บทที่734 เฉินเกอที่ผิดหวัง
“ตระกูลเฉินอีกตระกูลอยู่ที่ไหน?”
เฉินผิงอันถามขึ้น
เป็นยังไงล่ะ เรื่องราวไม่ได้ง่ายดายอย่างที่ตัวเองคิดเอาไว้
“แล้วก็ พลังพวกนั้นที่แกพูด พลังพวกนี้คือพลังอะไร?”
“ตระกูลเฉินอีกตระกูลอยู่ไหน เรื่องก็ไม่รู้ ฉันรู้แค่ว่า ถ้าเกิดไม่มีความช่วยเหลือของจิ่วโล๋หวาง บ้านตระกูลกู่ของเราก็ล่มสลายไปนานแล้ว เพราะว่าตระกูลเฉินตระกูลนี้แข็งแกร่งมาก ไม่ใช่อะไรที่แกสามารถจะจินตนาการได้!”
กู่เยว่หือว่า
“ส่วนเรื่องพลังพวกนั้น แกคิดว่าในโลกใบนี้ จุดสูงสุดอยู่ที่ไหน?”
กู่เยว่หือมองไปทางเฉินผิงอัน
“ฉันไม่รู้ แต่ฉันแน่ใจว่า จุดสูงสุดของโลก ยังไงก็ไม่มีทางเป็นตระกูลที่มีพลังลับแบบพวกแกแน่!”
เฉินผิงอันว่า “เพราะว่าบนโลกใบนี้ ยังมีปรมาจารย์อีกมากมาย ฉันเคยเจอมาด้วยตาตัวเองบ้าง เทียบพวกเขากับตระกูลฝึกฝนมนต์ลี้ลับแบบพวกแกแล้ว ไม่รู้ว่าเข้มแข็งมากกว่าขนาดไหน ไม่ต้องพูดถึงสายเลือดผู้ใช้กำลังภายในเลย แม้แต่ตดยังไม่สู้! แต่ว่าพวกแกทุกคน เรียกตัวเองว่าตระกูลอันดับหนึ่ง นี่ไม่ได้ทำให้คนคิดว่าน่าขำเหรอ?”
“อืม คำพูดนี้ ถึงแม้ว่ามันจะมากพอที่จะทำให้แกตายร้อยครั้ง แต่ว่าแกพูดถูกอยู่ครึ่งหนึ่ง เพราะว่าบนบางพื้นที่ พวกเรานั้นเป็นตระกูลอันดับหนึ่งจริงๆ แต่ว่าถ้าเกิดมองตามทั้งโลก ลำดับจริงๆ กลับได้ครอบครองแค่พลังบางอย่าง ก็เหมือนกับที่แกบอก พวกแกแข็งแกร่ง ส่วนพวกเราบ้านตระกูลกู่ กลับมาจากการปกป้องของจิ่วโล๋หวาง! ไม่มีใครกล้ามายุ่มย่าม จนถึงวิญญาณของจิ่วโล๋หวางโดนเฉินเกอปลดปล่อย จิ่วโล๋หวางมีพลังมากขึ้น บวกกับพลังเก่าของบ้านตระกูลกู่ พวกเราก็สามารถที่จะเปิดขุมพลังใหม่ได้ ไปต่อสู้เพื่ออำนาจที่ยิ่งใหญ่กับพวกเขาได้!”
“แต่ตอนนี้ วิญญาณของบรรพบุรุษยังไม่ทันจะได้ฟื้นคืน ดวงจิตก็โดนเฉินเกอทำให้แตกสลายเสียแล้ว! ดังนั้น เฉินเกอจะต้องชดใช้เรื่องนี้!”
กู่เยว่หือสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเลือดเย็น
“พลังพวกนั้น ก็รวมไปถึงตระกูลเฉินอีกตระกูลด้วยเหมือนกัน?”
เฉินผิงอันถาม
“อืม ตามธรรมชาติก็ต้องรวมอยู่แล้ว คนพวกนี้เป็นคนสั่งทุกอย่าง พวกที่แกพูดว่าใสซื่อบริสุทธิ์ ส่วนมากก็โดนคนพวกนี้ทำร้าย ถ้าแกจะเกลียด ต้องเกลียดพวกแกถึงจะถูก!”
กู่เยว่หือบอก
“แน่ล่ะ ถ้าเกิดว่าบ้านตระกูลกู่ได้เฉินเกอ และกลายเป็นคนควบคุมต่อจากนี้ บางทีเรื่องพวกนี้ อาจจะเปลี่ยนเป็นดีขึ้นก็ได้!”
เธอดีใจ
“ขอโทษที่ฉันจะต้องพูดตรงๆ แต่จากความสามารถของแก ยังห่างไกลจากคู่ต่อสู้ของเสี่ยวเกออยู่เป็นโข พวกแกบ้านตระกูลกู่เอาจริง ไม่กลัว?”
เฉินผิงอันพูดกับกู่เยว่หือด้วยความสงสาร
“เหอะๆ แกอยากจะทำให้ฉันกลัว? บนตัวของเฉินเกอพลังลึกลับอยู่ พลังของจิตวิญญาณของเขาแน่นอนว่าจะต้องแข็งแกร่ง แถมใช้พลังของวิญญาณ ทำให้วิญญาณของบรรพบุรุษแตกสลาย แต่ว่า ถ้าเกิดว่าคิดจะเทียบกับฉัน เขายังห่างไกลอยู่อีกมาก แล้วแกดูสิว่านี่คืออะไร?”
กู่เยว่หือหยิบของสิ่งหนึ่งที่มีรูปร่างกลมๆออกมา
“นี่คือค่ายกลที่ทำขึ้นมาเพื่อเฉินเกอโดยเฉพาะ ในชั่วโมงที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ เฉินเกออยากจะหนี ก็ไม่มีทางหนีได้ อีกอย่าง ข่าวลือต่างๆใช้ไม่ได้บนตัวเฉินเกออีกต่อไปแล้ว! เชื่อว่าค่ายกลนี่ สามารถที่จะช่วยฉันได้!”
กู่เยว่หือหัวเราะร้าย
“ข่าวลือที่แกพูด หมายถึงอะไร?”
เฉินผิงอันขมวดคิ้วถาม
“นั่นก็คือบุปผาผี ของประหลาดบนโลกแบบนี้ เพื่อที่จะยับยั้งเฉินเกอโดยเฉพาะ ตอนแรก ฉันเองก็ใช้มันจัดการเฉินเกอตลอด เสียดาย ตอนนี้ เฉินเกอขโมยดอกแม่ของบุปผาผีไป ฉันคิดว่าสำหรับเขา บุปผาผีไม่มีประโยชน์อีกแล้ว!”
“ดี หวังว่าบ้านตระกูลกู่ของพวกแกจะไม่เสียใจในภายหลังกับการกระทำของตัวเอง!”
เฉินผิงอันพยักหน้า
“ท่านย่าทวด คนๆนี้ดูถูกบ้านตระกูลกู่ของพวกเราตั้งหลายหน ไม่สู้ให้ผมลงมือเลย สักสอนมันหนักๆสักตั้ง!”
มีคนของบ้านตระกูลกู่พูดขึ้นอย่างไม่พอใจ
“ขอแค่ไม่ทำจนตาย พวกแกก็สามารถทำได้ตามสบาย!”
กู่เยว่หือพยักหน้าเบาๆ
ใช่แล้ว เฉินผิงอันที่อยู่ตรงหน้า ในสถานการณ์แบบนี้ ก็ยังไม่เกรงกลัวบ้านตระกูลกู่ ทำให้กู่เยว่หือโมโหมากที่สุด ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว สักสอนเขาสักหน่อย ก็ไม่มีอะไรที่ไม่ได้
ลูกหลานคนหนึ่งของบ้านตระกูลกู่ ตอบรับแล้วเดินหน้าไป
เขากำลังตั้งใจจะลงมือ
อยู่ๆ แสงสว่างจ้าก็โดนยิงออกมา
เสียงครืนดังขึ้น
แขนของคนๆนี้ ก็ถูกตัดขาดในเสี้ยววินาที ร่างทั้งร่างก็ปลิวลอยออกไป แล้วก็นอนตายอยู่เป็นก้อน
“หืม?”
คนของบ้านตระกูลกู่ทั้งหมดตกใจจนแทบสิ้น
มองไปทุกทิศด้วยความผวา
ส่วนกู่เยว่หือ ก็เปลือกตากระตุกอย่างแรง
“ใครกัน?”
“เพี๊ยะ!”
เสียงตบดังขึ้นชัดเจน กระแทกลงมาบนใบหน้าของกู่เยว่หือ กู่เยว่หืออยากจะหลบ ก็หลบไม่พ้น
โดนตบไปจังๆหนึ่งครั้ง
เธอมองหาไปรอบทิศทาง
“เพี๊ยะ!”
เสียงตบดังขึ้นอีกครั้ง จนขนาดทำให้มึนหัว
ฟันก็ร่วงลงมา
“ใคร?”
เธอคำราม
คนของบ้านตระกูลกู่ทั้งหมด ก็มองไปรอบๆด้วยความกลัว
บรรยากาศที่น่ากลัวจนที่สามารถ ในพริบตาเดียวก็ห้อมล้อมทุกคนบนจัตุรัส
ฟึบ!
และในตอนนี้ เชือกที่มัดตัวเฉินผิงอันเอาไว้ก็ถูกตัดขาด
เฉินผิงอันค่อยๆตกลงมาบนพื้น
ส่วนภูเขาปลอมบนจัตุรัส เฉินเกอก็ค่อยๆลอยลงมา
เพราะว่าเฉินเกอที่อยู่ตรงหน้า ทำให้คนรู้สึกว่ามืดดำ และน่ากลัว
“ผมผิดหวัง ก็เพราะว่า ผมนึกว่าการที่จะต้อนรับผม มันจะยิ่งใหญ่อลังการ มีงานมากมายที่พวกคุณตั้งใจที่ตระเตรียมไว้ให้ผม ผลลัพธ์คือ ผมมาแล้ว คุณกลับโยนของเล่นแบบนี้ใส่ผม บอกตามตรง ในตอนที่คุณตะคอกใส่ผมด้วยความมั่นใจ ผมยังมีความหวังอยู่เล็กๆน้อยๆ!”
เฉินเกอว่าขึ้น “ผมหวังว่าคุณจะเอาของจริงๆออกมา แต่สิ่งที่ผมเห็น กลับกลายเป็นของสิ่งนี้?”
“แก....แกอย่าเอะไป!”
ส่วนกู่เยว่หือ ได้ฟังคำดูถูกของเฉินเกอ ใบหน้าก็โกรธจนกลายเป็นสีมะเขือม่วง
เธอเองก็คิดไม่ถึง! เฉินเกอจะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้!
“อีกอย่างฉันบอกแกให้นะ ตอนนี้ถึงแกจะมีพลังเพิ่มพูน แต่ว่าวันที่จะแตกดับของแกก็อยู่ไม่ไกลแล้ว ตอนนี้ฉันอยู่ในกำมือของแก แกจะฆ่าก็ฆ่า!”
กู่เยว่หือพูดอย่างโมโห
ใช่แล้ว เธอปล่อยลูกควันออกมาก่อน บอกว่าความตายของเฉินเกออยู่ไม่ไกลแล้ว
ตามธรรมดา เธอเองก็มีความมั่นใจที่จะต่อสู้กับเฉินเกอต่อไป
ปึง!
แต่ว่าสิ่งที่เธอคิดไม่ถึงก็คือ การต่อสู้เพียงนิ้วเดียวของเฉินเกอ บรรยากาศที่หนักหน่วงขั้นสุด ก็ได้ทำลายหัวใจของเธอในพริบตา
กู่เยว่หือกระอักเลือดออกจากปาก ล้มลงแล้วบินลอยออกไป
เลือดสดกระจายอยู่เต็มหน้าเธอ เธอเบิกตากว้าง เธอหวาดกลัว เธอไม่อยากจะเชื่อ!
ถัดมา ไม่ใช่ว่าเฉินเกอจะต้องถามว่าเวลาของความตายของเขาจะมาเมื่อไหร่เหรอ? จากนั้นตัวเองจะได้รั้งเขาเอาไว้ รอการมาถึงของจิ่วโล๋หวาง ถึงตอนนั้น ค่อยจับตัวเฉินเกอไว้
คิดไม่ถึงเลยว่า เขาพูดว่าจะลงมือก็ทำ!
ลมหายใจของตัวเองกำลังจะหมดไป ในวินาทีนั้นกู่เยว่หือก็คิดว่า ตัวเองตายอย่างอยุติธรรม ถ้ารู้ตั้งแต่แรกก็จะไม่พูดอ้อมไปอ้อมมาแล้ว!
วินาทีถัดไป กู่เยว่หือก็ตายอย่างสงบ!
“หา?”
คนของบ้านตระกูลกู่ก็ตัวสั่นขึ้นมาในทันที
ตึกๆ ตึกๆ!
พวกเขาค่อยๆคุกเข่าลง
“คุณชายเฉินไว้ชีวิตด้วย พวกเรานั้นฟังคำสั่งของยายเฒ่าผู้นี้ ไม่ได้เกี่ยวกับพวกเรา อีกอย่างครับคุณชายเฉิน พวกเรามีเรื่องที่ต้องการจะบอก!”
คนพวกนี้ ค่อยๆคุกเข่าลงแล้วร้องขอชีวิต ยังมีบางคนที่มีความคิดดีๆออกมา
พูดออกมาว่าตัวเองมีเรื่องจะบอกแบบตรงๆ อย่างนี้ก็สามารถที่จะประวิงเวลาความตายออกไปได้แล้ว
ชายอกสามศอกมันต้องแบบนี้ งอได้ ยืดได้
จะต้องมีชีวิตรอดต่อไป จากนั้นก็รอเวลาที่จะเอาคืนเฉินเกอ
แต่ว่า
“ผมไม่ฟัง! ดังนั้นพวกคุณจะต้องตาย!”
เฉินเกอเพียงแค่ตอบกลับมาเบาๆประโยคหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...