บทที่520 คัมภีร์ไป๋โช่ว
“ได้ พูดแล้วห้ามคืนคำ!”
เฉินเกอยิ้มเบาๆ
บุญคุณ เกียรติยศพวกนี้ เฉินเกอมองออกตั้งนานแล้ว
ถูก ตอนนี้เฉินเกอเห็นแก่ตัว ทุกเรื่อง ขอแค่มีผลประโยชน์กับตัวเอง เฉินเกอถึงจะไปทำ
ปัง!
ส่วนเมิ่งคัง จางเถีย ทั้สองคนทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว
ลอยมาอยู่ที่เท้าของเฉินเกอ แล้วล้มลงมาอย่างแรง
“ฮ่าๆๆๆ ขยะสองชิ้น ลู่จงหยวน แกยังมีผู้ช่วยคนไหนอีก รีบๆเรียกออกมา!”
หวางต้าไห่หัวเราะอย่างสดชื่น
เฉินเกอค่อยๆเดินออกไป
“อะไร ไอ้หนุ่มหน้าละอ่อนคนหนึ่ง อย่าบอกนะว่า ตระกูลลู่ไม่มีคนแล้ว? แล้วส่งของเล่นแบบนี้มา?”
หวางต้าไห่มองเฉินเกอ แล้วส่ายหน้าเบาๆ
“หลายปีมานี้ แกเรียนศิลปะการต่อสู้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตลอดสินะ?”
เฉินเกอมองเขา แล้วพูดออกมา
หวางต้าไห่ได้ยินก็ชะงักไป
ตัวเองปิดชื่อปิดแซ่ ซ่อนถามตัวเองอยู่มาก
ไม่มีใครสักคนรู้เรื่องราวเบื้องหลังของตัวเอง
แต่ตอนนี้ กลับโดนไอ้เด็กคนนี้พูดทะลุ
“แก... แกรู้ได้ยังไง?”
หวางต้าไห่มองเฉินเกอในทันที
“ไอ้เหวินเซินนั่น เป็นศิษย์น้องแกไหม?”
เฉินเกอถามอีกครั้ง
หวางต้าไห่เปลือกตากระตุก “เขาเป็นศิษย์น้องต่างสายของข้า! แกรู้จักเขา?”
“อืม โดนฉันฆ่าไปแล้ว!”
เฉินเกอบอก
“แก?”
หวางต้าไห่ในใจบีบรัด
ดูแล้วแกยังมีเวลาอีกหน่อย แต่ว่าเหวินเซินเป็นแค่ศิษย์น้องนอกสายของสายวิชาหมัดเหล็ก ฆ่าเขาเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ว่าแกอย่าคิดว่า แกคือคู่ต่อสู้ของข้า ได้ แกกล้าที่จะฆ่าคนของสายวิชาหมัดเหล็กของข้า อย่างนั้นข้าก็จะฆ่าแกซะ ล้างแค้นให้ศิษย์น้องข้า!”
หวางต้าไห่โกรธขึ้ง
หลังจากนั้นก็พุ่งตัวเข้ามา
ปึง!
หมัดทั้งสองหมัดชนกัน
ส่วนหวางต้าไห่ ก็ลอยออกไปในทันที แถมยังประกอบมาด้วยเสียงกระดูกหัก
“อ๊า!”
หวางต้าไห่กุมไหล่ของตัวเองเอาไว้ ด้านหลัง กระดูกของตัวเองทะลุออกมาจากเนื้อแล้ว
แค่แลกกันหมัดเดียว ก็ชกจนกระดูกทะลุออกมา
นี่เป็นพลังขั้นไหนกัน?
หวางต้าไห่ตกใจ
พวกลู่จงหยวนเมิ่งคัง ก็ยิ่งเบิกตากว้างยิ่งกว่าเดิม หันมาสบตากัน ใบหน้าอดที่จะเชื่อไม่ได้
“แกอายุน้อยขนาดนี้ กลับเป็นผู้ใช้กำลังภายใน แถมกำลังภายในของแก กลับบริสุทธิ์แท้เช่นนี้!”
หวางต้าไห่พูดอย่างตกใจ
“แกฆ่าตัวตายเสียเถอะ!”
เฉินเกอส่ายหน้าแล้วบอก
ดวงตาทั้งสองข้างของหวางต้าไห่อยู่ๆก็มืดลง
เขาฝืนความเจ็บ พยักหน้า “ได้ ฉันฆ่าตัวตาย!”
พูดไป เขาก็หยิบกริชออกมา กำลังจะแทงเข้าในอกของตัวเอง
อยู่ๆ เขาก็ปากริชออกมาเล็งมาที่หน้าของเฉินเกอ
กำดินเอาไว้ แล้วโยนออกไปอีกรอบ
จากนั้นก็กระทืบเท้าแล้วกระโดด
ความเร็วเร็วมาก
ส่วนเฉินเกอ กระพริบเบาๆ
“คุณเฉิน คุณรีบตามไปสิ เขา....เขาหนีไปแล้ว!”
ลู่จงหยวนร้อนใจจะกระทืบเท้า
ส่วนเฉินเกอ แค่สะบัดข้อมือ
แต่ฉันไม่คิดเลยว่า เขากลับตอบตกลงอย่างง่ายดาย ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเพราะเห็นแก่หน้าของเมิ่งคัง แต่กลายเป็นว่าเขาสนใจในคัมภีร์ไป๋โช่วของตระกูลลู่ของเรา แถม จนถึงช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ก็ออกปากว่าต้องการ!”
ลู่จงหยวนแววตาเยือกเย็น
“เจ้านาย คัมภีร์ไป๋โช่วเป็นสมบัติที่ตระกูลลู่ของพวกเราสืบต่อกันมา ห้ามให้เขาไปเด็ดขาด!”
มีคนพูด
“ฉันเองก็รู้ แต่ว่าตอนนั้น ฉันรับปากเขาไปแล้ว ถ้าเกิดกลับคำโดยไม่คิดให้ดี กลัวว่าอาจจะทำให้เฉินเกอไม่พอใจได้! เขากับเมิ่งคังไม่เหมือนกัน คนๆนี้ไม่สามารถไล่ออกไปได้ง่ายๆ แถมเขายังเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวว่าหวางต้าไห่! นี่คือสิ่งที่ฉันกำลังกังวล!”
“ฮ่าๆๆ พี่ใหญ่อย่ากังวลไปเลย ผมน่ะมีไอเดียอยู่หนึ่งไอเดีย ไม่ใช่แค่สามารถรักษาคัมภีร์ไป๋โช่วของพวกเราเอาไว้ได้ แต่ยังสามารถกำจัดเฉินเกอคนนี้ได้อีกด้วย!”
ในตอนนี้ คนวัยกลางคนคนหนึ่งก็หรี่ตาขึ้น
“จงเหนียน ไอเดียอะไร?”
ลู่จงหยวนรีบถาม
“ผมเอาก็ได้ยินลูกน้องของผมคุยกัน แล้วก็ไปตรวจสอบเฉินเกอมาเล็กน้อย ถึงแม้จะได้มาน้อย แต่ว่าผมกลับได้รู้ความลับอันยิ่งใหญ่ของเขา!”
ลู่จงเหนียนพูด
“พี่ใหญ่ ตระกูลโม่แห่งหลงเจียงของเรา พี่เองก็รู้? ถึงแม้ว่าพวกเราไม่เคยติดต่อกับตระกูลโม่ แต่ว่าผมได้ยินมาว่า หนึ่งปีก่อน ตระกูลโม่เคยเทแรงใจทั้งหมด มีคำสั่งให้นักธุรกิจทุกที่ในภาตใค้ ตามหาแล้วก็ฆ่าคนๆหนึ่งที่ชื่อเฉินเกอ!”
“ส่วนเฉินเกอเองก็มาจากทางใต้พอดี แถมลักษณะ รูปร่างที่อธิบาย กับเฉินเกอคนนี้เหมือนกันมากๆ เป็นไปได้ไหมว่า เขาก็คือคนที่ตระกูลโม่กำลังหาตัว?”
ดวงตาทั้งสองข้างของลู่จงเหนียนหรี่เล็กลง ผุดยิ้มเลือดเย็น
ลู่จงหยวนวางจี้สร้อยคอลง ทำท่าทางเหมือนคิดอะไรบางอย่างได้
“ถ้าหากเป็นอย่างนี้จริงๆ อย่างนั้นก็คงมีวิธีทางเดียว อำนาจของตระกูลโม่ยิ่งใหญ่ ภายในครอบครัวมีปรมาจารย์ลับเหนือจินตนาการ ถ้าเกิดว่าสามารถขอความช่วยเหลือจากตระกูลโม่ได้ อย่างนั้นก็จะดีมาก!”
ลู่จงหยวนหัวเราะ
“แต่ว่าเจ้านาย ตระกูลลู่ของพวกเรากับทางตระกูลโม่ไม่เคยติดต่อกันเลย มีบุญคุณความแค้นกันเลยด้วยซ้ำ ที่จริงผมได้ยินมาว่า ตระกูลโม่อยากจะฮุบพวกเรามาตั้งนานแล้ว แต่ว่าตระกูลลู่มีประวัติที่สืบต่อกันมายาวนานที่หลงเจียงมาเป็นพันปี ถ้าเกิดทำอะไรพวกเรา ก็เท่ากับว่าจะส่งผลกระทบเศรษฐกิจของหลงเจียงทั้งหมด พวกเขาก็เลยไม่ได้ลงมือ เจ้านายว่า พวกเขาจะช่วยเราหรือครับ?”
มีคนแสดงความกังวลออกมา
“แน่นอน ต้องช่วยแน่ ถ้าเกิดว่าพวกเราช่วยพวกเขาตามหาคนที่พวกเขาต้องการเจอมาก ไม่ต้องช่วยพวกเรา เชื่อว่าพวกเขาก็คงจะออกหน้าช่วยจัดการปัญหาวุ่นวายของเราด้วย!”
“ตอนนี้ปัญหาสำคัญก็คือ จะต้องหาคนมาทำให้เฉินเกออยู่นิ่ง ถ้าเกิดว่าเขามีประโยชน์กับเรา ก็อาจจะให้โอกาสเขาอีกครั้ง ถ้าเกิดว่าไม่ได้ ก็คงต้องขอยืมมือจากตระกูลโม่!”
ลู่จงหยวนพูด
การประชุมดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนถึงตอนดึกมากๆถึงจะจบลง
ในห้องของเฉินเกอ ยังคงเปิดไฟเอาไว้
เฉินเกอกำลังทำความเข้าใจแผนที่ ที่เมิ่งคังให้เขามา
จริงด้วย เป็นประโยชน์กับการเดินทางในป่าของเฉินเกออย่างมาก
อยู่ๆในตอนนี้ ก็มีเสียงเคาะประตูขึ้น......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...