จู่ ๆ เนลล์ก็คิดอะไรบางอย่างได้ขึ้นมา พร้อมกับสีหน้าของเธอที่เปลี่ยนไป
ทันใดนั้นเธอก็คุกเข่าลง ก่อนจะสัมผัสที่ด้านหลังศีรษะของผู้ตาย เธอมีสมมติฐานอยู่ในหัวของเธอแล้ว
กิดเดียนถามเธอว่า “มีอะไรผิดปกติเหรอ?”
เนลล์ส่ายหน้า “โทรแจ้งตำรวจเถอะ เราต้องการชันสูตรพลิกศพ นี่มันไม่ใช่ความผิดของคุณป้า โทรแจ้งตำรวจเลยไม่ต้องกลัว”
จีนได้ยินอย่างนั้นก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
“เนลลี่ ขอร้องล่ะ เราโทรแจ้งตำรวจไม่ได้นะ! การฆาตกรรมมันผิดกฎหมาย! ถ้าตำรวจมาที่นี่ ชีวิตของฉันคงต้องจบสิ้นลงแน่ ๆ!”
แม้ว่าตระกูลลีย์จะมีอำนาจมากมาย แต่ทั้งกิดเดียน นายท่านและคุณหญิงก็คงไม่อาจจะขัดต่อกฎหมายได้ หากว่าเธอก่อเหตุฆาตกรรม
เนลล์ตบไหล่ของป้าจีน เบา ๆ “ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ คุณป้าไม่ได้เป็นคนฆ่าเขาค่ะ”
"ฮะ?"
กิดเดียนถึงกับตกตะลึง แต่เขาก็เริ่มเข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร
เขาหันไปทางกลุ่มชายฉกรรจ์ “ฉันว่าเราคงจะไม่มีปัญหาที่จะโทรหาตำรวจหรอกใช่ไหม?”
ผู้ชายเหล่านั้นมองหน้ากันไปมา ความรู้สึกผิดในดวงตาของพวกเขาแสดงออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน
พวกเขาแผดเสียงออกมา “ไม่ต้องโทรหรอก! อะไรที่มันเกิดขึ้นบนถนน ก็ปล่อยให้มันเป็นเรื่องที่อยู่บนถนน! จะโทรแจ้งตำรวจไปทำไม? ไร้สาระ! ถ้าคุณไม่จ่ายเงินมาผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ชีวิตต้องแลกกับชีวิต อย่าคิดว่ามีใครในพวกคุณจะออกไปจากที่นี่ได้ง่าย ๆ!”
ในตอนนั้นสีหน้าของกิดเดียนก็เริ่มเย็นชา
คุณดอนเนลลี่กลัวว่าจะมีการต่อสู้กันเกิดขึ้น เขาจึงพยายามพูดจาอย่างประนีประนอม
“อ่า ขอร้องล่ะทุกคน ได้โปรดฟังผมก่อน นี่อาจจะไม่ใช่ความผิดของคุณนายลีย์จริง ๆ ก็ได้ คุณไม่มีทางรู้หรอกจริงไหม? เมื่อคืนเพื่อนของคุณทะเลาะกันรุนแรงมาก ผมเองก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าด้านหลังศีรษะของเขามีรอยนูนขนาดใหญ่ และนั่นอาจจะเป็นสาเหตุให้เลือดคลั่ง เมื่อวานเขาก็ยังไม่ได้เป็นอะไร แต่เหมือนกับว่าวันนี้เขาโดนซ้ำรอยเดิมเข้าไป เลยทำให้เขาเสียชีวิต! มันมีความเป็นไปได้ที่เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพราะคุณนายลีย์ อีกอย่างเธอก็เป็นผู้หญิงที่อ่อนแอและบอบบาง เพื่อนของคุณเป็นถึงแชมป์เทควันโด แค่แรงเตะเล็กน้อยจากเธอ ไม่สามารถฆ่าเขาได้อย่างแน่นอน!”
เมื่อได้ฟังแบบนี้ ผู้ชายพวกนั้นก็ยิ่งโกรธมากขึ้น "อะไรวะ? นี่จะเบี้ยวไม่ยอมจ่ายเงินมาดี ๆ ใช่ไหม?”
คุณดอนเนลลี่อาจจะพูดจากล้าหาญมากจนเกินไป แต่ถึงยังไงเขาก็ยังเป็นแค่นักธุรกิจที่ถ่อมตนอยู่ดี
ขณะที่พวกนั้นกำลังข่มขู่เขา เขาก็ถอยหลังกลับด้วยความกลัว ก่อนยิ้มจาง ๆ ออกมา
“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น! มันก็แค่…”
"ไม่ต้องพูดแล้ว! จะจ่ายด้วยเงินในกระเป๋ามาดี ๆ หรือว่าจะจ่ายด้วยชีวิต!”
ในที่สุดกิดเดียนก็เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น พวกอันธพาลเหล่านี้ไม่ต้องการความยุติธรรม พวกเขาแค่ต้องการเงินจำนวนมากเท่านั้น
เนื่องจากเงินคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ เขาจึงไม่ต้องรีบร้อนอะไร
กิดเดียนช่วยประคองเนลล์ไปที่โซฟาที่จีนนั่งอยู่ และจับตาดูพวกเขาขณะที่พูดว่า
"คุณต้องการเงินใช่ไหม? ได้ พาเจ้านายของพวกนายออกมา ฉันจะคุยกับเขาเอง”
ชายพวกนั้นชะงักไปครู่หนึ่ง
เมื่อคิดว่า กิดเดียน ลีย์ ยังคงสงบนิ่งในสถานการณ์เช่นนี้
พวกผู้ชายเหล่านั้นก็มองเขาด้วยความสงสัย ทันใดนั้นเสียงแห่งความไร้กังวลก็ดังขึ้นมาจากข้างหลังของพวกเขา
“ใครถามหาฉันเหรอ?”
กลุ่มคนแยกออกจากกันราวกับทะเลแหวก ก่อนจะมีชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งก้าวเข้ามา
สมาชิกในแก๊งรุ่นใหญ่และมีอำนาจ ก็โค้งคำนับทันที เขาตะโกนว่า “นายครับ!”
ชายคนนั้นโบกมือให้กับพวกเขา และมองดูทั้งคู่ที่นั้งอยู่บนโซฟา ก่อนจะมีรอยยิ้มสดใสปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขา
“ดีออน! ยินดีที่ได้พบนายที่นี่!”
จากนั้นเขาก็พาพวกเขาไปขึ้นที่ห้องเก็บเสียงข้างบนชั้นสอง
ไม่น่าเชื่อว่าบาร์เกรดต่ำแบบนี้จะมีห้องวีไอพีขนาดใหญ่อยู่ชั้นบน
ปลายด้านหนึ่งของห้องเป็นประตูและผนัง ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นสวนลอยฟ้าที่ทำขึ้นมาจากกระจก มันดูเหมือนกับเป็นสวรรค์ที่อยู่บนดิน
เขายิ้มและพาพวกเขาเข้ามาในห้อง “อย่าหัวเราะออกมาเชียวนะ เพราะนี่คือจุดพักผ่อนเล็ก ๆ ที่ฉันสร้างขึ้นมาเอง ข้างล่างมันเสียงดังจนฉันทนไม่ไหวแล้ว!”
เมื่อประตูปิดลง เสียงทั้งหมดก็หายไป หลงเหลือไว้แค่เพียงความเงียบเท่านั้น
เขายิ้มออกมา “ผมเพิ่มผนังกันเสียงในห้องนี้ถึงสิบชั้น คุณรู้สึกถึงความเงียบนี้ไหม?”
พวกเขาพยักหน้า
กิดเดียนเดินไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนจะหันไปมองชายคนนั้น
“แล้วทำไมนายถึงอยู่ที่นี่? ฉันจำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อน นายเข้าร่วมในกลุ่มวิจัยกับพวกรุ่นพี่ แล้วทำไมถึงมาโผล่ที่นี่ได้?”
ชายคนนั้นยังคงยิ้ม "อย่ารีบร้อนไปเลย นั่งลงก่อน ฉันจะเอาชามาให้”
เขาพาพวกเขาไปที่โซฟาในสวนเล็ก ๆ ก่อนจะไปชงชาด้วยตัวเอง
จากการมองทักษะการชงชาของเขาแค่เพียงอย่างเดียว จีนก็กระซิบกับกิดเดียน ด้วยความสงสัยว่า “กิดเดียน เขาเป็นใครเหรอ? เป็นเพื่อนของนายรึเปล่า?"
กิดเดียนตอบเบา ๆ ว่า “เขาชื่อ เบเนดิกต์ แคนเทอร์วิช เขาเป็นเพื่อนของผมตั้งแต่สมัยเรียน ผมเรียนธุรกิจ ส่วนเขาเรียนปริญญาโทด้านวิทยาศาสตร์ เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วครับ”
จีนถึงกับชะงัก “บัณฑิตวิทยาศาสตร์? งั้นเขาก็เป็นอัจฉริยะสิ! แล้วทำไม…”
เมื่อจีนจะรู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นถึงอัจฉริยะ เธอจึงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากไปกว่านี้
แต่ทว่ากิดเดียนกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย ขณะที่กำลังนึกถึงเรื่องนี้อยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก