ในขณะที่เขาเดินทางไปยังประเทศจีน และผ่านหมู่บ้านเล็ก ๆ เขาได้ยินมาว่ามีผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งในหมู่บ้านเล็ก ๆ นั้นที่ชอบสะสมโบราณวัตถุ ถึงแม้ว่าผู้เชี่ยวชาญคนนั้นเขาจะมีอายุถึงเก้าสิบปีเศษ แต่ร่างกายของเขาก็ยังคงแข็งแรง ในช่วงวัยรุ่นเขาได้ออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อเก็บรวบรวมวัตถุโบราณ เมื่อเขาโตขึ้นก็ไม่อยากอาศัยอยู่ในเมืองเพราะอากาศที่นั่นค่อนข้างแย่ เขาจึงย้ายไปอยู่ในชนบทพร้อมกับหลานสาว
เนื่องจาก เจมส์ มาร์ค เขาได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับศิลปสมัยโบราณ เขาจึงถือได้ว่าสิ่งนั้นเป็นโบราณวัตถุ ดังนั้นเขาจึงเดินทางไปเยี่ยมผู้เชี่ยวชาญคนนั้น และต้องการที่จะไปดูวัตถุโบราณอีกสองสามอย่างที่เขาสนใจ
ผู้เชี่ยวชาญไม่ได้เพิกเฉยหรือปฏิเสธเขาแต่อย่างใด แต่กลับต้อนรับเขาอย่างอบอุ่น พร้อมกับนำสิ่งดี ๆ ทั้งหมดที่เขามีออกมาและปล่อยให้เขาชมมันอย่างสนุก
ชายสูงอายุคนนั้นเป็นชายที่มีชื่อเสียงบนเส้นทางนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่กังวลเลยว่าเจมส์จะขโมยของ ๆ เขาหลังจากที่ดูเสร็จ เมื่อเจมส์ดูเสร็จแล้วเขาก็เก็บของทั้งหมดกลับคืนไป
หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มและเชิญเจมส์ทานอาหารก่อนที่ จะไปส่งเจมส์
ในขณะเดียวกันนั้นเองที่ เจมส์ มาร์คได้เห็นหยกอาถรรพ์
จากที่เขาพูดหยกอาถรรพ์ถูกวางไว้ในที่ที่ไม่ได้เด่นชัดสักเท่าไร หรือสามารถพูดได้เลยว่ามันถูกโยนลงบนโต๊ะผสมกับของราคาถูกชิ้นอื่น ๆ
สิ่งทั้งหมดเหล่านั้นดูเหมือนกับว่าพวกเขาเพิ่งขุดมันขึ้นมาจากดิน และยังคงมีกลิ่นสาบดินและคาบสกปรกติดอยู่เหมือนกันกับหยกอาถรรพ์นั้น
ไม่แน่ใจว่าชายชราคนนั้นเขาเซ่อซ่า ไม่ได้ตระหนักถึงคุณค่าของหยกอาถรรพ์หรือว่าเขาไม่สนใจในสิ่งเหล่านั้น มันถูกทิ้งไว้อย่างนั้นโดยที่ยังเช็ดโคลนไม่สะอาด
เจมส์เหลือบไปเห็นมันตอนที่เขากำลังจะจากไป และถึงแม้ว่าเขาอยากจะดูมันให้ละเอียดมากกว่านี้ แต่เครื่องบินของเขากำลังจะออกบิน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถอยู่ที่นั่นได้อีกต่อไป
นอกจากนั้น ชายชราไม่มีเจตนาที่จะรั้งเขาให้อยู่ที่นั่นต่อ ดังนั้นเขาจึงต้องจากไปโดยไม่ข้ามเส้น
ด้วยเหตุนี้เขาจึงทำได้เพียงแค่ชำเลืองมองเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่แน่ใจได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าสิ่งนั้นคือ
หยกอาถรรพ์หรือไม่
ในตอนนี้ เขาตัดสินใจลองทำดูแล้วยื่นเบาะแสนี้ให้กับเกรกอรี
เกรกอรีนิ่งเงียบไปสองสามวินาทีหลังจากได้ยินเขาออกมา
เขามองไปที่เจมส์และถามว่า “ชายชราที่คุณพูดถึงนี้เขามีชื่อว่าอะไร”
เจมส์ตอบว่า “ชื่อของเขาคือ บรู๊คส์ แต่ผมไม่แน่ใจเกี่ยวกับชื่อจริงของเขา ผมแค่รู้ว่าเขามีชื่อเล่นว่า ผู้อาวุโสเฮาด์บรู๊คส์ คนที่ไม่คุ้นเคยจะเรียกเขาแบบนั้น แม้แต่เด็กที่เคารพเขาก็ยังเรียกเขาว่า คุณลุงบรู๊คส์”
เกรกอรีพยักหน้า
"ผมเข้าใจ ผมขอขอบคุณสำหรับข้อมูลของคุณ หลังจากที่ตรวจสอบเสร็จผมจะติดต่อคุณกลับไป หากคุณมีอะไรที่จะขอให้ผมช่วย คุณสามารถบอกกับผมได้โดยตรง”
เจมส์ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและแสดงการขอบคุณ
“ขอบคุณครับ คุณเกรแฮม อย่าพูดว่าเป็นคำขอเลย มันเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ถ้าหากว่าผมสามารถยื่นมือเข้าไปช่วยคุณได้”
ริมฝีปากของเกรกอรีโค้งขึ้น แต่เขาไม่ได้สนใจกับคำชมนั้น
หลังจากที่เขาสั่งให้มิสเตอร์ออสบอร์นส่งเจมส์ออกไปแล้วเขาก็ได้ไปคุยกับวิกกี้
“จากที่เขาพูด อะไรคือเรื่องจริง อะไรคือเรื่องโกหก? เธอคิดว่าอย่างไร?"
วิกกี้เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเธอก็พูดว่า “ฉันไม่คิดว่าเขาจะโกหกเรา เขาดูเป็นคนจริงใจ ฉันได้ยินเรื่องของเขาเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า เขามีพฤติดรรมที่ดี นอกจากนี้เขาไม่กล้าโกหกนายหรอกว่าเบาะแสนี้จริงหรือเท็จ”
เธอหยุดก่อนที่จะหัวเราะออกมา "แล้วใครจะรู้ล่ะ? เราจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อเราไปที่นั่นและดูสิ่งเหล่านั้น”
เกรกอรีพยักหน้า “วันพรุ่งนี้เราจะไปเมืองจีนกัน”
ในไม่นานเธอก็ได้รับข่าวสารและกลับมา
จากฐานข้อมูลของแนนซี่ในการค้นคว้า ในช่วงวัยรุ่น ลุงบรู๊คส์คนนี้เป็นนักโบราณวัตถุที่มีชื่อเสียง
หลังจากที่ได้เดินทางไปทั่วโลกเป็นเวลาหลายสิบปี เขาได้สะสมโบราณวัตถุที่ดีไว้มากมาย แต่อย่างไรก็ตามไม่แน่ใจว่าความโชคร้ายของเขาเกิดเพราะงานอดิเรกที่สะสมศิลปะโบราณของเขาหรืออาจจะมีเหตุผลอื่น ๆ
ลูกชายและลูกสะใภ้ของเขาทั้งสองคนเสียชีวิตไปทีละคน เนื่องจากสาเหตุที่ไม่สามารถอธิบายได้
ภรรยาของเขาได้เสียชีวิตไปนานแล้ว และลูกชายของเขาก็ทิ้งลูกเอาไว้ให้ตอนที่เขาเสียชีวิตไป ดังนั้นเขาจึงพาเด็กคนนั้นไปอยู่ด้วยและเลี้ยงดูเด็กจนกระทั่งได้แต่งงานและมีลูกสาวหนึ่งคน
เขาคิดว่าครอบครัวของพวกเขาสามารถมีชีวิตที่สงบสุขได้ แต่เหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างสาปแช่ง ในที่สุดสามีและภรรยาคู่นั้นก็ได้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์
หลังจากที่พวกเขาได้จากไป พวกเขาได้ทิ้งเด็กผู้หญิงที่ชื่อฟลอร่าเอาไว้ ลุงบรู๊คส์ทนเห็นเด็กคนนั้นยืนอยู่ข้างนอกไม่ได้ และเขาต้องการที่จะพาเธอกลับไปกับเขาด้วย แต่เขากลัวว่าสถานที่นั้นมันจะสาปแช่งเธอ ซึ่งหมายความว่าเธอจะต้องตายเหมือนกับ ปู่ย่าตายายและพ่อแม่ของเธอ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนชื่อของเธอให้เหมือนกับคนบ้าและเรียกว่าด๊อกกี้
ในชนบท ทุกคนจะหัวเราะเยาะเด็กที่ชื่อว่า ด๊อกกี้ แต่พวกเขาจะไม่ต้องมาพะวงในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม มันแตกต่างออกไปสำหรับเด็กผู้หญิง
ฟลอร่าเธอไม่เคยยอมรับในชื่อนั้นและดูเหมือนกับว่าการเปลี่ยนชื่อของเธอมันยังไม่เพียงพอสำหรับลุงบรู๊คส์ เขายังให้เพื่อนในชนบทคอยอุปถัมภ์เธอ เขาจะไปเยี่ยมเธอบ้างเป็นบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วเขามักจะเดินเตร็ดเตร่ไปรอบ ๆ
เขาจะรอจนกว่าฟลอร่าเติบโตขึ้นมาสงบสุข และมีอายุได้ถึงสิบแปดปี รู้สึกคิดถึงบ้าน เขาจึงกลับไปยังชนบท แต่เนื่องจากชีวิตของลุงบรู๊คส์เริ่มไม่สะดวกสบายเพราะมีอายุที่มากขึ้น เขาจึงพาหลานสาวกลับมาเพื่อมาดูแลเขาอีกครั้ง
เขาไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะคำสาปแช่งหรือโชคชะตากำหนด แต่ไม่นานหลังจากที่หลานสาวของเขากลับมาอยู่เคียงข้างเขา เธอก็ได้หายตัวไปทันที
ใช่ ไม่ได้ตายแต่หายตัวไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก