คืนนั้นวิกกี้ไม่ได้นอนอยู่ในห้องคนเดียว
เธอนอนในห้องกับแอมเบอร์ โดยมีผู้ชายสี่คนคอยเฝ้าพวกเธออยู่ข้างนอก
วิกกี้ทำได้เพียงแค่ยิ้มเจือน ๆ ออกมา ขณะที่เธอมองดูบอดี้การ์ดกลุ่มนี้
ต่อให้เธอเป็นพระเจ้า นาทีนี้เธอก็คงจะหนีไปไม่พ้น!
เธอถอนหายใจออกมาเบา ๆ แล้วเลิกคิดมาก ก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อน
ในชนบทแบบนี้ เวลากลางคืนมักจะเงียบสงัด โดยปกติแล้วจะไม่มีเสียงอื่นใด นอกจากเสียงของแมลงที่พากันร้องระงม
มันเงียบซะจนวิกกี้ได้ยินแม้กระทั้งเสียงของลมหายใจ
เธอยังได้ยินเสียงกรนของผู้ชายที่อยู่ข้างนอก ผ่านประตูเข้ามา
ถึงวิกกี้จะรู้สึกเหนื่อย แต่ในตอนกลางคืนแบบนี้เธอกลับนอนไม่หลับ
เธอนึกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับเธออยู่ตลอดเวลา
ก่อนหน้านี้ที่เธอพยายามจะหนีออกมาจากวิลล่า ลูเซียสก็ได้พาตัวเธอออกมากับพวกเขา
แต่ในเวลาต่อมา เมื่อเธอตื่นขึ้นในรถบรรทุก เธอกลับเห็นแค่เพียงแอมเบอร์คนเดียวเท่านั้น
เขาหายไปไหน?
แม้ว่าวิกกี้จะระมัดระวังตัวจากผู้ชายคนนั้น และมั่นใจว่าเขาไม่ได้มีเจตนาดีต่อเธอ อย่างน้อยการต่อสู้กับเขาหลายต่อหลายครั้ง ก็ทำให้เธอเริ่มอ่านเกมของเขาออก บางทีถ้าเขาอยู่ที่นี่ เธอก็อาจจะมีโอกาสหนีรอดมากขึ้น
เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา เมื่อคิดถึงเรื่องนี้
ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงแผ่วเบาลอยเข้ามาจากนอกหน้าต่างตรงข้ามกับเธอ
วิกกี้สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองที่หน้าต่างโดยไม่ทันได้รู้ตัว เธอเห็นเงาสีดำวิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เธอหันไปมองแอมเบอร์ที่อยู่ข้าง ๆ เธอ และเห็นว่าแอมเบอร์ยังคงหลับสนิท ไร้การรับรู้ถึงความเคลื่อนไหวภายนอก
เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกวิตกกังวลอยู่ภายในใจ
วิกกี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคนที่อยู่ข้างนอกจะเป็นเกรกอรี แต่ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เขาล่ะ?
ลืมมันไปเถอะ! เพราะไม่ว่าจะใช่เขาหรือไม่ มันก็ยังดีกว่าที่ต้องมาอยู่ในกำมือของคนพวกนี้
เมื่อเธอคิดแบบนี้ เธอจึงไม่ได้ส่งเสียงเตือนพวกเขา
ในเวลานี้ อยู่ ๆ เธอก็ได้กลิ่นจาง ๆ ลอยเข้ามาจากรอยแยกของประตู
เธอขมวดคิ้ว พลางคิดว่ากลิ่นของมันแปลก ๆ ในตอนนั้นเองดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้น เมื่อรู้แล้วว่ามันคือกลิ่นของอะไร
บ้าเอ้ย! นี่มันกลิ่นก๊าชที่ทำให้ประสาทหลอน!
พวกเขาไม่ใช่คนของเกรกอรี!
แต่ในตอนนี้ วิกกี้ได้สูดก๊าซเข้าไปมากพอสมควร มันจึงสายเกินไปที่จะทำอะไรได้ในตอนนั้น
เธอเห็นแอนเดรียล้มลงไป และได้ยินเสียงดังตุ๊บมาจากด้านนอก
วิกกี้กัดฟันเพื่อพยายามกลั้นหายใจต่อไปอีกนิด
แต่ว่าเธอก็ไม่สามารถทนต่อฤทธิ์ยาที่มีความรุนแรงขนาดนี้ได้ ดวงตาของเธอกลอกไปมา ก่อนจะหมดสติลงไปในที่สุด
เมื่อวิกกี้ฟื้นขึ้น เธอก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่แปลกไปจากเดิม
ผนังทุกด้านเป็นโลหะสีเทา และภายในห้องก็ไม่มีอะไรเลย นอกจากเตียงที่ทำจากเหล็ก
วิกกี้กำลังนอนอยู่บนเตียงเหล็ก เธอรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองถูกปิดตาเอาไว้ แต่อาจจะเป็นเพราะผ้าที่ปิดตาของเธอไม่ได้หนาพอ เธอจึงยังมองเห็นแสงสีขาว ที่แกว่งไปมาอยู่เหนือศีรษะของเธอได้อยู่
เธออยู่ที่ไหนกันแน่
เธอครุ่นคิดในขณะที่สติยังไม่ได้กลับมาเต็มร้อย
เธอยกแขนขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะได้ยินเสียงกระทบกันจากการแกว่งของโซ่
หัวใจของวิกกี้สั่นระรัว
หลังจากออกแรงมากขึ้นเล็กน้อย ในที่สุดเธอก็แน่ใจว่า ตอนนี้มีโซ่ยาวสองเส้นกำลังล็อกแขนและขาของเธอเอาไว้กับเตียงเหล็ก
เธอขนลุกไปทั้งตัว
ในขณะนั้น เธอก็ได้ยินเสียงรองเท้าบูทดังขึ้นที่พื้น
เธอรู้สึกตึงเครียด จึงถามออกไปตามสัญชาตญาณว่า “นั่นใคร?”
ไม่มีเสียงตอบรับ
เกรกอรีกลับไม่ตอบ
เขามองไปที่มัสซิโมพลางถามว่า “นายมาที่นี่ทำไม?”
คำพูดของเขามันทำให้มัสซิโมรู้สึกไม่พอใจ และโกรธเป็นอย่างมาก
“ทำไมล่ะ? ฉันได้ยินมาว่าวิกโดนจับตัวไป ฉันก็เลยมาดู! แม้ว่าครอบครัวโนแลนจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของนาย แต่อย่าลืมว่าวิกก็เป็นเพื่อนของฉันคนหนึ่งเหมือนกัน! นายจะให้ฉันทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวได้ยังไง?"
เกรกอรีคว่ำปากลงด้วยความเย็นชา แววตาของเขาดูหม่นหมอง
“เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนาย นายไม่จำเป็นต้องสนใจหรือเข้ามายุ่ง”
เขารู้ดีว่าพ่อของมัสซิโมไม่เคยเห็นด้วยที่พวกเขาทำตัวสนิทสนมกันมากจนเกินไป เพราะกลัวว่าลูกของเขาจะได้รับอันตรายตามไปด้วย แม้ว่าเขาจะไม่ได้สนใจพ่อของมัสซิโม แต่เขาก็ยังเป็นเพื่อนกับมัสซิโมอยู่ดี ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ หากอีกฝ่ายต้องการจับวิกกี้เป็นตัวประกัน การต่อสู้อันดุเดือดก็คงจะใกล้เกิดขึ้นแล้ว เขาไม่ต้องการลากครอบครัวของผู้บริสุทธิ์อย่างพวกโนแลนมาเกี่ยวด้วย
ทำไมมัสซิโมจะไม่รู้ว่าเกรกอรีกำลังคิดอะไรอยู่?
สิ่งนั้นทำให้เขายิ่งโมโหมากขึ้นไปอีก
“เกรกอรี เกรแฮม! นายกลายเป็นคนขี้ขลาดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ห๊ะ? ฉันมาวันนี้เพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถ้ามีอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้ ฉันก็จะช่วยเหลือนายอย่างแน่นอน!”
“และถ้าฉันช่วยอะไรไม่ได้ ฉันก็จะไม่เข้ามาก้าวก่ายและเป็นตัวถ่วงของนายหรอก ฉันแค่อยากฟังความจริงเท่านั้นเข้าใจไหม?”
เกรกอรีมองไปที่เขาอีกครั้ง
แต่คราวนี้เขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับมัสซิโมอีกต่อไป
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า "พวกมันคือสมาคมจีน"
มัสซิโมรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก
แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในแวดวงนี้ แต่เขาก็เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับสมาคมจีน
เขารู้ว่ามันเป็นองค์กรใหญ่ ที่ลึกลับซับซ้อน และจัดตั้งมานานกว่ากองทัพทหารมังกร
ถ้าเป็นพวกเขาที่จับตัววิกกี้ไปจริง ๆ…
เขาเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาในหัวใจ พร้อม ๆ กับที่สีหน้าของเขาเริ่มหม่นหมองลงในทันที
“แล้วตอนนี้นายจะทำยังไงต่อไป?”
เกรกอรีตอบอย่างเคร่งขรึมว่า "ฉันมีวิธีของฉัน นายไม่ต้องเข้ามายุ่ง และช่วงนี้ก็อย่าเพิ่งมาที่นี่"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก