ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 725

บทที่ 725การร่ำลา(1)

เมื่อเฉินเกอพูดจบ ทุกคนก็ต้องอึ้งทึ่งไปตามๆกัน

ไม่รู้ว่าประโยคนี้เป็นคำพูดที่โรแมนติกหรืออย่างไร แต่ทำให้ทั้งห้องเรียนโกลาหลไปหมด

แม้กระทั่งมีคนเอามือถือออกมาถ่ายรูป

ใบหน้าของซูมู่หานจึงแดงเหมือนแอปเปิ้ลที่สุกเต็มที่แล้ว

ส่วนเฉินเกอพูดเสร็จก็หันหลังเดินออกไปนอกห้องเรียน

ซูมู่หานมองแผ่นหลังของเขาแล้วเกิดความรู้สึกที่แปลกประหลาดบางอย่างขึ้น

เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกแปลกประหลาดนี้มาจากไหน

แน่นอน หลังจากที่เลิกเรียนแล้ว เรื่องนี้ก็โด่งดังไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย

เพราะว่าภาพคนยากจนตามจีบเทพธิดาอย่างนี้ คงจะมีให้เห็นแต่ในละครโทรทัศน์

สิ่งที่เป็นแรงกระตุ้นให้บรรดาผู้ชายทั้งหลาย จากที่แอบชอบซูมู่หานแล้วไม่กล้าสารภาพรักกับเธอ ตอนนี้กลับมีความมั่นใจในตัวเองขึ้นมา จึงมีคนเขียนจดหมายรักส่งให้ซูมู่หานเป็นแถวยาวเหยียดเลย

“หืม ซูมู่หาน คุณมีอะไรให้หลงใหลเหรอ ไม่เข้าใจพวกผู้ชายเปรียบคุณดั่งเทพธิดาจริงๆ พวกเขาคงจะตาบอดแล้วล่ะมั้ง!”

เวลาเลิกเรียน ซูมู่หานไม่อยากอยู่ในห้องเรียนต่อแล้ว กำลังคิดจะออกไปพร้อมกับเพื่อนสนิทอยู่เลย

เวลานี้มีเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งที่มีหน้าตาสวยงามมากๆเธอได้จ้องมองซูมู่หานและบ่นพึมพำอย่างไม่พอใจ

เธอชื่อสวีเหมยเหม่ย เป็นตัวเด่นในสาขาวิชาวิทยุกระจายเสียงคนหนึ่ง

แน่นอนผู้หญิงยิ่งเก่งกล้าเพียงใดก็ยิ่งมีความอิจฉาริษยามากเท่านั้น เพราะเธอเคยชินกับการถูกสายตาผู้คนแวดล้อมแล้ว แต่เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงจุดสนใจไปที่อื่น จึงทำให้เธอรู้สึกไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก

“สวีเหมยเหม่ย ผู้ชายเค้ายินดีจะเปรียบมู่หานเหมือนดั่งเทพธิดา จะไปเหมือนคุณได้อย่างไรกัน มีผู้ชายสักกี่คนที่มาชอบคุณล่ะ?”

เพราะสวีเหมยเหม่ยมีอคติกับซูมู่หานมาโดยตลอด ดังนั้นเพื่อนสนิทของซูมู่หานจึงพลอยขัดแย้งกับสวีเหมยเหม่ยไปด้วย

“ไม่มีผู้ชายชอบฉัน?คิกคิก ช่างน่าขำสิ้นดี ฉันขอบอกคุณไว้เลยนะ ผู้ชายที่จีบฉันมีมากจนนับไม่ถ้วน และเป็นลูกผู้ดีมีเงินทองมากมายอีกด้วย ไม่เหมือนกับซูมู่หานที่มีคนยากจนมาจีบเธอ ฉันไม่เห็นอยากจะเป็นแบบนี้เลย!”

สวีเหมยเหม่ยกล่าว

“ฉันรู้สวีเหมยเหม่ย คุณก็แค่อิจฉาที่ตอนนี้มีความพูดถึงมู่หานมากกว่าคุณ อิจฉาก็ยอมรับมาดีๆสิ ไม่จำเป็นต้องทำสีหน้าอย่างนี้ใส่หรอกมั้ง?”

เพื่อนสนิทโต้กลับอย่างตาต่อตาฟันต่อฟันเลยทีเดียว

“ระดับการพูดถึงงั้นเหรอ อีกสามวันจะเป็นวันเฉลิมฉลองครบรอบก่อตั้งมหาวิทยาลัย 50 ปี ฉันเป็นพิธีตัวเต็ง ส่วนเธอซูมู่หานก็เป็นได้แค่พิธีกรตัวสำรอง พอถึงเวลานั้นใครเป็นดอกบัว ใครเป็นกงจักรก็จะได้รู้กันแน่ พวกคุณคอยดูแล้วกัน!”

เห็นท่าจะทะเลาะกันแล้ว

ซูมู่หานรีบดึงตัวเพื่อนๆออกไปด้านนอก

เธอจะไม่ไปเสียน้ำลายกับเรื่องพวกนี้หรอก

“คอยดูแล้วกันซูมู่หาน!”

สวีเหมยเหม่ยจ้องเขมือบไปที่แผ่นหลังของซูมู่หานอย่างดุดัน จากนั้นก็เอามือถือขึ้นมาหาเบอร์ของพ่อบุญธรรม แล้วโทรออกไปทันที!

พูดถึงฝั่งเฉินเกอบ้าง หลังจากที่เขาออกจากห้องเรียนสาขาวิชาวิทยุกระจายเสียงแล้ว

ก็มุ่งตรงไปที่ร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนมเพื่อซื้อมาสวมใส่ทันที

ถึงเวลานี้เขาไม่อยากจะได้ยินอื่นเอ่ยปากก็ว่าไอ้คนยากไร้ ปิดปากก็ว่าไอ้คนยากไร้อีกต่อไป

การกลับมาในครั้งนี้สามารถพบเจอกับมู่หานอีกครั้ง ถือว่าเป็นความโชคดีเกินคาดเลยทีเดียว

และการรื้อฟื้นการรับรู้วิถีแห่งฟ้าเป็นสิ่งสำคัญที่ตัวเองควรจะใส่ใจเป็นอย่างมาก

นอกจากเวลาว่างแล้วไปดูมู่หานแวบหนึ่ง นอกนั้นเฉินเกอจะรอคอยอยู่ที่คฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทนตลอดเวลา

สำหรับเรื่องการเปลี่ยนไปของตนทำให้เพื่อนๆต่างตื่นตระหนกตกใจ เฉินเกอก็ไม่ได้เห็นความสำคัญอีกต่อไป

เพราะเขาได้เปิดเผยตัวตนแล้วว่าเป็นทายาทเศรษฐีตัวท็อป

บัดนี้เป็นเรื่องที่ฮือฮามากในมหาวิทยาลัย จึงทำให้มีสาวสวยจำนวนไม่น้อยต่างเสนอหน้ามาให้เห็น

แต่ล้วนถูกเฉินเกอปฏิเสธไปทุกราย

แน่นอน นอกจากเรื่องนี้แล้วยังมีอีกเรื่องหนึ่ง

นั่นก็คือเฉินเกอได้เพิ่มระดับความระมัดระวังขึ้นมาสูงมาก แม้กระทั่งตอนนอนพักผ่อนอยู่ที่หอพักก็ยังหลับครึ่งตื่น

เป็นอย่างที่ลุงสองพูดไม่มีผิด

นอกจากท่านแล้วก็ยังมีอีกคนหนึ่งที่แอบสังเกตตนอยู่ลับๆ

หัวหน้าหยาางกล่าว

“หา?เกิดอะไรขึ้นคะ?”

ซูมู่หานตกใจอย่างอดไม่ได้

“หนูก็รู้ว่าสองวันมานี้มีคนวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของหนูเป็นจำนวนมาก มีผู้ชายคนหนึ่งมาสารภาพรักกับหนูใช่ไหม ทางโรงเรียนจึงคิดว่าหากให้หนูขึ้นเวทีเกรงว่าจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ได้นะครับ ดังนั้นหนูก็เข้าใจด้วยนะครับ!”

“แต่ว่าหนู……”

ซูมู่หานรู้สึกสลดใจ

“แต่ว่าอะไร ถูกคนอย่างนี้สารภาพรักแล้วยังมีหน้ามาอยู่ที่นี่อีก จริงๆเลย!หรือคุณอยากจะให้พวกเราพลอยขายหน้าไปด้วย?”

บัดนี้สวีเหมยเหม่ยเดินมาพูดเสียงเย็นชา

แววตาของเธอได้ฉายความพึงพอใจเป็นอย่างมาก เรื่องนี้เป็นฝีมือของสวีเหมยเหม่ยเอง พ่อบุญธรรมของเธอเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง และเป็นคนใหญ่คนโตในละแวกนี้ด้วย

เธอขอร้องให้พ่อบุญธรรมเข้าช่วยเรื่องนี้จึงไม่มีปัญหาอะไร

อีกทั้งวันนี้เขายังมาดูเธอด้วยตัวเอง

มีคนหนุนหลังอยู่ สวีเหมยเหม่ยจึงเป็นจุดศูนย์รวมของวันนี้

“สวีเหมยเหม่ย ฉันรู้ว่าเป็นฝีมือของคุณ คุณมันต่ำช้าสิ้นดี!”

อดไม่ได้ที่ซูมู่หานจะพูดอย่างโมโห

“คุณอย่าได้โทษฉันเลย ถ้าจะโทษก็โทษที่ฉันมีพ่อบุญธรรมที่ประเสริฐเช่นนี้ แต่คุณล่ะมีอะไรบ้าง”

สวีเหมยเหม่ยเห็นซูมู่หานมีท่าทีผิดหวังและสลดใจ ตัวเธอจึงรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก

“พ่อบุญธรรมของฉันคอยให้กำลังใจฉันอยู่ด้านล่าง ฉันจะไม่เสียเวลาคุยกับคุณแล้ว บ๊ายบาย คุณลงไปเป็นผู้ชมที่ดีเถอะ!”

สวีเหมยเหม่ยพูดพลางเดินออกไป

ถึงแม้ซูมู่หานจะรู้สึกโมโห แต่ตนก็ไม่สามารถทำอะไรได้

ได้แต่โยนสคลิปทิ้ง จากนั้นก็เดินออกไปทางด้านหลัง

แต่ว่าเมื่อเห็นภาพตรงหน้า สวีเหมยเหม่ยกับซูมู่หานต่างต้องตกตะลึง……

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน