ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 474

บทที่474 ผู้หญิงแปลกบนรถบัส

หลังจากนั้นหนึ่งคืน

ตระกูลเฉินแห่งเมืองหนานหยาง

“ท่านครับ ข่าวดีครับ ข่าวดี!”

พ่อบ้านวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน

เฉินจิ้นตงที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องหนังสือนั้น มองตามพ่อบ้านที่เข้ามา เฉินจิ้นตงลูบคิ้ว แล้ววางแว่นตาลง

“ข่าวดีอะไร?”

เฉินจิ้นตงเอ่ยถาม

“โม่ฉางคง ที่ครึ่งปีมานี้ โม่ฉางคงตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลเฉิน โดยเฉพาะโม่เจี้ยน แต่ตอนนี้ทางเราเพิ่งจะได้รับข่าวมาว่า โม่เจี้ยนนั่นหายตัวไปแล้วครับ!”

“หืม? โม่เจี้ยนหายตัวไป?”

เฉินจิ้นตงยืนขึ้นอย่างลืมตัว

จะว่าไปจริงๆแล้ว ถึงแม้ว่าโม่เจี้ยนจะเป็นบุตรชายคนที่สามของโม่ฉางคง แต่ครึ่งปีมานี้ได้สร้างกำลังอำนาจที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลเฉินไปเสียทุกหนทุกแห่ง

ถึงแม้ว่าเฉินจิ้นตงจะไม่ได้เห็นโม่เจี้ยนอยู่ในสายตาเลยก็ตาม

แต่แม้ว่าแมลงวันจะตัวเล็ก แต่มันก็ทำให้คนรังเกียจได้

แล้วก็หาเรื่องทำให้ตระกูลเฉินต้องเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด

เป็นเหมือนกับมีดเล่มหนึ่งที่เสียบคาอยู่บนตระกูลเฉิน

แต่ตอนนี้ ไม่คิดว่าโม่เจี้ยนจะหายตัวไปแล้ว?

“ใช่ครับ ไม่เพียงแค่หายตัวไปเท่านั้น อีกทั้งกำลังคนส่วนใหญ่ของโม่ฉางคงก็ถูกถอดถอนออกไปหมดแล้วด้วย เมื่อคืนก็ไปกันหมดแล้วครับ ตอนนี้ ตระกูลเฉินของพวกเราจะได้หายใจได้คล่องขึ้นเสียที!”

พ่อบ้านเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจ

เฉินจิ้นตงเองก็พยักหน้าด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม

“แต่.....”

พ่อบ้านขมวดคิ้วขึ้นอีกครั้ง : “โม่เจี้ยนเป็นลูกชายสุดที่รักของโม่ฉางคง ตอนนี้เกิดเรื่องขึ้นกับเขา ไม่รู้ว่าโม่ฉางคงจะพาลมาลงที่ตระกูลเฉินของพวกเราด้วยหรือเปล่านะครับ หรือแม้กระทั่งจะสงสัยตระกูลเฉินของเราด้วย?”

“ไม่หรอก!”

เฉินจิ้นตงโยนหนังสือที่อยู่ในมือลง “โม่ฉางคงเองก็ไม่ใช่คนโง่ โม่เจี้ยนเป็นคนเชี่ยวชาญแข็งแกร่งมาก พวกเราตระกูลเฉินไม่สามารถทำอะไรโม่เจี้ยนได้อยู่แล้ว หรือแม้ว่าจะทำอะไรได้ แต่สถานการณ์ตอนนี้ พวกเราตระกูลเฉินก็ไม่กล้าจะทำอะไรโม่เจี้ยนอยู่แล้ว ในใจของโม่ฉางคงนั้นรู้ดีตรงจุดนี้ และตอนนี้โม่ฉางคงก็ถอดถอนกำลังคนไป เห็นได้ชัดว่าทางนั้นพวกเขากำลังเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นแล้ว!”

เฉินจิ้นตงยิ้มพลางเอ่ยขึ้นมา

ในใจนับว่ารู้สึกโล่งอกยิ่งนัก

“ท่านพูดถูกครับ ผมคงเป็นกังวลมากเกินไป!”

พ่อบ้านกล่าว

“แต่ อยู่ในจินหลิงแล้วสามารถจับเอาตัวโม่เจี้ยนไปได้อย่างง่ายดายแบบนี้ คิดดูแล้วคนๆนี้จะต้องเป็นมือหนึ่งในผู้ที่มีฝีมือสูงอย่างแน่นอน อะฟู๋!”

แล้วจู่ๆเฉินจิ้นตงก็มีสีหน้าจริงจังขึ้นมา

“ท่านครับ ท่านว่า.....”

“ฉันมอบหมายหน้าที่นึงที่เป็นความลับให้นาย นั่นก็คือไม่ต้องไปเสียดายเงินค่าตอบแทนอะไรทั้งนั้น แล้วไปสืบเรื่องนี้มาให้ฉัน ทางที่ดีที่สุดเอาให้รู้เบาะแสของอำนาจอิทธิพลผู้ที่มีฝีมือท่านนี้ด้วย ถ้าหากสามารถเชิญให้เขามาช่วยตระกูลเฉินของเราได้ โม่ฉางคงก็คงจะลำบากน่าดู ไม่แน่ว่าอาจจะแก้ไขทุกอย่างได้ จำไว้ว่า ไม่ต้องไปสนใจหรือเสียดายค่าตอบแทนอะไรทั้งนั้นนะ!”

เฉินจิ้นตงตบโต๊ะพลางเอ่ยขึ้นมา

“เข้าใจแล้วครับ จะรีบปฏิบัติตามเดี๋ยวนี้เลยครับ!”

“รอเดี๋ยว ไปเชิญคุณหนูกับคุณนายอะล๋านมาหน่อย ไม่ได้ทานอาหารกันพร้อมหน้าพร้อมตากันนานแล้ว วันนี้ มาทานข้าวพร้อมกันทั้งครอบครัวเสียหน่อย!”

“ครับ!”

พ่อบ้านเห็นเฉินจิ้นตงมีความสุขเช่นนี้ ในใจก็รู้สึกดีใจยิ่งขึ้นไปด้วย

งานเลี้ยงของครอบครัวตระกูลเฉิน ตั้งแต่ที่เฉินเกอเกิดเรื่องก่อนหน้านี้ครึ่งปีมานั้น

ก็ไม่ได้มีการทานข้าวด้วยกันในงานเลี้ยงของครอบครัวอีกเลย

แม้แต่หยางยู่ผิง ครึ่งปีมานี้จะพูดว่าน้อยครั้งมากก็ได้ที่จะมาอยู่ข้างๆเฉินจิ้นตง

เขาเคยชินกับการขังตัวเองเอาไว้ในห้องหนังสือแล้ว

งานครอบครัวครั้งนี้ เห็นพ่อมีความสุขขนาดนี้ เฉินเสี่ยวและฉินหลานก็เปลี่ยนอารมณ์ไปด้วยเช่นกัน

“พ่อ เรื่องอะไรถึงได้ดูมีความสุขขนาดนี้? มีเบาะแสของเสี่ยวเกอแล้วอย่างนั้นหรือ?”

เฉินเสี่ยวเอ่ยถาม

เฉินจิ้นตงส่ายหน้าอย่างหดหู่ : “ยังไม่ได้เบาะแสของเสี่ยวเกอเหมือนเดิม.....”

สีหน้าของทุกคนหม่นหมอง

“แต่วันนี้ เป็นวันดีวันหนึ่งจริงๆ พ่อได้รับข่าวที่น่าเชื่อถือได้มา ว่าโม่เจี้ยนหายตัวไปแล้ว คฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทน เกิดการฆ่าสังหารกัน ลูกน้องของโม่ฉางคงถูกฆ่าตายทั้งหมด!”

เฉินจิ้นตงกล่าว

“อะไรนะ? โม่เจี้ยนหายตัวไป?”

เฉินเสี่ยวลุกขึ้นมาพลางยิ้ม

“ใช่น่ะสิ ผู้ที่มีฝีมือลึกลับที่จับตัวโม่เจี้ยนไป ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่ถึงอย่างไรก็ช่วยพวกเราตระกูลเฉินไว้ได้มาก!”

เฉินจิ้นตงยิ้มพลางเอ่ยขึ้น

“ถ้าอย่างนั้น นอกจากตระกูลโม่ แล้วยังมีคนของตระกูลที่ซ่อนตัวอยู่อีกไหม?”

เฉินจิ้นตงส่ายหน้า : “นี่ก็ไม่รู้แล้วล่ะ สรุปก็คือ ตอนนี้พวกเรายังต้องรีบให้ผู้ที่มีฝีมือแบบนี้มาช่วยเหลือตระกูลเฉิน ถ้าหากหาตัวปรมาจารย์ท่านนี้เจอ พ่อยอมใช้ทรัพย์สินหนึ่งในสามเป็นเงื่อนไขเลย!”

เฉินเสี่ยวและคนอื่นๆก็พากันพยักหน้า.....

ทางตะวันตกเฉียงใต้ เขตหยูนกุ้ย

แต่ใครก็ไม่ได้สนใจเงินเพียงไม่กี่หยวน ต่างก็พากันหยิบเงินออกมาซื้อ

“พวกคุณสองสามคนนี่ไม่พูดมาตลอดทางเลยนะ หิวแล้วใช่ไหม ถ้าไม่อยากนั้นกินด้วยกันไหม ผ่อนคลายกันเสียหน่อย?”

ชายอ้วนแบ่งขนมไปตลอดทาง

และขณะที่ถึงตรงตำแหน่งที่อยู่ตรงกลางนั้น ก็เห็นคนที่สวมใส่หมวกและผ้าปิดจมูกคนหนึ่ง ซึ่งมองดูอายุของเขาไม่ออก

และด้านหลังเขานั้น กลับมีวัยรุ่นสองคนที่ดูอ่อนแรงเป็นอย่างมาก

รู้สึกแปลกๆตั้งแต่แรกแล้ว

ส่วนคนที่สวมใส่ชุดดำนั้น เวลานี้เขากลับส่ายหน้า

“ทำความรู้จักกันหน่อยสิ ฉันเองก็ไม่ได้จะเอาเงินกับนายเสียหน่อย!” ชายอ้วนกล่าว

แต่คนที่สวมชุดดำนั้น กลับหันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง

เป็นคนที่แปลกมากจริงๆ

ชายอ้วนบ่นพึมพำ

หลังจากนั้นจึงหันไปทางด้านซ้ายของคนที่ใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีดำ มีสาวสวยคนหนึ่งที่สวมใส่เสื้อหนังกางเกงหนัง คล้ายๆกับแบล็ค วิโดว์ในภาพยนตร์อย่างไรอย่างนั้น

สาวสวยคนนี้ไว้ผมยาว แต่ใบหน้าดูเย็นชายิ่งนัก

เธอกำลังหลับตาพักผ่อนอยู่

“คนสวย สั่งหน่อยไหม?”

ชายอ้วนยิ้มพลางเอ่ยขึ้น

สาวสวยส่ายหน้า

“ขนมนี่มีรสชาติหวานเล็กน้อย จะช่วยให้บรรเทาความเหนื่อยล้าได้นะ!”

ชายอ้วนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

หญิงสาวคงจะอยากให้ชายอ้วนนี้หยุดพูด จึงเอ่ยพูดขึ้นอย่างติดรำคาญ : “เอาให้ฉันห่อนึงแล้วกัน!”

หลังจากที่ชายอ้วนเอาให้แล้วนั้น

ก็รอให้หญิงสาวจ่ายเงิน

แต่หญิงสาวเปิดถุงขนมออกแล้ว และกำลังเตรียมที่จะจ่ายเงินนั้น จู่ๆก็นึกอะไรขึ้นมาได้

จึงอดที่จะขมวดคิ้วขึ้นไม่ได้

“ฉันไม่ได้เอาเงินมา!”

“อะไรนะ? เธอไม่ได้เอาเงินมา? ใครจะเชื่อกัน สามหยวนก็ไม่มีอย่างนั้นหรือ?”

ชายอ้วนเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน