บทที่ 484 ออกเดินทางไปเทียนเฉิง
จินเตียวและคนอื่นๆ ต่างก็ไม่คิดว่า เจ้าเด็กคนนี้จากบริษัทเทียนหลงกรุ๊ป จะไม่เกรงใจจริงๆ ดูแล้วเขาจะเป็นคนที่มีความมั่นใจมากๆ
ถ้าเกิดครั้งนี้ไม่สั่งสอนพวกเขา คราวหลังพวกเขาได้ใจกำเริบเสิบสานขึ้นมา จะกลายเป็นยิ่งยาก!
ในไม่ช้า การประลองก็เริ่มขึ้น
ตรงกลาง ได้มีการจัดสนามต่อสู้ขนาดใหญ่ไว้อันหนึ่ง
และผู้มีอิทธิพลทั้งห้า ก็ยังคงส่งลูกน้องที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาลงแข่งขัน
ส่วนทางฝั่งของเฉินเกอ ก็ส่งเฉินว่านชานและพี่น้องไม่กี่คนของเขาเข้าแข่งขัน
เฉินเกอนั้นได้ทำการฝึกพิเศษให้กับพวกเฉินว่านชาน
จนไม่รู้ว่าพละกำลังพัฒนามากขึ้นจากเมื่อก่อนมาเยอะขนาดไหนแล้ว ทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น พวกเขาก็ทำให้ทุกคนรอบๆ ต่างตกตะลึง พวกเขาตีครที่อยู่ตรงหน้าจนทรุดลงอย่างไร้ทางต่อสู้
"อะไรกัน? "
จินเตียวและคนอื่นๆ ต่างพากันกระพริบตาอย่างหนัก
เดิมทีต่างก็คิดว่าบริษัทเทียนหลงกรุ๊ปคงจะไม่ได้แตกต่างอะไรมากกับเจ้าของยาพืชสมุนไพรคนก่อน ที่ชอบทำตัวโอ้อวด แต่พละกำลังน้อยนิดแบบนั้น ที่อย่างมากก็มีพวกลูกน้องจากกองกำลังพิเศษไม่กี่คนแต่งตัวมาเพื่อเข้าร่วมงานเท่านั้น แต่ตอนนี้ดูแล้วจะไม่ใช่การแกล้งซะแล้ว แต่คนพวกนี้มีกำลังที่แข็งแกร่งจริงๆ
" ดูแล้วน้องเฉินจะถ่อมตนจริงๆ มีลูกน้องที่ความสามารถพละกำลังแข็งแกร่งขนาดนี้ ดูแล้วงานประลองครั้งนี้ สิทธิในการแบ่งอำนาจทั้งหมดของหมู่บ้านถาโกว คุณเฉินจะได้สิทธิ์เยอะซะแล้ว! "
จินเตียวพูดพลางแสร้งทำเป็นยิ้ม
เพราะการแบ่งเค้กให้ห้าคน กับการแบ่งเค้กให้หกคนนั้นมันต่างกัน อีกทั้งลูกน้องของเฉินเกอก็มีกำลังที่จะจัดการกับทุกคนด้วย นี่ถือว่าถือว่าเป็นสัญญาณร้าย
แต่เฉินเกอในตอนนี้กลับนั่งนิ่งเงียบ โดยจินเตียวและคนอื่นๆ ที่ดูอยู่นั้น ยิ่งดูก็ยิ่งเริ่มนั่งไม่ติด
เพราะจากการต่อสู้ที่ผ่านมา ยังไม่ทันให้เฉินว่านชานได้ลงมือ ลูกน้องของพวกเขาก็แพ้ไปเป็นแถวแล้ว
แล้วทุกอย่างในงานเลี้ยงก็เงียบไปชั่วขณะ ขนาดที่เข็มตกพิ้นก็ยังได้ยิน
"ลูกพี่จิน ขอบคุณพวกท่านที่ออมมือ ครั้งนี้อุตส่าห์ไว้หน้าพวกเราพี่น้องทั้งห้า ขอบคุณมากจริงๆ! "
เฉินว่านชานเดินเข้ามาพูด
จินเตียวถึงกับหัวเราะอย่างเขินอาย
" เปล่าหรอกๆ เพียงแค่คิดไม่ถึงว่าพวกนายไม่กี่คนจะมีพละกำลังแกร่งขนาดนี้ เป็นพวกเราหน่ะสิที่ดันไปสอนจระเข้ว่ายน้ำซะแล้ว! "
" ประธานจินก็พูดเกินไป คนที่แข็งแกร่งไม่ใช่พวกเราหรอก แต่เป็นคุณชายของพวกเราต่างหาก พวกเราล้วนตามคุณชายไปฝึกฝนกันทั้งนั้น! "
เฉินว่านชานยิ้มฝืดๆ พลันส่ายหน้า
" หืม? พูดแบบนี้น้องเฉินก็มีพละกำลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่านั้นสินะ? พวกเรานั้นดันมองข้ามไปซะได้! " จินเตียวยิ้ม
แต่ในใจตอนนี้ กลับวุ่นวายสับสนไปหมด
เพราะคนที่เฉินเกอพามาด้วยดันเก็บกวาดคนของพวกเขาจนเรียบ ซึ่งทุกคนก็ได้เห็นเป็นประจักแล้ว
เดิมทีที่คิดว่าวันนี้จะได้จัดการกับบริษัทเทียนหลงกรุ๊ป แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะเป็นฝ่ายตัวเองที่ถูกบริษัทเทียนหลงกรุ๊ปจัดการซะงั้น
" ถ้างั้นประธานจิน ไม่ทราบว่าสิ่งที่คุณเพิ่งพูดไปเมื่อสักครู่นี้ ว่าผู้ชนะจะสามารถแบ่งเขตอำนาจได้นั้น ยังเป็นไปตามที่พูดอยู่หรือเปล่า? "
เฉินว่านชานถามขึ้นอีกครั้ง
จินเตียวถึงกับไอแห้งออกมาพลันยิ้ม
" ตามนั้นสิ แน่นอนว่าต้องตามที่พูดอยู่แล้ว ดี เช่นนั้นหลังงานเลี้ยงพวกเราก็จะตกลงกันเรื่องของกันแบ่งเขตอำนาจกัน! "
ในตอนนี้ จินเตียวเองก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรมากนัก แต่ยังไม่ทันขาดคำ
" เด็กๆ เอาป้ายที่เขียนไว้ว่าหวู่ฟางเหวินหวูถางออก รีบเปลี่ยนเป็นลิ่วฟางเหวินหวูถาง "
จินเตียวรีบสั่งลูกน้องในทันที
และสำหรับเรื่องพวกนี้ ชายกลางคนอีกสี่คนต่างก็ไม่ได้พูดอะไร
แล้วในตอนนี้พวกเขาต่างก็เกิดความคิดขึ้นในใจบางคนก็รู้สึกขุ่นเคืองต่อบริษัทเทียนหลงกรุ๊ป บางคนก็รู้สึกตื่นเต้นกับความรื่นเริง
เพราะผู้ที่มีกองกำลังอ่อนแอ ต่างก็หวังว่าจะมีคนมาทำลายสมดุลเดิมได้ เพราะถ้าเป็นแบบนี้เมื่อเกิดความวุ่นวาย พวกเขาก็จะมีโอกาสขึ้นมา
ในขณะการพูดคุยกัน ก็มีลูกน้องหลายคนที่เอาบันไดมากำลังจะไปแกะป้ายออก
" ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนี้หรอกครับ! " เฉินเกอหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา
เฉินเกอก็หันไปสบตากับเฉินว่านชาน นอกจากจินเตียวที่ไม่ได้เอ่ยปากใดๆ คนอื่นๆ ที่ถึงแม้จะไม่พอใจมากนัก แต่ก็อย่างน้อยยอมอ่อนข้อ
แต่จากสถานการณ์นี้ เชื่อว่าพวกเขาที่เป็นผู้มีอิทธิพลทั้งห้าของหมู่บ้านถาโกว จะเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้
และนี่ก็คือเป้าหมายของเฉินเกอในค่ำคืนนี้
แล้วงานประลองก็จบลงไปอย่างหลากหลายความรู้สึก
หลังจากกลับไป
เฉินว่านชานก็รีบบอกกับเฉินเกอว่านักธุรกิจที่ร่ำรวยในหมู่บ้านถาโกวไม่น้อยเข้ามาขอลี้ภัย
และหลายคนก็เข้ามาให้คำเยินยอหลังจากจากจบงาน และก็มีบางคนที่อยากจะเข้าร่วมกับบริษัทเทียนหลงกรุ๊ป
ไม่เพียงแค่เงินรางวัลในค่ำคืนนี้ที่พวกเขาได้มาไม่น้อยแล้ว เรื่องพวกนี้เฉินเกอเองก็ไม่มีความสนใจใดๆ ทั้งสิ้น จึงสั่งให้เฉินว่านชานเป็นคนไปจัดการรายละเอียดแทน
แต่ว่าวันนี้ บริษัทเทียนหลงกรุ๊ปที่เขาสี้างมาเองกับมือก็ได้ยืนอยู่ในหมู่บ้านถาโกวอย่างผ่าเผยเสียที
บริษัทเทียนหลงกรุ๊ป เองสุดท้ายก็ได้เริ่มมีเขตอำนาจในการจัดการของตัวเองแล้ว
ในวันถัดมา เรื่องที่เฉินเกอจะทำก็คือช่วยเทียนหลงออกมา
อิทธิพลในเทียนเฉิงนั้นมีมากมาย จนไม่มีอำนาจไหนสามารถเปรียบเทียบได้ และนี่ก็เป็นสิ่งที่จางหูบอกกับเฉินเกอ
เพราะว่าจางหลงจางหูสองพี่น้องไปที่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ช่วยตน แถมยังให้เงินในการสร้างอำนาจในเทียนเฉิง แต่ด้วยความรวดเร็วก็พ่ายแพ้ให้กับเหวินเซินเจ้าถิ่นผู้แข็งแกร่ง
และก็ไม่รู้ว่าเทียนเฉิงนั้นใหญ่กว่าหมู่บ้านถาโกวขนาดไหน ทั้งยังเป็นแหล่งรวบรวมทุกอย่างและอิทธิพลที่ซับซ้อน
ไม่รู้ว่าจะต้องทำขนาดไหนถึงจะมีอำนาจอิทธิพลยิ่งใหญ่เหมือนกับเหวินเซิน
แต่ตอนนี้เฉินเกอไม่สนอะไรมากมายแล้วทั้งนั้น เพราะยิ่งนานวัน จางหลงก็จะยิ่งมีอันตรายมากขึ้น
ตอนนี้ไม่สามารถรอให้ทุกอย่างเตรียมพร้อม。
"ว่านชาน ถ่ายทอดคำสั่งลงไป วันนี้พวกเราจะออกเดินทางตรงไปยังเทียนเฉิง! "
เฉินเกอสั่ง
" ครับคุณเฉิน! ผมจะไปเตรียมการเดียวนี้! "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...