบนั้น

เธอถามอย่างเคร่งขรึมว่า “ก่อนจะเข้าพักที่โรงแรม พวกคุณไม่ได้ตรวจสอบก่อนหรอกเหรอ?”

ฮาโรลด์ตอบคำถามของเธอ ด้วยความขมขื่น “ผมตรวจสอบแล้วครับ”

วิกกี้ตกใจหนักมากกว่าเดิม

เธอสังเกตเห็นว่าสีหน้าของฮาโรลด์ตอนนี้มีแต่ความพยาบาท และยากที่จะเข้าใจ แต่ทว่าความคิดของเธอเริ่มเปลี่ยนไป และมันก็ง่ายสำหรับเธอที่จะคาดเดา

“มีคนทรยศในหมู่พวกคุณเหรอ?”

ฮาโรลด์กำหมัดของเขาไว้แน่น ก่อนจะพยักหน้ารับ

“บอดี้การ์ด?”

ฮาโรลด์พยักหน้าอีกครั้ง

วิกกี้ถอนหายใจออกมา

ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่แปลก

คนทรยศอยู่ในหมู่บอดี้การ์ด ดังนั้นอีกฝ่ายจึงสามารถวางระเบิดไว้ในห้องได้ในทุกเวลาที่สะดวก และไม่ต้องกังวลว่าใครพบเห็นมัน

ใบหน้าของเธอหม่นหมองลง

คนนอกไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แต่เธอรู้ดีว่าคนที่อยู่รอบ ๆ ตัวของเกรกอรีทุกคนได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดแล้ว

พวกเขาส่วนใหญ่เป็นเด็กกำพร้า และไม่มีความรักบนโลกใบนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กลัวว่าจะถูกคุกคามหรือว่าถูกข่มเหงหรือไม่

เกรกอรีมีน้ำใจต่อพวกเขาเสมอมา ดังนั้นเรื่องเสียเปรียบของสวัสดิการจึงไม่น่าจะใช่ปัญหาหลัก

ที่สำคัญที่สุด เท่าที่เธอรู้ คนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวเกรแฮมมาตั้งแต่พวกเขายังเป็นเด็ก และเติบโตขึ้นมาเป็นคนที่เกรกอรีสามารถไว้ใจได้

ใคร ๆ ก็คงจะนึกถึงภาพแห่งความจงรักภักดี ที่พวกเขามีให้กับความสัมพันธ์ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ได้

แต่ทว่าคนทรยศกลับอยู่ในกลุ่มของคนเหล่านี้...

วิกกี้รู้สึกว่ามีหมอกลอยเข้ามาบดบังสายตาของเธออีกครั้ง มันปิดตาของเธอเอาไว้ จนทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้

ทั้งสองคนต่างก็นิ่งเงียบไป

ในเวลานี้ ฮาโรลด์รู้สึกสำนึกผิดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

แม้ว่าบอดี้การ์ดเหล่านั้นจะเป็นคนของเกรกอรี แต่โดยปกติแล้ว ฮาโรลด์จะเป็นคนสอนและจัดการการฝึกอบรมพวกเขา

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเกรกอรีได้มอบกองทหารที่ดีที่สุดให้กับเขา เช่นเดียวกับที่ชีวิตของเขาได้ฝากเอาไว้ในมือของฮาโรลด์

แต่เขากลับทรยศต่อความไว้วางใจของเกรกอรี ที่ไม่เพียงแต่ไม่สามารถหาตัวคนทรยศมาได้ทันเวลาแล้ว แต่เขายังทำให้เกรกอรีได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย

สิ่งที่ฮาโรลด์อยากจะทำก็คือ เอาปืนมายิงหัวของตัวเองทิ้งซะ

วิกกี้สัมผัสได้ถึงอารมณ์ของเขา ดังนั้นเธอจึงเอื้อมมือออกไปและตบไหล่ของเขาเบา ๆ

“คุณไม่ผิดหรอก คุณไม่จำเป็นต้องโทษตัวเองหรอกนะ”

ไม่มีทางที่ฮาโรลด์จะรู้ตัวคนทำได้ เพราะแม้แต่ตัวของเกรกอรีเองก็ยังไม่ทันสังเกตเห็นท่าทีของคนทรยศคนนั้นได้เลย

นอกจากนี้ คนทรยศคนนั้นยังแฝงตัวอยู่ในกลุ่มของเหล่าบอดี้การ์ด และมันก็ไม่ได้แสดงท่าทีพิรุธออกมาเลยแม้แต่น้อย มันคงเฝ้ารอเพื่อจะได้จู่โจมครั้งใหญ่ครั้งนี้เท่านั้น

ดังนั้นนี่คงจะเป็นไพ่ตายในมือของอีกฝ่าย พวกเขาคงจะไม่ปล่อยให้มันถูกพบได้โดยง่ายอย่างแน่นอน?

วิกกี้เข้าใจเรื่องนี้ดี แต่ฮาโรลด์ก็ยังไม่หยุดโทษตัวเอง

เมื่อเห็นแบบนี้ วิกกี้จึงปล่อยเขาไว้แบบนั้น เธอรู้ดีว่าในเวลานี้ คำพูดปลอบโยนใด ๆ จากเธอก็คงจะไม่มีประโยชน์สำหรับเขา

ดังนั้นเธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “แล้วคนพวกนั้นอยู่ที่ไหน? พวกเขาถูกคุมตัวไว้อยู่หรือเปล่า?”

ฮาโรลด์พยักหน้า "อยู่ภายใต้การควบคุมตัวทั้งหมดสิบแปดคนครับ"

คุณหมอพยักหน้า และกล่าวว่า “อาการของเขายังคงที่ แต่ก็ยังไม่พ้นขีดอันตราย เรายังคงต้องเฝ้าระวังดูอาการเขาเป็นเวลาสี่สิบแปดชั่วโมง ดังนั้นผมขอให้พวกคุณส่งคนสองคนที่ไว้ใจได้ไปดูแลเขาด้วย และจงจำไว้ว่าให้อย่าใช้เสียงดังรบกวนคนไข้นะครับ หลังจากผ่านสี่แปดชั่วโมงนั้นไปได้ เขาก็จะพ้นขีดอัตรายแล้วล่ะครับ”

กลุ่มคนรู้สึกโล่งใจ

คนสองคนที่มีเวลาและไว้ใจได้ คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก วิกกี้และพ่อบ้านออสบอร์น

ไม่มีใครรู้สึกลังเลเลยแม้แต่น้อย พวกเขาทั้งสองคนเปลี่ยนเสื้อผ้าและเดินตรงเข้าไปในห้อง

พ่อบ้านออสบอร์นมีหน้าที่ดูแลความต้องการของเกรกอรี ขณะที่วิกกี้ติดตามอาการของเขาอย่างใกล้ชิด และดูแลสุภาพร่างกายของเขาไปด้วย

ภายในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นของน้ำยาฆ่าเชื้อ แอลกอฮอล์ และรวมไปถึงเลือดด้วย

ดวงตาของวิกกี้แดงขึ้นเล็กน้อย เมื่อเธอมองไปยังชายคนหนึ่งที่นอนเงียบ ๆ อยู่บนเตียง ที่ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยผ้าพันแผล

เธอนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงของเขา ก่อนจะพูดออกมาเบา ๆ ว่า “เกรกอรี เกรแฮม ตื่นขึ้นมาจากขุมนรกซะ! ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับนาย ฉันคงจะไม่สามารถผ่านมันไปได้ถ้าไม่มีนาย!”

ชายคนนั้นนอนอยู่ตรงที่เดิมเงียบ ๆ โดยไม่มีเสียงหรือการตอบสนองใด ๆ

เธอรู้สึกคิดถึงเขาขึ้นมาจับใจ

เกรกอรีคนเก่ามักจะชอบทำให้เธอโกรธ และมักจะทำตัวเหมือนกับเด็กทุกครั้ง เขาชอบโวยวายและหยอกล้อเธอ

ส่วนตอนนี้ ผู้ชายคนนี้ก็ค่อนข้างใจร้าย และทำให้เธอต้องเศร้าใจอยู่เสมอ

แต่ยังไงวิกกี้ก็ยังรู้สึกว่าเกรกอรีคนก่อนดีกว่า อย่างน้อย ๆ เขาก็ดูมีชีวิตชีวามากกว่านี้

ไม่เหมือนกับตอนนี้ ที่เขานอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงเหมือนกับหุ่นกระบอกที่ไร้ชีวิต

เธอยกมือขึ้นจับมือของเขาที่ยื่นออกมาจากผ้าห่ม

แล้วเอามือของเขามาแตะที่แก้มของเธอ ก่อนจะพูดออกมาอย่างอ่อนโยนว่า “เกรกอรี ฉันมีความลับจะบอกให้นายฟัง นายอยากฟังรึเปล่า?”

แน่นอนว่าชายที่นอนอยู่บนเตียงไม่ได้ตอบสนอง

แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ เธอพูดต่อ “ฉันจะบอกนายอยู่แล้ว ว่าฉันเคยพูดว่าฉันเกลียดนายอยู่ตลอดเวลา แต่ทั้งหมดนั้นมันเป็นแค่เรื่องโกหก”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก