ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก นิยาย บท 896

วิกกี้ได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินเข้ามา และหลังจากนั้นไม่นาน ประตูรถบรรทุกก็ถูกเปิดออก

"ลงมา!"

ชายคนหนึ่งพูดจาอย่างเย็นชากับพวกเขา

แอมเบอร์ลุกขึ้น พลางเดินไปที่วิกกี้เพื่อช่วยพยุงเธอขึ้นมา

วิกกี้มองไปที่เท้าที่ถูกมัดไว้ ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “ใจคอคุณจะให้ฉันกระโดดลงไปทั้งแบบนี้เลยเหรอ?”

แอมเบอร์ขมวดคิ้ว และมองไปที่เชือกที่เท้าของวิกกี้

ขณะที่เธอกำลังจะก้มลงไปแก้มัดเชือกนั้น ผู้ชายที่ยืนอยู่ที่ประตูก็ได้ห้ามเอาไว้

“ไม่จำเป็นต้องแก้มัดหรอก ถ้าคุณกระโดดลงมาไม่ได้ คุณก็นอนอยู่บนรถนี้อีกสักคืนก็ได้ ยังไงเราก็ไม่ได้มีปัญหากับมันอยู่แล้ว”

หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็หันหลังเดินจากไป

วิกกี้หยุดนิ่ง

เธอไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรับมือได้ยากขนาดนี้

ข้าง ๆ เธอ แอมเบอร์ลุกขึ้น และมองดูเธออย่างช่วยไม่ได้

“คุณอยากอยู่ในรถต่อรึเปล่า? หรือจะให้ฉันช่วยพาคุณกระโดดลงไป”

วิกกี้ยิ้มออกมาเล็กน้อย

เธอเข้าใจในหลักทฤษฎีเป็นอย่างดี ว่าคนฉลาดไม่ควรต่อสู้จนตัวตาย แม้ว่าในรถจะมีผ้าห่มผืนบาง ๆ อยู่ แต่มันก็ยังเย็นและพื้นก็แข็งไปอยู่ดี ถ้าเธอต้องนอนค้างคืนในรถ เธอคงจะได้เป็นหวัดก่อนจะหนีออกมาได้แน่ ๆ ซึ่งมันไม่คุ้มเอาเสียเลย

วิกกี้ยิ้มและพยักหน้า “ฉันลงไปเองได้”

จากนั้นเธอก็เกาะผนังแล้วค่อย ๆ ประคองร่างของตัวเองเดินไปยังทางออก

เมื่อแอมเบอร์เห็นแบบนี้ เธอก็คิดว่าการกระทำของวิกกี้นั้นค่อนข้างตลก เธอจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

แต่เธอก็หัวเราะออกมาได้เพียงแค่วินาทีเดียวเท่านั้น ก่อนจะหยุด และรีบประคองวิกกี้เอาไว้ เพื่อไม่ให้เธอล้ม

หลังจากนั้นไม่นานวิกกี้ก็ออกมาจากรถบรรทุก ด้วยความพยายามอย่างมากได้สำเร็จ

เธอเห็นหมู่บ้านอยู่ตรงหน้าของเธอ ในบริเวณนี้ มีรถบรรทุกจอดอยู่บนถนนลูกรังเพียงแค่คันเดียวเท่านั้น

บางทีอาจจะเป็นเพราะฝนเพิ่งจะตกเสร็จ ดินจึงอ่อน และเกิดแอ่งน้ำลึกและตื้นจำนวนมาก ซึ่งนั้นมันทำให้ทั้งถนนกลายเป็นโคลน

เธอยังคงสวมรองเท้าผ้าใบสีขาว ที่เธอสวมเมื่อตอนที่ออกมาจากคฤหาสน์ แต่ว่าตอนนี้มันสกปรกไปหมดแล้ว

วิกกี้ไม่ได้สนใจมัน เธอเดินตามพวกเขาเข้าไปในหมู่บ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน

ในหมู่บ้านนั้นมีชาวบ้านอยู่เพียงไม่กี่คน หรืออาจจะมากกว่าที่เธอเห็น แต่ก็มีเพียงไม่กี่ครอบครัวเท่านั้นที่อาศัยอยู่ที่นั่นตั้งแต่แรก

มีผู้ชายสี่คนยืนอยู่กับพวกเขา หนึ่งในนั้นกำลังเคาะประตูบ้าน ที่เปิดออกมาและเผยให้เห็นใบหน้าที่มืดมิด

ปากของพวกเขาเริ่มขยับ เหมือนกำลังพูดอะไรบางอย่าง แต่วิกกี้ก็ไม่สามารถเข้าใจได้ ซึ่งเธอคิดว่านั้นคงจะเป็นภาษาท้องถิ่น

เธอเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจ แต่เธอก็ยังฟังจากสำเนียงออกว่าสถานที่แห่งนี้ คงจะอยู่ที่ไหนสักแห่งในภาคตะวันออกกลาง

วิกกี้ไม่รู้ว่าชายคนนั้นพูดอะไรกับชาวบ้าน แต่ชาวบ้านคนนั้นก็ชะโงกหน้าออกมาจากประตู และมองดูวิกกี้กับแอมเบอร์ ก่อนจะพยักหน้าและเปิดประตูเพื่อให้พวกเขาเข้าไป

หลังจากถูกขังอยู่หลังรถมาทั้งวัน ในที่สุดเท้าของวิกกี้ก็ได้เหยียบลงพื้นดินบ้างสักที และเมื่อถึงจุดนี้ เธอก็ไม่รังเกียจที่จะทำทุกวิถีทางที่เธอต้องการ

เมื่อพวกเขาเข้าไปข้างในบ้าน พวกผู้ชายก็ได้พูดอะไรบางอย่างกับครอบครัวนี้ และครอบครัวนี้ได้มอบสิ่งของ และกุญแจบ้านทั้งหมดให้กับพวกเขา จากนั้นจึงหันหลังกลับออกไป

วิกกี้รู้สึกว่าชาวบ้านพวกนั้นคงจะไม่กลับมาเร็ว ๆ นี้แน่ บางทีพวกผู้ชายอาจจะเช่าบ้านของพวกเขาไปแล้วก็ได้

เธอสงสัยว่าที่นี้มันคืออะไรกันแน่ และถ้าเธอหนีออกไปขอความช่วยเหลือจากคนข้างนอก เธอจะมีโอกาสที่จะมีชีวิตรอดอยู่หรือเปล่า

เธอหันกลับมา และเหลือบไปเห็นปืนที่เอวของผู้ชายสี่คนนั้น เธอจึงล้มเลิกความคิดนั้นทันที

เห็นได้ชัดว่าเธอคงไม่อาจได้คำตอบสำหรับคำถามนี้ในเวลาอันสั้น

แต่วิกกี้ก็ไม่ได้รีบร้อนอยู่ดี ตอนนี้เธออยู่ที่นี่แล้ว ดังนั้นเธอจะได้รู้แน่แค่ไม่ช้าก็เร็ว

ขณะที่เธอกำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่ เธอก็พักผ่อนและรออีกครึ่งชั่วโมง ก่อนที่แอมเบอร์จะรับประทานอาหารเย็นเสร็จ และนำอาหารมาให้เธอ

วิกกี้ก็มีมารยาทเช่นเดียวกัน หลังจากที่ทานอาหารเย็นอิ่มแล้ว เธอก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

พวกเขาไม่ได้ปล่อยให้เธอลำบากกับเรื่องนี้ และยอมให้แอมเบอร์ไปกับเธอ

เมื่อพวกเธอไปห้องน้ำ ผู้ชายคนหนึ่งก็ได้ตามไปเฝ้าพวกเธอที่หน้าประตู

วิกกี้มองไม่เห็นความหวังที่จะหนีออกไปได้เลย เพราะแม้แต่ว่าพวกเธอจะมาเข้าห้องน้ำ คนเหล่านี้ก็ยังตามเฝ้าไม่ห่าง ดังนั้นเธอจึงไม่ได้รีบร้อน

เธอคิดว่าก่อนหน้านี้ เกรกอรีรู้แล้วว่าเธออยู่ที่วิลล่า แต่น่าเสียดายที่แอนเดรียเข้ามาขัดขวางเอาไว้ซะก่อน จนทำให้พวกเขาคลาดกัน

วิกกี้ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน และพบร่องรอยของเธอแล้วหรือยัง

เธอต้องทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้เขา

เมื่อเธอคิดได้แบบนั้น เธอจึงใช้ประโยชน์ตอนที่แอมเบอร์เผลอ ดึงกระดุมที่กางเกงของเธอออก แล้วโยนมันเข้าไปในมุม

แม้ว่าเธอไม่แน่ใจว่าเกรกอรีจะจำเสื้อผ้าของเธอได้หรือไม่ แต่มันก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เธอจึงต้องลองทำอะไรสักอย่าง!

หลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จ เธอก็เดินตามแอมเบอร์กลับไปที่ห้องที่เธอเคยพักมาก่อน

หลังจากทานอาหารเย็น ข้างนอกก็มืดสนิทแล้ว

ดูเหมือนว่าทุกคนจะเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว จึงทำให้ตอนนี้พวกเขารู้สึกอ่อนเพลีย

แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ยังไม่ยอมละสายตาจากเธอแม้แต่วินาทีเดียว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก