“ว๊าก!”
เสียงกรีดร้องดังก้องไปทั้งชั้น นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ชายคนหนึ่งที่จะสามารถกรีดร้องอย่างสุดพลังและความสามารถ
ใช่แล้ว นี่คือครั้งสุดท้ายแห่งความเป็นชาย!
หลังจากเสร็จสิ้นเรื่องเหล่านี้แล้ว
เมิ่งไฉ่หรูจึงหยิบกระเป๋าของตัวเอง แล้วเดินออกจากห้องไป
บริเวณทางเดินของโรงแรมมีบอดี้การ์ดยืนเรียงรายอยู่สองข้างทางอย่างเป็นระเบียบ
เมิ่งไฉ่หรูตื่นเต้นกับสิ่งนี้จนแทบจะเป็นลม
ในตอนที่เธอถูกช่วยเอาไว้นั้น กล้าหาญเด็ดเดี่ยว เจ๋ง!
เมื่อครู่แม้แต่ตอนที่ตนเองแก้แค้นนั้น จางต้าชาน ไม่กล้าแม้แต่จะขัดขืน เขาโดนกระบองไฟฟ้าของเธอไปเต็ม ๆ เจ๋ง!
และในตอนนี้ที่เดินออกมา บอดี้การ์ดยืนเรียงแถวเป็นระเบียบ ก็เพื่อรอรับเธอ
นี่มันเจ๋งสุด ๆ เลย
นี่เป็นความรู้สึกของการมีที่พึ่งใช่รึเปล่า? นี่ความรู้สึกของการได้อยู่กับ หนุ่มหล่อผินผัน ใช่รึเปล่า?
เจิดจรัส ปลอดภัย
นี่มันเทียบกับคนปกติทั่วไปไม่ได้เลย!
“คุณเมิ่ง เชิญขึ้นรถ!”
ที่ประตู หลี่เฟยหงเปิดประตูให้เมิ่งไฉ่หรูด้วยตัวเองและเชิญเธอเข้าไปนั่งในรถ
ขบวนรถจึงได้ค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไป
เฉินเกอล่ะ?
อันที่จริงเฉินเกอก็ตามมาด้วย เมื่อหลี่เฟยหงมั่นใจว่าเป็นห้องไหนแล้วพาลูกน้องขึ้นไปนั้น เฉินเกอก็เกือบจะขึ้นไปแล้ว
แต่ว่า เฉินเกอเกิดลังเล
หากตัวเองขึ้นไปแล้ว คงจะต้องเกิดการเผชิญหน้ากับเมิ่งไฉ่หรู
ถึงเวลานั้นตนเองจะพูดอะไร?
เรื่องที่ตัวเองคือ คุณชายเฉิน ก็จะความแตกหย่างนั้นหรอ?
หย่างนั้นที่ตนเองปิดเรื่องนี้มาตั้งนานจะมีความหมายอะไร?
จะพูดไปแล้ว เรื่องแค่นี้หลี่เฟยหงก็สามารถจัดการได้อยู่แล้ว
ตัวเองจะขึ้นหรือไม่ขึ้นก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเท่าไหร่ จึงได้สั่งหลี่เฟยหงเอาไว้ จากนั้นเฉินเกอก็นั่งรถกลับไปเอง
ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลที่หลี่เฟยหงบอกกับเมิ่งไฉ่หรูแบบนั้น
“คุณหลี่คะ เรื่องวันนี้ต้องขอบคุณคุณมาก ฉันจะบอก หนุ่มหล่อผินผัน ให้ว่าต้องลำบากคุณแล้ว!”
บนรถ เมิ่งไฉ่หรูนั่งไขว่ห้าง และพูดกับหลี่เฟยหงที่ห้องคนขับ
น้ำเสียงไม่สุภาพเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป แต่มันก็ค่อนข้างนิ่ง
หึ ๆ หลี่เฟยหงเจ๋งขนาดนี้ แต่ก็ยังเป็นแค่ลูกน้องของหนุ่มหล่อผินผัน ตนเองถ้ายังปฏิบัติกับเขาอย่างสุภาพแบบนั้น ก็ไม่เท่ากับลดเกรดตัวเองหรอ?
“ขอบคุณครับคุณเมิ่ง! อีกอย่างรบกวนคุณช่วยบอกเฉิน... หนุ่มหล่อผินผัน ด้วยว่า พวกเราเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว!”
หลี่เฟยหงทำได้เพียงหัวเราะ
เมิ่งไฉ่หรูรับคำอืมสั้น ๆ คิดในใจว่าด้วยความตื่นเต้นทำให้เธอลืมที่จะติดต่อ หนุ่มหล่อผินผัน ไป
เธอจึงเปิด Wechat และเปิดหาบทสนทนากับ หนุ่มหล่อผินผัน
“หนุ่มหล่อผินผัน คุณช่วยฉันไว้ใช่ไหมคะ? รักคุณนะ รักคุณตายเลย!”
เฉินเกอที่ไม่ได้ขับรถของเมิ่งไฉ่หรูมาและทิ้งมันไว้ที่บาร์ กลับมาถึงหอและพักผ่อนแล้ว เมื่อได้รับ Wechat ของเมิ่งไฉ่หรู ก็รู้ได้จริง ๆ ว่าเธอปลอดภัยแล้ว เขาก็วางใจได้ แล้วตอบกลับอืมหนึ่งคำ
“วันนี้คุณทำให้ฉันซาบซึ้งใจจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีแล้ว? อืม ฉันจะไม่บอกว่าขอบคุณแล้ว หนุ่มหล่อผินผัน คุณโปรดจำไว้ ฉันจะเป็นผู้หญิงของคุณจากนี้ไป เป็นเป้าหมายของฉันเมิ่งไฉ่หรู!”
เมิ่งไฉ่หรูพิมพ์ข้อความนี้ด้วยความประหม่าและส่งมันออกไป
“แม่งเอ๊ย”
ในหอพัก เฉินเกอส่งเสียงดังด้วยความตกใจและบ้าคลั่ง
“เฮ้ย เป็นไรอ่ะ เหล่าเฉิน? นอนละเมอรึไง?”
“ไม่มีอะไร ๆ แค่ตกใจน่ะ! นอนเถอะ ๆ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว!”
เฉินเกอหลับไป
“คุณเมิ่งครับ ถึงโรงเรียนแล้วครับ!”
หลี่เฟยหงลงมาเปิดประตูแทนเมิ่งไฉ่หรู
เมิ่งไฉ่หรูรับคำอืมหนึ่งครั้ง แล้วจึงค่อย ๆ ลงจากรถ
สำหรับเฉินเกอที่เธอพาไปบาร์ด้วยนั้น ดูเหมือนจะถูกเธอลืมไปตั้งนานแล้ว
ความจริงแล้ว เมื่อตอนที่เพิ่งออกมาจากบาร์ เมิ่งไฉ่หรูคิดถึงเฉินเกอขึ้นมาได้
กุญแจรถของตนเองก็ยังอยู่กับเขา
ยังคิดว่าจะให้หลี่เฟยเกอให้คนไปรับเขามา
แต่ก็เกิดเปลี่ยนความคิด เฉินเกอที่ห่วยและ LOW ขนาดนั้น ถ้าให้คนอื่นรู้ว่าเขาคือลูกศิษย์ของตนเอง คงจะเสียหน้าแย่?
ยิ่งคิด เมิ่งไฉ่หรูก็ยิ่งหน้าซีด
แต่ว่าทำไมเฉินเกอถึงได้มาอยู่บนรถคนนี้ได้?
เขาเป็นใครกันแน่?
นี่ ๆ ๆ...มันเกิดอะไรขึ้น?
หรือว่า...?
เมิ่งไฉ่หรูรู้สึกว่าหัวเธอหมุนไปหมด
“คุณหลี่คะ ฉันอยากจะถามคุณค่ะ คุณรู้จักเฉินเกอไหมคะ?”
เหมือนจะคิดถึงความเป็นไปได้บางอย่างได้ เมิ่งไฉ่หรูเบิกตาโพลงแล้วถาม
“ไม่รู้จักครับ ทำไมหรอ?”
หลี่เฟยหงตอบโดยไม่ทันคิด ในขณะเดียวกันที่จู่ ๆ เมิ่งไฉ่หรูก็พูดชื่อของเฉินเกอออกมา ทำให้หลี่เฟยหงประหม่าไปบ้าง
“อ่อ ๆ อย่างนั้นหรอคะ เฉินเกอเป็นนักเรียนของฉันค่ะ พาวเวอร์แบงค์อันนี้ฉันให้เขายืมไปเมื่อตอนบ่าย แต่ว่าทำไมมันถึงมาอยู่บนรถของคุณได้?”
“นั่นสิ พาวเวอร์แบงค์อันนี้คุณให้เฉินเกอยืมไป แล้วทำไมมันมาอยู่บนรถได้นะ?”
หลี่เฟยหงกลืนน้ำลายอย่างไร้ร่องรอย
โผล่มาได้ยังไง?
จะต้องเป็นตอนที่ คุณชายเฉิน ออกไปแล้วไม่ระวังทำพาวเวอร์แบงค์ตกเอาไว้แน่!
“ฉันต่างหากที่ต้องถามคุณนะคะคุณหลี่!”
เมิ่งไฉ่หรูดูเหมือนอยากจะได้คำตอบอย่างเร่งด่วน
“อ้อ ๆ คืออย่างนี้ครับ ตอนที่พวกเรารู้ว่าคุณมีปัญหานั้น พวกเราก็ไปหาคุณที่บาร์ แต่ว่านะ พวกเราไม่พบคุณ พวกเราก็เลยสอบถามและหาไปทั่ว อยากจะรู้ว่าคุณหน้าตายังไง สุดท้ายมีคนบอกว่ารูปในสติกเกอร์ก็คือคุณ ดังนั้นผมก็เลยหยิบพาวเวอร์แบงค์มาด้วย...”
หลี่เฟยหงเป็นผุ้ชายที่ทำอะไรด้วยความกล้าหาญ การให้ชายผู้กล้าต้องพูดโกหกพกลม ความจริงเป็นเรื่องที่ทำให้เขาลำบากใจ
“อ้อ ๆ ฉันเข้าใจแล้ว”
เมิ่งไฉ่หรูชั่งน้ำหนักพาวเวอร์แบงค์ในมือของเธอ และดูเหมือนว่าเฉินเกอคงจะเอาให้กับเขาสินะ
จากนั้นก็บอกลาหลี่เฟยหงแล้วตัวเองก็หนีไป
แต่เมื่อคิดกลับไป กลับทำให้เมิ่งไฉ่หรูคิดว่ามันไม่ปกติ
หลี่เฟยหงเหมือนจะกำลังโกหก ยิ่งกว่านั้นคำพูดสุดท้าย ดูแล้วเหมือนจะเป็นอย่างนั้น แต่มันเต็มไปด้วยช่องโหว่รู้รึเปล่า?
ไม่ใช่! ! !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...