ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 472

บทที่472 พบเพื่อนเก่าอีกครั้ง

ตลอดทางที่เฉินเกอมายังห้องโถงของโรงพยาบาล

“อา!”

และในเวลานี้เองนั้น ผู้หญิงคนหนึ่งที่วิ่งมาอย่างรีบร้อนจากทางด้านข้าง จู่ๆก็ขาเคล็ดขึ้นมา

เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะล้มไปนั้น

เฉินเกอตาเร็วมือไว จึงพยุงตัวเธอเอาไว้ได้

“พระเจ้าเถอะ! เกือบไปแล้วจริงๆ ขอบคุณมากนะสุดหล่อ!”

หลังจากที่หญิงสาวยืนมั่นแล้วจัดแจงผมที่ยุ่งเหยิงของเธอเสร็จแล้วนั้น จึงรีบเอ่ยขอบคุณขึ้นมา

และในขณะเดียวกัน ในใจของหญิงสาวเองก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ

ใส่ผ้าปิดจมูก สวมหมวก ท่าทางดูลึกลับเป็นอย่างมาก

อีกทั้งสายตานั่น เหมือนกับเคยรู้จักกันมาก่อน และก็รู้สึกแปลกหน้าด้วยเช่นกัน

“อืม!”

ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่พยักหน้าลงเท่านั้น

แน่นอนว่าสายตานั้นกลับอดที่จะหยุดอยู่ตรงร่างของหญิงสาวไม่ได้

เนื่องจากผู้หญิงคนนี้ เฉินเกอรู้จัก

“เรารู้จักกันหรือคะ?”

หญิงสาวเองยิ้มพลางเอ่ยถามขึ้น

เฉินเกอส่ายหน้า

“โอเคค่ะ ขอบคุณมากนะคะ!”

หญิงสาวเพียงแต่ยิ้มออกมา

“หรานหราน เกิดอะไรขึ้น?”

เวลานี้เอง ที่หนุ่มหล่อคนหนึ่งที่สวมใส่ชุดสูทนั้นเดินเข้ามา

“ตรวจร่างกายเสร็จแล้ว ฉันกำลังจะไปหาคุณพอดี อีกนิดเดียวก็เกือบจะล้มไปแล้ว!”

หญิงสาวดึงแขนของชายหนุ่มเอาไว้ด้วยท่าทางที่อ่อนโยน

“นี่ ถ้าเจียงหรานหรานล้ม ฉันจะไปบอกคุณอาเจียงไม่ได้น่ะสิ!”

ชายหนุ่มยิ้ม

ไม่ผิดแน่ ผู้หญิงคนนี้คือเจียงหรานหรานนั่นเอง

“สุดหล่อคนนี้ช่วยฉันเอาไว้!”

เจียงหรานหรานมองเฉินเกอพลางยิ้มออกมา

“ขอบคุณมากนะน้องชาย ฉันเป็นแพทย์ประจำอยู่โรงพยาบาลนี้ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า?”

แฟนของเจียงหรานหรานยิ้มพลางเอ่ยขึ้น

เฉินเกอส่ายหน้า หลังจากนั้นจึงเดินออกไป

เหอะๆ จำได้ว่าตอนที่ยังเด็กอยู่ เขาชอบเจียงหรานหรานเป็นเวลานานอยู่เช่นกัน

รู้สึกว่าเธอแต่งตัวดูดี ดูสวย

ส่วนหลังจากนั้น ถึงแม้ว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดูคลุมเครือกับเจียงหรานหราน

แต่ตอนนี้เวลาผ่านไปเป็นครึ่งปีแล้ว เจียงหรานหรานเองก็มีชีวิตของตัวเอง และเป็นชีวิตที่ดีมากเช่นกัน

“น้องชายคนนี้แปลกจริงๆ!”

มองตามเบื้องหลังของเฉินเกอไป ชายหนุ่มก็อดที่กระซิบกระซาบออกมาไม่ได้

“ไม่เพียงแค่แปลกเท่านั้นนะ ฉันยังรู้สึกคุ้นหน้าเขาด้วย เหมือนกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อน!”

เจียงหรานหรานเอ่ยพลางขมวดคิ้วขึ้น

“หรานหราน พวกเธอทำอะไรกันน่ะ?”

“เจียวเจียว ทำไมเธอเพิ่งออกมาล่ะ?”

เจียงหรานหรานมองไปยังหญิงสาวที่แต่งตัวดูทันสมัยคนหนึ่ง

“อย่าพูดถึงเลย ฉันตรวจหลายรายการน่ะ เดือนหน้าก็ต้องแต่งงานแล้วไม่ใช่รึไง? เหอๆ!”

เจียวเจียวเอ่ยขึ้นมาอย่างดีใจ

เธอเองก็สังเกตเห็นเฉินเกอที่เดินออกไปแล้วเช่นกัน

“หืม? เขา.....”

ดวงตาคู่สวยของเจียวเจียวอดที่จะไหวขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้

“ทำไมหรือหลินเจียว? ไม่ใช่ว่าเธอจะรู้สึกว่าคุ้นๆเหมือนกันหรอกนะ? หรือว่าเธอเห็นว่าเขารูปร่างดี ก็คิดว่าเขาจะต้องเป็นหนุ่มหล่อแล้ว ตั้งแต่ที่ฉันรู้จักเธอที่จินหลิง ฉันเข้าใจเธอมากเลยนะ เห็นผู้ชายหล่อๆขาก็แทบจะขยับไม่ได้เลยแบบนั้น!”

เจียงหรานหรานยิ้มพลางเอ่ยขึ้น

“เปล่า ฉันรู้สึกว่าเขาดูคุ้นๆ โดยเฉพาะเบื้องหลังของเขา เหมือนกับเคยเจอที่ไหนมาก่อน!”

หลินเจียวเอ่ยขึ้น

“อา ช่างเถอะ ไปกันดีกว่า รอให้สามีฉันเลิกงานก่อน แล้วพวกเราไปกินข้าวด้วยกันนะ? หลังจากนั้นก็ไปช้อปปิ้งกัน!”

หลินเจียวเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“ได้สิ!”

ทุกคนกลับออกไปและพูดคุยกันด้วยเสียงหัวเราะ

เฉินเกอเองก็นึกไม่ถึงว่าจะมาเจอเจียงหรานหรานเข้า เพื่อที่จะทำให้เกิดปัญหาใหม่ขึ้นมา เฉินเกอเองจึงทำเป็นจำเธอไม่ได้เช่นกัน

“เถ้าแก่ ขอกินหน่อยสิ!?”

“ไปซะๆ อายุยังน้อยแค่นี้ก็มาขอข้าวกิน อาหารจะเลี้ยงหมาก็ไม่ให้หรอก ไสหัวไปไกลๆเลย!”

ชายหนุ่มผมยุ่งหน้าตาสกปรกมอมแมมที่พิการ ขาดขาไปหนึ่งข้างยืนค้ำท่อนไม้เอาไว้ ถือถ้วยชามแตกๆเดินมาตรงด้านหน้าแผงลอยข้างทาง

ผลปรากฏว่ากลับถูกเถ้าแก่ไล่ไปอย่างกับตัวเองเป็นแมลงวันเสียอย่างนั้น

คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเองก็พากันชี้มายังหนุ่มขอทานคนนี้

ส่วนเฉินเกอเองที่เดินผ่านมาเห็นฉากนี้เข้า จึงอดที่จะส่ายหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ หลังจากนั้นก็เดินไป

ที่แย่ที่สุดก็คือหยงหาว ที่ถูกตัดขาไป ทำให้เขาไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อที่จินหลิงได้

ทางครอบครัวของคุณลุงหวงเองนั้นก็ถูกโม่เจี้ยนลอบทำร้ายด้วยเช่นกัน

และเรื่องพวกนี้ เฉินเสี่ยวเองก็รู้สึกโมโหแต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากออกมาเช่นกัน

ดังนั้นจึงมีภาพนี้เกิดขึ้นมา

ส่วนทางด้านไป๋เสี่ยวเฟยเองก็เพื่อเป็นการหนีภัยนี้ จึงย้ายบ้านหนีไป และเสี่ยวเฟยก็ไปสมัครเป็นทหาร

ส่วนหลินหรานเด็กนั่น หลังจากที่ครอบครัวของเธอถูกลูกน้องของโม่เจี้ยนบีบบังคับจนล้มละลายแล้ว เหมือนกับว่าเธอจะไปเป็นพยาบาล ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหนแล้วเช่นกัน

เปลี่ยนไปแล้ว ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว

ต้นตอของเรื่องราวทั้งหมด เป็นเพราะตัวเอง และฆาตกรก็ยังคงเป็นตระกูลโม่

“ตระกูลโม่! โม่เจี้ยน!”

ดวงตาของเฉินเกอ อดที่จะปรากฏความอาฆาตที่รุนแรงออกมาไม่ได้

“พี่ ฉันทำให้พี่ต้องอับอาย ตอนนี้ฉันเป็นคนพิการไปแล้ว เหอะๆ!”

หวงหยงหาวฝืนยิ้มออกมา

“คนพิการอะไร นายวางใจได้เลย แผลของนาย ฉันจะรักษาให้นายเอง สิ่งที่ตระกูลหวงประสบพบเจอ ฉันเองก็จะเรียกความยุติธรรมให้กับพวกคุณลุงหวงเอง!”

เฉินเกอเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา

ส่วนหวงหยงหาวนั้นกลับส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว

“ไม่ต้องแล้วพี่ คืนนี้พี่ออกไปจากจินหลิงนี่เถอะ ตอนนี้ที่จินหลิงทุกอย่างเปลี่ยนไปตั้งนานแล้ว โม่เจี้ยนนั่น ไม่ใช่หลงเช่าหยุน แล้วก็ไม่ใช่คุณชายธรรมดาที่หาได้ทั่วๆไปด้วย เขาเก่งและร้ายกาจมาก ถึงแม้ว่าพวกเราจะมีสถานะเบื้องหลังเหมือนเมื่อก่อน ก็ไม่สามารถที่จะสู้กับเขาได้อยู่แล้ว!”

“ฉันรู้แล้ว นายวางใจเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”

“ถ้าอย่างนั้นพี่หลบหนีการตามฆ่าของตระกูลโม่มาตลอด ตอนนี้พี่วางแผนจะทำอย่างไรต่อ?”

“เหอๆ ตอนนี้ยังไม่ได้วางแผนอะไรเลย ค่อยๆว่ากันไปทีละก้าวแล้วกัน!”

“พี่ ถ้าไม่อย่างนั้นฉันขอติดตามพี่ไปแล้วกันนะ เราสองคนแม้จะต้องตายก็คุ้มแล้ว ถึงอย่างไรฉันก็ไม่อยากจะใช้ชีวิตอยู่แบบนี้อีกแล้ว ฉันเหมือนตายทั้งเป็น!”

เฉินเกอลังเลอยู่พักหนึ่ง

ใช่ ตอนนี้ครอบครัวของหยงหาวก็ไม่มีแล้ว ถูกโม่เจี้ยนทรมานจนไม่มีใครแล้วเช่นกัน

จะทิ้งเขาไว้แบบนี้ เฉินเกอเองก็ไม่สามารถทนนิ่งเฉยได้

“ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นายจะต้องไปรักษาแผลตัวเองในที่ที่นึงก่อน ตอนนี้นายก็ตามไปกับฉัน เราสองคนร่วมเป็นร่วมตายกัน!”

เฉินเกอกล่าว

“อืม ร่วมเป็นร่วมตาย!”

หวงหยงหาวเอ่ยพูดด้วยความซาบซึ้งใจ

หลังจากนั้น เฉินเกอก็แนะนำสถานที่หนึ่งให้กับหวงหยงหาว ให้เขาไปยังชายแดนทางตะวันตกเฉียงใต้ ไปหลบภัยที่ตระกูลเว่ยก่อน และที่นั่น ก็มีโจ๋วจงทาวที่เขาส่งตัวไปที่นั่นแล้ว แผลที่ขาของหยงหาวนั้นจะไม่เป็นปัญหาอย่างแน่นอน

“แล้วพี่ล่ะ?”

หวงหยงหาวเอ่ยถาม

“ฉัน? เหอๆ รอฉันจัดการเรื่องนี้เสร็จก่อนแล้วกัน......”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน