ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 656

บทที่656 กระดาษโน๊ต

“นาย! เอาสิ! ฉันต่อให้นายสิบรอบ!”

เฟยต้วนมองไปยังเฉินเกอพลางสายหน้าแล้วยิ้ม

หลังจากนั้นก็เห็นเขาเอามือเอาไว้ด้านหลัง พลางหลับตาลงแล้วหันกลับไปอีกทาง

ราวกับเอาตัวเองเข้าไปในท่วงทำนองที่น่าประหลาด ในเวลานี้สรรพสิ่งในโลกใบนี้ไม่ได้มีความสำคับกับต้วนเฟยอีกแล้ว!

“สมกับที่เป็นต้วนเฟย ร้ายกาจจริงๆ นี่ไม่คิดจะลงมือแล้วหรือ?”

“ตามข่าวลือ ตระกูลต้วนเคยควบคุมวิธีลับแบบหนึ่งเอาไว้ นั่นก็คือวิชาสะท้อนดาเมจได้!”

“วิชาสะท้อนดาเมจนี่คืออะไร?”

มีคนเอ่ยถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ

“ก็คือถ้านายต่อสู้ นายยิ่งออกแรงไปมาก แรงที่มือของนายกลับจะยิ่งมากขึ้นไปด้วย!”

มีคนอธิบายขึ้น

“พระเจ้าเถอะ ในโลกนี้มีเทคนิคที่มหัศจรรย์แบบนี้อยู่ด้วยหรือเนี่ย!”

ทุกคนต่างก็ร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ

ต้วนเฟยในเวลานี้ ได้ถูกคลุมไปด้วยผ้าคลุมหน้าที่ดูลึกลับ ตอนนี้ดูแล้วยิ่งมีความลึกลับมากขึ้นไปอีก

ทุกคนล้วนแต่พากันกลั้นหายใจ แล้วตั้งหน้าตั้งตาดูศึกใหญ่ครั้งนี้กันเป็นอย่างมาก

เฉินเกอไม่เข้าใจว่าอะไรที่เรียกว่าวิชาสะท้อนดาเมจ

แต่รู้เพียงว่า เรื่องราวในวันนี้ ถ้าหากไม่เข้าใจ เกรงว่าคงจะไปไหนไม่ได้แล้วจริงๆ

ขณะนั้นพละกำลังภายในร่างกายนั้นไหลเวียน

โครงสร้างร่างกายที่โหดเหี้ยมของเฉินเกอพุ่งเข้าไป ด้วยความรวดเร็ว แล้วยกเท้าขึ้นไปทางต้วนเฟย

“พี่เฟยต้องตอบโต้กลับแล้ว!”

แววตาของทุกคนร้อนผ่าว

ปึง!

ได้เพียงแค่เสียงดังขึ้น พร้อมกับเสียงกระดูกหักดังตามขึ้นมา แล้วก็เห็นร่างที่ลอยผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ปึงปึงปึง!

ชนโต๊ะเก้าอี้ทั้งแถวอย่างต่อเนื่อง และโดนคนของสมาคมบูโดอีกหลายคนที่อยู่ใกล้ๆบริเวณนั้นด้วย

เมื่อถูกร่างนั้นชนเข้า ก็ถูกดึงเข้าแล้วลอยออกไปด้วยเช่นกัน

ทั้งโต๊ะเก้าอี้ คน ดูวุ่นวายกันขึ้นมาทันใด

สุดท้ายแล้ว

โครม!

ซักพักหนึ่ง ในที่สุดร่างนั้นก็นิ่งลง

ประตูกระจกที่หมุนได้ของห้องโถงนั้น แตกละเอียด

และร่างนี้ก็ไม่ใช่ของใครอื่น เป็นต้วนเฟยนั่นเอง

ทั้งงานต่างก็พากันตกตะลึง

โดยเฉพาะซีเหมินหยู่

“จะเป็นไปได้อย่างไร?”

เธออึ้งไป

ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปด้วยเช่นกัน

“หรือว่าพี่เฟยจะยังมีทางหนีทีไล่อะไรอยู่อีก?”

มีคนคาดเดา

“จะต้องใช่แน่ๆ พี่เฟยจะแพ้ง่ายไปหรือเปล่า จะต้องมีทางหนีทีไล่อะไรอย่างแน่นอน!”

ไม่อยากจะเชื่อ นี่เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว

แต่ต้วนเฟยนั้นกระอักเลือดออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เส้นลมปราณสั่นเทาไปทั่วทั้งร่างกาย

ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดผวา

พละกำลังอันบ้าคลั่งเมื่อครู่นี้ แทบจะม้วนร่างกายของเขาเข้าไปอย่างรวดเร็วอย่างไรอย่างนั้น

หัวสมองของเขานั้นว่างเปล่าไปหมดแล้ว

“นี่เพิ่งจะยกเดียวเอง ยังมีอีกเก้ายกนี่!”

เฉินเกอยืนอยู่บนเวที เวลานี้มองไปยังต้วนเฟยที่กำลังนอนคว่ำหน้าลงอยู่บนพื้นพร้อมกับเอ่ยเตือน

“พี่เฟย ลุกขึ้นสิ พี่เฟยสะสมพลังได้แล้ว!”

“แย่แล้ว แย่แล้ว เขาแย่แล้ว พี่เฟยจะแสดงแผนการที่เหนือความคาดหมายออกมาแล้ว?”

ทุกคนให้กำลังใจ

แต่ต้วนเฟย พยายามฝืนลุกขึ้นมา เลือดยังคงพุ่งออกมาไม่หยุด จึงล้มลงไปอีกครั้ง

เขาไม่มีแรงหลงเหลืออยู่แล้ว

จนกระทั่งตอนนี้ ทุกคนถึงได้รู้สึกตัว

ต้วนเฟยแพ้แล้วอย่างนั้นหรือ? ยังจะสู้กับเขาอีกเป็นสิบยก? ผลปรากฏว่าเพียงแค่เตะครั้งเดียวนั้นก็ไม่สามารถต้านทานได้แล้ว?

“พี่เฟย!”

ซีเหมินหยู่รีบวิ่งเข้าไปหา

ตาทั้งสองข้างของต้วนเฟยมืดลง อาการเจ็บภายในนั้นบาดเจ็บสาหัสมาก

“คุณชายเฉิน เก่งเกินไปแล้ว!”

ไป๋เสี่ยวเฟยเอ่ยขึ้นอย่างดีใจ

ตอนนี้ มีเพียงต้องใช้คำว่านับถือคำนี้ก็ยังไม่สามารถจะบรรยายความรู้สึกของไป๋เสี่ยวเฟยในขณะนี้ได้เลย

“ตอนนี้ ฉันอยากจะไปแล้ว คงจะไม่มีใครมาขวางแล้วใช่ไหม?”

ตบไหล่ของเสี่ยวเฟยแล้วนั้น เฉินเกอจึงกวาดสายตาอันเย็นชานั้นไปยังบอร์ดี้การ์ดกลุ่มนั้น

พวกบอร์ดี้การ์ดที่ถูกสายตาของเฉินเกอจ้องมองอยู่นั้น ทางด้านหลังก็มีเหงื่อผุดขึ้นมาเต็มไปหมด

จึงแหวกทางให้กับเขาในทันที

“พวกเราไปกันเถอะ!”

เฉินเกอกล่าว

แล้วก็พากันเดินลอยชายออกไป

คนของตระกูลซีเหมิน ไม่กล้าแม้จะพูดเหลวไหลออกมาเสียด้วยซ้ำ

“ให้คุณชายเฉินสิบยกอย่างนั้นหรือ ถุย!”

สองพ่อลูกเอ่ยถามออกมาอย่างพร้อมเพรียง

“นี่ยังจะมีเรื่องไม่จริงอยู่อีกหรือ? อีกทั้งฉันยังสามารถบอกกับพวกคุณด้วยว่า การเดินทางของเฉินเกอครั้งนี้ก็เพื่อที่จะมายังตระกูลกู่ คุณทวดของพวกเรา สั่งเอาไว้ก่อนแล้ว ว่าถ้าหากเฉินเกอจะมา ยังให้ฉันเป็นคนรับผิดชอบในการต้อนรับเขาด้วย!อีกทั้งคุณทวดยังบอกด้วยว่า ในไม่ช้าก็เร็วเขาจะมาอยู่แล้ว ไม่คิดว่าคุณทวดจะหยั่งรู้เหมือนกับเทพเจ้าได้อย่างไรอย่างนั้น!”

กู่ซานหยวนพูดพลางถอนหายใจ

“แบบนี้ เขาก็คงเป็นแขกคนสำคัญของตระกูลกู่อย่างนั้นหรือ?”

ซีเหมินซงรู้สึกกลัวมากขึ้นไปกว่าเดิม

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ ก่อนหน้านี้ ฉันได้ยินคนของสำนักสามนักบุญกับสำนักฟีนิกซ์บอกว่า เคยส่งคนที่มีฝีมือดีๆไปตามฆ่าเขา แต่ก็ล้มเหลวทุกครั้ง พวกคุณก็ไม่ได้ดูเลยไปหาเรื่องคนที่มีอยู่จริงแบบนี้!”

กู่ซานหยวนส่ายหน้า

“ฉัน.....ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะเก่งขนาดนี้ ถ้ารู้ก่อนฉันก็ไม่ไปหาเรื่องเขาหรอกค่ะ!”

ซีเหมินหยู่เอ่ยขึ้นมาอย่างหวาดกลัว

“แต่คุณชาย ทำไมคนของสำนักสามนักบุญกับสำนักฟีนิกซ์ล้วนแต่กำลังจับตัวเขา? อีกทั้ง ตระกูลกู่เองก็......”

ซีเหมินซงเอ่ยถาม

“เพราะว่าบนร่างกายของเขา มีความลับพิเศษบางอย่าง ใครสามารถเอาไปได้ ก็จะสามารถแตะต้องกับความลับนั้นได้!”

กู่ซานหยวนเอ่ยขึ้นทีละคำ

“ความลับ?”

ดวงตาทั้งสองข้างของซีเหมินซงเป็นประกาย

หลังจากนั้นเขาครุ่นคิดและเงยหน้าขึ้นมาพลางเอ่ยพูดขึ้นเบาๆ

“หรือว่าตระกูลกู่เองก็ต้องการ.....”

เพียงแต่เมื่อเห็นสายตาที่ดูเป็นการเตือนของกู่ซานหยวนแล้วนั้น ซีเหมินซงจึงไม่ได้เอ่ยพูดอะไรต่ออีก

แต่ในใจนั้นกลับรู้สึกแอบโล่งใจ

เฉินเกอกลับมาที่โรงแรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

พื้นที่ส่วนรวมของโรงแรมนั้นได้ถูกคนของซีเหมินหยู่ทำลายไปแล้ว

เห็นแล้วนั้น เถียเฉิงก็อยากจะไปฆ่าคนของตระกูลซีเหมินเสีย

เพียงแต่ ถูกเฉินเกอตะโกนเรียกเอาไว้

“คุณชายเฉิน นี่มันไม่ใช่สไตล์ของคุณเลย ซีเหมินหยู่จะเล่นงานพวกเราหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้จะยกโทษให้พวกเขาตระกูลซีเหมินไม่ได้อีกแล้ว!”

เถียเฉิงกล่าว

“ฉันรู้สึกว่า ช่วงนี้ ฉันรู้สึกกังวลอยู่ตลอด มักจะรู้สึกจิตใจไม่สงบอยู่แบบนั้น ฉันไม่อยากจะเสียพละกำลังไปกับตระกูลซีเหมินอะไรนั่นโดยเปล่าประโยชน์!”

เฉินเกอส่ายหน้า

เถียเฉิงทุบหมัดลงบนผนังกำแพงด้วยความโมโห แล้วทำได้เพียงถอนหายใจออกมา

และพอดีกับตอนนี้ สายตาของเถียเฉิงจองมองไปยังโต๊ะข้างๆของโรงแรม

“อืม?”

เถียเฉิงรู้สึกสงสัย : “คุณชายเฉิน ดูเหมือนกับว่าห้องนี้จะเคยมีคนมาแล้ว?”

เฉินเกอมองดูของเรี่ยราดที่ถูกซีเหมินหยู่ทำลายแล้วจึงขมวดคิ้วขึ้นมา : “ฉันรู้.....”

“ไม่! ฉันไม่ได้หมายถึงตรงนี้คุณชายเฉิน คุณดู มีคนทิ้งกระดาษโน้ตเอาไว้แผ่นนึง นัดให้คุณออกไปพบด้วย!”

………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน