บทที่598 คนที่จากไป
เฉินเกอไปช่วยพวกท่านปู่ทวดฟางออกมา
เพื่อที่จะให้ตัวเองนำวิชาลี้ลับโบราณลัทธิอูกู่ออกมาให้เถียหงเสียงไม่เพียงแค่ทรมานตัวเอง แม้แต่ท่านปู่ทวดฟางก็ยังหนีไม่พ้นโดนทรมาน
แต่ว่าสถานการณ์ของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น
เพียงแต่ว่าโรคของท่านปู่ทวดฟางถึงแม้จะรักษาหายแล้ว แต่ว่าโดนทำให้เหนื่อยติดๆกันเป็นเวลานานแล้วยังโดนทำให้ตกใจเรื่อยๆ ก็ทำให้ชายชราอายุเก้าสิบคนนี้รับไม่ไหวเหมือนกัน
ในตอนที่เฉินเกอพาพวกเขาออกมา ท่านปู่ทวดฟางได้สลบไปหมด
โจ๋วจงทาวลากร่างอันอ่อนล้าของตัวเองตามมาทางด้านข้างของเฉินเกอ
“ศิษย์พี่ จะไปแล้วเหรอ? จะไปไหน?”
โจ๋วจงทาวฟังคำพูดของเฉินเกอจบ ก็ถามขึ้น
“ฉันจะไปหาท่านซินแสกุ่ย ฉันจะให้คนของตระกูลเฉินปกป้องพวกนายตลอดทางกลับไปเมืองฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ ที่เกาะโม่เต่า ฉันอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว!”
ใบหน้าของเฉินเกอ แสดงสีหน้าเหนื่อยรำคาญออกมา
หยุนฉิงแข็งแกร่งเกินไป ถ้าเกิดว่าหนีไม่ได้ ในชาตินี้ตัวเองจะต้องโดนขังไว้ที่นี่แน่ อย่างนั้นการตามหามู่หานกับอารอง ก็อาจจะพูดได้ว่าเป็นเรื่องที่ห่างไกลออกไป
เฉินเกอจำเป็นที่จะต้องหาวิธี
“ผม.......”
โจ๋วจงทาวอยากจะพูดว่าศิษย์พี่พาผมไปด้วยเถอะ แต่ว่าคิดดูอีกที ตัวเองไปกับศิษย์พี่ นอกจากจะไปทำให้เขาเหนื่อยมากขึ้น อาจจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยก็ได้
จากนั้นก็หยุดคำพูดไว้เท่านั้น
เฉินเกอตบลงบนบ่าของเขา
“ความตั้งใจของนายฉันเข้าใจดี แต่ว่าน้องฟางหยีกับคุณปู่ฟางในตอนนี้ห่างจากการรักษาไม่ได้ ส่วนเจี่ยนนัน ฉันจะคิดหาวิธีอีกครั้ง พวกนายไปก่อน ถ้าเกิดว่าฉันสามารถที่จะผ่านปมนี้ไปได้อย่างสบายๆ ฉันจะหาเวลาโดยเฉพาะมาอยู่กับนาย รักษาน้องฟางหยีกับคุณปู่ฟางให้หาย!”
เฉินเกอบอก
โจ๋วจงทาวพยักหน้าอย่างแรง
“ศิษย์พี่ ระวังตัวด้วย!”
“อืม ดูแลตัวเองด้วย ลากันตรงนี้!”
เฉินเกอพูดขึ้น จากนั้นก็หมุนตัวแล้วหายเข้าไปในป่า เพียงแค่กะพริบตา ก็หายไปไม่เหลือร่องรอย
ในขณะเดียวกัน ตระกูลหยุน
ฟางเจี่ยนนันยกแก้วชาโสมขึ้นมาวางบนโต๊ะในห้องรับแขก มองตรงหัวเตียง ก็มองเห็นหยุนฉิงที่กำลังนั่งไขว่ห้างหลับตา
ในตอนแรกหยุนฉิง มีความคิดที่จะฆ่าฟางเจี่ยนนันจริงๆ
แต่ว่าหลังจากที่เริ่มทำความรู้จักกันเป็นเวลาสั้นๆ โดยเฉพาะคำพูดพวกนั้นที่ฟางเจี่ยนนันพูดกับเธอ ทำให้หยุนฉิงค่อยๆ ชอบหญิงสาวเข้า
ถึงแม้ว่าปากจะไม่พูด แต่ว่าหยุนฉิงก็หวังมากๆว่าฟางเจี่ยนนันจะอยู่ข้างๆตัวเอง
ต่อให้เป็นตอนที่ภายในใจของตัวเองจะเจ็บปวดอีกครั้ง มาพูดกับตัวเองหน่อยก็ดี
แต่ฟางเจี่ยนนันทำกับเธอ อยู่ๆก็กลับเห็นใจเธอขึ้นมา
เธอไม่ใคนดีอะไร แต่ว่าในฐานะผู้หญิงด้วยกัน ฟางเจี่ยนนันเข้าใจเป็นอย่างดี รักคนๆนึง แต่ไม่สามารถที่จะคบกันได้ ความรู้สึกเจ็บปวดพวกนี้
ตัวเองกับเฉินเกอไม่ใช่เหรอ?
รักแต่ไม่สามารถครอบครองได้ เกรงว่า คงจะมีเพียงแค่ใจผู้หญิงสองคนนี้ที่เข้าใจมั้ง
ทันใดนั้น
ดวงตาที่ปิดลงทั้งสองของหยุนฉิง อยู่ๆก็ลืมตาขึ้นมา
แววตาเป็นประกาย
“แย่แล้ว เขาหนีไปแล้ว!”
หยุนฉิงดีดตัวลุกขึ้น
ฟางเจี่ยนนันลองถาม “คุณพูดถึงใคร?”
“จะเป็นใครได้อีก? เฉินเกอ!”
บนใบหน้าของหยุนฉิงมีสีหน้าที่แปลกประหลาด
ตัวเองได้สกัดจุดลมปราณของเขาเอาไว้แล้ว ไม่มีกำลังภายใน เขาจะเอาชนะลัทธิอูกู่ลัทธิยังไง?
ดูไปแล้ว ตัวเองคงจะประเมินตัวเขาต่ำไป
พี่มักจะพูดว่าพี่ไม่ใช่เขาแต่ว่าความเจ้าเล่ห์ของพี่ ก็ดูเหมือนว่าจะเหมือนกับเขาเป๊ะๆเลย!
บนริมฝีปากของหยุนฉิงมีรอยยิ้มเดิมๆขึ้น
ส่วนฟางเจี่ยนนันพอได้ยินว่าเฉินเกอหนีไปแล้ว ความกังวลภายในใจที่มีอยู่ในที่สุดก็หายไปเสียที
“แกอย่ารีบดีใจให้มากนัก แกคิดว่าเขาจะหนีพ้นจากเงื้อมมือของฉันเหรอ? ไม่! ยังไงก็ไม่มีทาง ครั้งนี้ ฉันจะกักขังเขาเอาไว้ข้างกายฉัน ทำให้เขาเป็นผู้ชายของฉัน!”
หยุนฉิงมองมาทางฟางเจี่ยนนันแล้วยิ้มอย่างได้ใจ
หลังจากนั้นก็ออกไปในทันที แค่ร่างกายขยับ จากนั้นก็มองไม่เห็นแม้แต่เก่า
และก็ในตอนนี้ ตรงกลางห้องรับแขก ก็มีเสียงเด็กน้อยดังขึ้น กำลังเรียกชื่อของตัวเองอยู่
เฉินเกอระวังตัวในทันที ใช้ความรู้สึกตามหา
แต่กลับไม่มีร่องรอยของมนุษย์
“เฉินเกอ.......เฉินเกอ......”
เสียงเรียกของเด็กคนนี้ ทั้งเบาทั้งเล็ก
เอี๊ยดอ๊าดๆ.....
แผ่นไม้แผ่นหนึ่งค่อยๆถูกแยกออกจากกัน
หลังจากนั้น สิ่งที่เหมือนกับหุ่นยนต์ตัวเล็กแต่ถูกสร้างมาจากแผ่นไม้ไผ่ก็ปรากฏอยู่ต่อหน้าของตัวเอง
โครงสร้างของเธอพิเศษมากๆ ถึงแม้ว่าจะโดนสร้างมาจากไม้ไผ่ แต่ว่ามองไปแล้วดูเหมือนมีชีวิต แถมยังมีเปียสองข้างอีก
ดวงตาของเธอ เป็นประกายแสงสีเขียวส่องสว่างออกมา
“เฉินเกอ......”
เธอพูดขึ้น
“หืม?”
“ในที่สุดคุณก็มาแล้ว หนูรอคุณจนแบตเกือบจะหมดแล้ว!”
สาวน้อยพูดขึ้น
“รอผม? คุณรับรู้?”
เฉินเกอสงสัย
“แน่นอนว่ารับรู้ได้ เป็นท่านซินแสกุ่ยที่ทิ้งหนูเอาไว้ ให้หนูรอคุณโดยเฉพาะ หนูเป็นผลงานสกิลพิเศษที่เขาทำขึ้นมา มีความสามารถมากกว่าคอมพิวเตอร์อยู่หน่อยๆ! หนูชื่อเสี้ยวจู่!”
เธอบอก
“สวัสดีครับเสี้ยวจู่ ที่แท้ก็เป็นท่านซินแสกุ่ยที่คิดไว้แล้วว่าผมต้องมา เขามีอะไรที่อยากบอกกับผมใช่ไหม?”
เฉินเกอถาม
“ใช่ค่ะ ในตอนนั้นตอนที่เฉินเกอมา ท่านซินแสกุ่ยขอร้องให้คุณลองดูดวงอยู่ตั้งหลายครั้ง แต่ว่าคุณไม่เห็นด้วย ท่านซินแสกุ่ยเองไม่สามารถบังคับได้ ดังนั้นก็เลยทำได้แค่ยอมแพ้ แต่ว่าหลังจากที่คุณไป ท่านซินแสกุ่ยก็ยังคงใช้ลายมือที่คุณทิ้งไว้ ใช้วิชาทำนายจิ่วหลงช่วยดูดวงให้คุณ เขารู้เรื่องทุกเรื่องหมดแล้ว แถมหนึ่งในผลที่ปรากฏ อาจจะมีผลกระทบต่อคนในวัดลัทธิเต๋านับร้อยคน ดังนั้นพวกท่านซินแสกุ่ยก็เลยไปตั้งนานแล้ว ก็เลยทิ้งฉันไว้ให้ฉันบอกเรื่องหลายเรื่องกับคุณ บางทีอาจจะช่วยทำให้คุณหลุดพ้นจากภาวะวิกฤตินี้ได้!”
เสี้ยวจู่บอก
“ท่านซินแสกุ่ยใจดีจัง กลายเป็นว่าผมในตอนนั้นหยิ่งยโส ขอถามหน่อยสิครับเสี้ยวจู่ เป็นเรื่องอะไรบ้างอย่างนั้นเหรอครับ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...