ลูเซียสรีบบอกเชย์ทันทีว่า "ไปพาเธอมาหาฉัน"
เชย์ตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ครับ!”
ที่ด้านนอก วิกกี้ยังคงดิ้นรนต่อไป เธอไม่รู้ว่าความทรงจำที่จู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นภายในใจของเธอคืออะไร แต่ที่เธอรู้ก็คือเธอจะต้องออกไปจากที่นี่ทันที
นอกจากความรู้สึกผูกพันกับสถานที่แห่งนี้ และความรักที่เลือนลางจนอธิบายไม่ถูกแล้ว เธอก็ยังสัมผัสได้ถึงอันตรายที่ร้ายแรงอีกด้วย
ดังนั้นจิตใต้สำนึกจึงบอกให้เธอรีบหนีไป! หนีไป!
เธอกัดฟัน ยืนขึ้นและพยายามลากขาเพื่อเดินออกไป
ทันใดนั้น เงาสีดำก็พุ่งออกมาและยืนขวางทางเธอเอาไว้
“จะไปไหนครับคุณโทมัส?”
เธอเงยหน้าขึ้นและได้เห็นชายที่สวมหน้ากากสีเงิน จากนั้นสีหน้าของเธอก็มืดลง เธอถามอย่างเย็นชา “คุณเป็นใคร?”
ชายสวมหน้ากากสีเงินยิ้มเล็กน้อยและตอบว่า “คุณโทมัส ในเมื่อคุณอยากรู้ตัวตนของพวกเรา แล้วทำไมคุณไม่อยู่ดูก่อนล่ะ คุณอาจจะค้นพบตัวตนของเรา ถ้าหากว่าคุณอยู่”
วิกกี้กัดฟันแน่น เธอรู้ว่าร่างกายของเธอเปลี่ยนไปแล้ว เธออ่อนแอมากจนใช้กำลังแม้แต่ครึ่งเดียวก็ไม่ได้ เธอไม่รู้ว่าคนเหล่านี้ทำอะไรกับเธอ
แต่เมื่อพิจารณาจากความแข็งแกร่งแล้ว เธอจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่คู่ควรกับชายผู้นี้อย่างแน่นอน
'ฉันควรจะทำยังไง?' เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกได้ถึงลมแรงที่ปะทะเข้าที่ใบหน้าของเธอ
วิกกี้ตกใจ แต่แล้วสัญชาตญาณของจิตใต้สำนึกของเธอก็สามารถหลีกเลี่ยงมันได้
ชายสวมหน้ากากสีเงินหยุดเคลื่อนไหว และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณมีทักษะที่พิเศษ แต่น่าเสียดายที่คุณยังไปไม่ได้ คุณวิกกี้ คุณสามารถเพิกเฉยต่อความปลอดภัยของตัวเองได้ แต่คุณไม่อยากรู้เกี่ยวกับผู้หญิงที่ถูกจับตัวมาพร้อมกับคุณเหรอ? คุณไม่อยากรู้เหรอว่าเราจับคุณมาทำไม คุณยอมที่จะจากไปโดยไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ เหรอ?”
วิกกี้ตกตะลึง สิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง
ประการแรก เธอต้องการค้นหาจริง ๆ ว่าคนเหล่านี้เป็นใครและจับตัวเธอมาเพื่ออะไร
ประการที่สอง เธอกังวลในเรื่องของความปลอดภัยของแอนเดรียมากเช่นกัน เมื่อเธอตื่นขึ้นมาจนถึงตอนนี้ เธอก็ยังไม่เห็นหรือได้ยินข่าวอะไรเกี่ยวกับแอนเดรียเลย
ในตอนแรก เธอยังคงมีความหวังอยู่ภายในใจว่าคนเหล่านี้อาจจะจับตัวเธอมาเพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะพวกเขาอาจจะคิดว่าแอนเดรียไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับพวกเขา ดังนั้น เมื่อคิดเช่นนั้น เธอจึงคิดว่าแอนเดรียคงจะไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายเพราะเธอ
แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดแล้ว เห็นได้ชัดว่าแอนเดรียอยู่ในมือของพวกเขา
หัวใจของวิกกี้สั่นไหว เธอละทิ้งความคิดที่จะหลบหนีไปในทันที เธอถามด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “คุณต้องการอะไร?”
ชายสวมหน้ากากสีเงินยิ้มเล็กน้อย เขากางแขนและเชิญให้เธอเดินเข้าไป
“คุณโทมัส เชิญเข้ามาข้างในก่อน เจ้านายของผมจะอธิบายทุกอย่างให้คุณฟังเอง” เมื่อพูดจบเขาก็โค้งตัว และเชิญเธอเข้าไปข้างในคฤหาสน์
วิกกี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอรู้ดีว่าถึงแม้ว่าเขาจะแสดงท่าทางที่สุภาพ แต่ความจริงแล้วเขาไม่ได้ให้ทางเลือกที่สองแก่เธอเลย
ดังนั้นเธอจึงทำตามอย่างเชื่อฟัง เพราะไม่ว่าจะเป็นถ้ำเสือหรือถ้ำมังกร เธอก็จะบุกเข้าไป
เขาหยิบโถชาขึ้นมา เทชาสองถ้วยแล้วยื่นมันให้เธอ "คนรับใช้ของผมชงมันเอง ลองดื่มสิ"
วิกกี้มองดูถ้วยชาแต่เธอก็ไม่ขยับ
ลูเซียสยิ้มอย่างไม่แปลกใจ จากนั้น เขาก็ยกถ้วยของตัวเองและจิบมัน หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า "ถ้าผมอยากจะฆ่าคุณคุณจะไม่ได้นั่งอยู่ที่นี่ในตอนนี้ นี่คือชาปกติและไม่เป็นพิษ คุณไม่ต้องกังวล"
จากนั้น เขาก็จิบถ้วยของตัวเองอีกครั้งเพื่อบ่งบอกเธอว่าไม่ต้องกังวล
วิกกี้ขยับปลายนิ้วของเธอและยกมันขึ้นมา เธอไม่สามารถกลั้นความกระหายในลำคอของเธอเอาไว้ได้ เธอจึงดื่มมัน
เขารู้สึกโล่งใจเมื่อได้เห็นเช่นนั้น เขายิ้มและพูดว่า "คุณคงจะคิดว่ามันแปลก ผมเป็นใคร เราจับคุณมาทำไม คุณคงจะมีคำถามมากมายอยู่ภายในใจใช่ไหม?"
วิกกี้มองดูเขาอย่างเย็นชาโดยไม่พูดอะไร อย่างไรก็ตาม ดวงตาคู่นั้นของเธอก็ตอบว่าใช่อย่างชัดเจน
ลูเซียสยิ้มบาง ๆ เขาแสดงสีหน้าลำบากใจและเศร้าใจในเวลาเดียวกัน เขาพูดขึ้นว่า “ผมรู้ดีว่า ที่ผมพาคุณมาที่นี่ด้วยวิธีนี้ คุณจะต้องไม่พอใจอย่างแน่นอน บางทีคุณอาจจะจำผมไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผมเป็นใคร ดังนั้นผมเองก็รู้สึกแย่เหมือนกัน”
วิกกี้ขมวดคิ้ว เมื่อเธอได้ฟังคำพูดของเขา เธอก็คิดย้ำไปที่คำสองคำ "จำไม่ได้อย่างนั้นเหรอ?"
เขาพยักหน้าและมองดูวิกกี้อย่างจริงจัง เขาถามเธอว่า "วิก คุณจำผมไม่ได้จริง ๆ เหรอ คุณจำไม่ได้จริง ๆ เหรอว่าผมเป็นใคร?"
การแสดงออกของเขาราวกับว่า เขากำลังตั้งตารอคำตอบของเธอด้วยสีหน้าที่เศร้าหมอง
วิกกี้มองเข้าไปในดวงตาของเขา ทันใดนั้น ฉากเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้นในความคิดของเธออีกครั้ง เด็กชายตัวเล็ก ๆ และเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ กำลังเล่นด้วยกันอย่างมีความสุข พวกเขากำลังเก็บดอกไม้และเล่นว่าวด้วยกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก