บทที่657 อิทธิพลอำนาจของฝ่ายที่สาม
“หืม?”
เฉินเกอเดินมา รับกระดาษแผ่นนั้นมาดู
เป็นอย่างนั้นจริงๆ
ด้านบนนั้นมีตัวอักษรเขียนไว้อย่างชัดเจนอยู่หนึ่งบรรทัด:
“เฉินเกอ คืนนี้เที่ยงคืน เจอกันที่สะพานเทียนหือที่เมืองเมืองไท่!”
แล้วก็ไม่มีการลงชื่อเอาไว้อีกด้วย
ตัวอักษรหนึ่งบรรทัดที่ดูจืดชืด
“จะเป็นพวกซีเหมินหยู่ผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า หาพวกเราไม่เจอ ดังนั้นก็เลยตั้งใจที่จะทิ้งกระดาษโน๊ตแผ่นนี้เอาไว้ หลังจากนั้นก็นัดพวกเราให้ไปหา?”
เถียเฉิงเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย
เฉินเกอส่ายหน้า : “ไม่ใช่หรอก เธอหาพวกเราไม่เจอ ก็คงจะต้องตามหาตัวพวกเราในแต่ละที่อย่างบ้าคลั่งอยู่แล้ว และอีกอย่างคนที่มีนิสัยแบบเธอ ก็คงจะไม่มาทิ้งกระดาษโน้ตเอาไว้ให้ฉันแบบนี้หรอก!”
เรื่องนี้ดูแปลกๆไปเสียแล้ว
ตัวเองอยู่ที่เมืองกู่ ก็ไม่ได้รู้จักใครเลย จะมีใครที่มานัดให้เขานั้นออกไปพบกัน?
แต่เฉินเกอก็ตัดสินใจที่จะไปดูเสียหน่อย
“เถียเฉิงนายอยู่ที่นี่ ฉันจะไปดูเอง!”
เฉินเกอกล่าว
“โอเค!”
สะพานเทียนหืออยู่ในเมืองเมืองไท่บริเวณใกล้ๆกับเขตชานเมืองทางใต้ มีแม่น้ำใหญ่สายหนึ่งพาดผ่าน
รอจนตอนที่เฉินเกอรีบมาแล้วนั้น ยังคงเหลือเวลาก่อนที่จะถึงเวลานัดอีกประมาณครึ่งชั่วโมง
บริเวณรอบๆมีร่องรอยของผู้คนอยู่น้อยมากแล้ว
ท้องฟ้ามืด
บริเวณรอบๆนั้นมืดอย่างน่าสะพรึงกลัว ให้ความรู้สึกน่ากลัวอยู่บ้าง
เฉินเกอสังเกตมองสถานการณ์รอบๆ ตอนนี้ไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนนัดตัวเองมา ดังนั้นจะไม่ระวังตัวเองเสียหน่อยก็คงไม่ได้
ทันใดนั้น เฉินเกอก็เห็นว่าด้านบนผิวน้ำของแม่น้ำใหญ่นั้น มีแสงไฟจากเรือไม้ลำหนึ่งสว่างขึ้นมา และกำลังพายมาทางเขา
อาศัยแสงจันทร์ที่ส่องผ่านมาบางๆนั้น เฉินเกอมองเห็นว่าบนเรือลำนั้นกำลังมีคนๆหนึ่งที่สวมหมวกฟางยืนอยู่บนนั้น
แต่งตัวคล้ายกับชาวบ้านที่หลบไปอยู่บนภูเขามาอย่างไรอย่างนั้น
เขาพายเรือมาอย่างนิ่งและรวดเร็ว
ทำให้เฉินเกอรู้สึกว่า บุคคลนี้เหมือนกับไม่ใช่คนธรรมดา
เวลานี้เอง หูของเฉินเกอนั้นก็อดที่จะขยับขึ้นมาไม่ได้
ข้างหูเขาได้ยินเหมือนเสียงโซ่เหล็กที่พุ่งตรงมาที่เขาในทุกทิศทุกทาง
กริ๊ง กริ๊ง!
โซ่เหล็กดังขึ้นอย่างเป็นจังหวะ
หลังจากนั้น มีร่างหกร่างเดินออกมาจากความมืดนี้
เป็นผู้ชายหกคน รวมกับคนที่พายเรือมารวมเป็น7คน
“เฉินเกอ แกมาจริงๆสินะ!”
หนึ่งในนั้นยิ้มออกมาอย่างเย็นชา
เฉินเกอมองดูกระดาษในมือ แล้วมองพวกเขากลับไปอย่างเย็นชา
“กระดาษนี่พวกแกทิ้งเอาไว้ให้ฉัน เพื่อจะให้ฉันออกมาอย่างนั้นหรือ? คงไม่น่าใช่หรอกมั้ง?”
เฉินเกอดูเย็นชา
“อย่าถามอะไรให้มากความเลย ทำไม? แกจะไปเอง?หรือว่าจะให้พวกฉันจับตัวแกไป?”
คนที่ดูเหมือนเป็นผู้นำแกว่งโซ่เหล็ก พลางเอ่ยขึ้น
“ไปไหน? พวกแกเป็นคนของจิ่วโล๋หวางหรือหยุนฉิง?”
เฉินเกอมองพวกเขา แล้วค่อยๆเดินไปทางคนที่เป็นเหมือนผู้นำคนนั้น
แต่เห็นเฉินเกอที่ดูเหมือนมีท่าทางที่รู้จักเช่นนั้นแล้ว มุมปากของคนที่เป็นหัวหน้าคนนี้ก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้น
ได้ยินมาว่าเถียหงและปากุ่ยตายในเงื้อมมือของคนๆนี้
ตอนนี้ดูแล้ว เด็กนี่ก็ดูธรรมดามากนี่นา
“อย่าถามมาก ไปกับพวกฉันเดี๋ยวก็รู้!”
คนที่เป็นเหมือนหัวหน้าคนนั้นยิ้ม
“โอเค!”
เฉินเกอพยักหน้าลงด้วยแววตาที่เย็นชา
ทันใดนั้นเอง แววตาของเฉินเกอก็เป็นประกาย พละกำลังไหลวนไปทั่วร่างกายของเขา
ปึง!
เสียงหนึ่งดังขึ้น
เฉินเกอยกขาขึ้นมาพุ่งไปตรงหน้าอกของคนที่อยู่ตรงหน้า ความเร็วของเฉินเกอนั้นรวดเร็วมากจริงๆ โดยที่เขายังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบโต้กลับ ตัวของเขานั้นก็ลอยออกไปไกลกว่าสิบเมตรแล้ว
กระอักเลือดออกมากลางอากาศ
“อา?”
คนๆนั้นเลือดไหลออกมาเต็มหน้าไปหมด เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บจากภายในอย่างสาหัส
ส่วนคนอื่นๆนั้นต่างก็พากันตกตะลึงไปแล้ว
พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าเฉินเกอบทจะลงมือก็ลงมือเลยเช่นนี้
อีกทั้งฝีมือของเด็กนี่ ราวกับไม่ธรรมดาเอาเสียเลย
“สารเลว แกกล้าอย่างนั้นหรือ!”
มีคนหนึ่งโมโหขึ้นมา
แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะลงมือได้อย่างดุเดือดและรุนแรงเช่นนี้
เขายังคิดว่าหากเขาไม่พูด เฉินเกอจะไม่ฆ่าเขา อย่างมากก็คงจะทรมานเขา
แต่เขาคิดผิดแล้ว!
เฉินเกอทิ้งศพนี้ลงไปในแม่น้ำ
“ไม่พูดก็ช่างแล้วกัน!”
เฉินเกอมองไปยังพื้นผิวแม่น้ำ มีศพลอยขึ้นมาอยู่ตรงหัวสะพาน
แต่แล้วก็ตกอยู่ในห้วงความคิดบางอย่าง
จนถึงวันนี้ ได้ปรากฏกองกำลังอำนาจถึงสามแห่งที่ต้องการชีวิตของเขา
เป็นที่รู้กันว่าสองฝ่ายนั้นก็คือหยุนฉิงกับจิ่วโล๋หวางอะไรนั่น
และคืนนี้ตัวเองก็ได้ฆ่า7คนนี้ พละกำลังภายในของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงไปมาก
เถียหงและปากุ่ย พละกำลังภายในของพวกเขานั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นด้วยเช่นกัน แต่วิธีของการเกิดการเปลี่ยนแปลงนี้แตกต่างกันออกไป
7คนนี้เองก็มีสถานการณ์เช่นเดียวกัน พวกเขาไม่เหมือนกับสำนักสามนักบุญและสำนักฟีนิกซ์
นั่นก็หมายความว่า ยังมีอีกหนึ่งกองกำลังอำนาจที่ต้องการจะจับตัวเขา อีกทั้งตำแหน่งและสถานะของตัวเองนั้นก็ได้เปิดเผยเรียบร้อยแล้วอีกด้วย
“อืม?”
เวลานี้เอง เฉินเกอเห็นว่าร่างของศพที่อยู่บนผิวน้ำ จู่ๆก็มีกลีกดอกไม้แปลกประหลาดลอยออกมา
กลีบดอกไม้เหล่านี้เฉินเกอรู้สึกคุ้นมากเหลือเกิน
บุปผาผีอย่างนั้นหรือ?
บนร่างของพวกเขานั้นไม่คิดว่าจะพกบุปผาผีเอาไว้ด้วย!
หรือว่าคนพวกนี้เป็นคนของตระกูลกู่?
เฉินเกอคาดการณ์เอาไว้
เป็นคนของตระกูลกู่ที่ต้องการจับตัวเขา?
“แค่กๆ!”
ในห้องโดยสารของเรือลำเล็กนี้
จู่ๆก็มีเสียงไอของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
ทำให้เฉินเกอรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
เขาเปิดม่านออกดู เห็นว่าด้านในมีผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่
เห็นได้ชัดว่าเธอหมดสติไป อีกทั้งท่าทางเช่นนี้ ราวกับว่าจะถูกบุปผาผีจู่โจมพละกำลังทางจิตของเธอ เธอขมวดคิ้วขึ้นมา แล้วไอออกมาอย่างต่อเนื่อง
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เฉินเกอรู้สึกประหลาดใจมากที่สุด
ที่ยิ่งทำให้เฉินเกอรู้สึกประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือ
ผู้หญิงคนนี้ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นกู่หยู่เซียว........
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...