“ทำยังไง?”
“ทหารที่เข้ามาในป่า ไม่ต้องเก็บไว้แม้แต่คนเดียว ในเมื่อพวกเขาอยากที่จะมาทำร้ายเราในนี้ ก็ให้พวกเขาเฝ้าอยู่ที่นี่ไปตลอดกาลละกัน!”
เฉินเกอหัวเราะอย่างเย็นชา
สามตระกูลใหญ่เขายังสามารถกำจัดอย่างง่ายดาย ทหารของประเทศหนานเยว่นั้นจะแค่ไหนเชียว สาเหตุที่ตัวเองไม่ลงมือเอง ก็เพราะจะให้โอกาสศิษย์ตำหนักสวนหยาง ให้พวกเขาระบายความอัดอั้นที่อยู่ในคุกตั้งหลายวัน
เพิ่งจะสิ้นเสียงพูด เฉินเกอก็หันหน้ามองไปทางท่านซินแสกุ่ย
เขาไม่ได้กังวลความอันตรายที่ตัวเองต้องเจอเลย แต่ไม่รู้ว่าในคำทำนายของท่านซินแสกุ่ย อันตรายที่ตัวเองต้องเจอนั้นคืออะไร ตามหลักแล้ว ทั้งประเทศหนานเยว่สิ่งที่สามารถคุกคามตัวเองได้นั้น มีเพียงสามตระกูลใหญ่ร่วมมือกัน แต่วันนี้สามตระกูลใหญ่ได้ถูกตัวเองทำลายล้างไปแล้ว
อาศัยเพียงกำลังทหารของประเทศหนานเยว่ อย่างว่าแต่คุกคามเลย เฉินเกอไม่เห็นพวกมันอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ
ท่านซินแสกุ่ยเห็นสายตาของเฉินเกอที่มองเขา เพียงแค่ส่ายหัว ไม่ได้พูดอะไรเลย
ยี่สิบนาทีให้หลัง หลี่กั๋วจุนถูกคนขับพามาถึงที่ตรงนี้
ผืนป่าในเวลานี้ได้ถูกทหารของประเทศหนานเยว่ล้อมไว้หมดแล้ว ในมือของพวกเขาทุกคนได้ถือปืนเอาไว้ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปเลย ถึงอย่างไรข่าวที่เฮลิคอปเตอร์ถูกกำจัดด้วยน้ำมือของเฉินเกอ พวกเขานั้นได้ยินมาอย่างชัดเจน
“ท่านผู้นำ!”
เมื่อเห็นหลี่กั๋วจุนลงจากรถ ทุกคนต่างก็ก้มหน้าลง
“เฉินเกออยู่ไหน อยู่ในป่าเหรอ?” หลี่กั๋วจุนกวาดสายตาไปยังพวกเขา ด้วยความช่วยเหลือของพลังฝ่าเสินจากสุสานบรรพชนเขาถึงขั้นมีสายตาที่ดีกว่าคนปกติ ยืนอยู่นอกผืนป่า ก็สามารถเห็นสถานการณ์ข้างในป่าอย่างเลือนราง
“เรียนท่านผู้นำ ใช่ครับ อยู่ข้างในป่าครับ เรากลัวว่าจะเกิดการเสียชีวิตที่ไม่จำเป็น ก็เลยไม่ได้บุกเข้าไป แต่ทั้งป่าได้ถูกล้อมรอบแล้ว นอกจากพวกเฉินเกอมีปีก มิเช่นนั้นไม่มีทางหนีไปต่อหน้าต่อตาของพวกเราได้ครับ!”
หัวหน้าที่เป็นคนนำทหารรีบรายงานสถานการณ์
“เป็นพวกไร้ประโยชน์เสียจริง” หลี่กั๋วจุนด่าไปหนึ่งคำ เขาก็ยกเท้าก้าวเดินเข้าไปในป่า
สำหรับตอนนี้แล้ว เขาไม่กลัวเฉินเกอเลย ถึงขนาดมีความมั่นใจที่ว่า เมื่อเจอเฉินเกอแล้ว สามารถชกเฉินเกอให้ตายภายในหนึ่งหมัด
เพียงแต่การกระทำของเขานั้นทำให้คนที่อยู่เบื้องหลังต่างก็สะดุ้งตกใจ
“ท่านผู้นำ ท่านเข้าไปไม่ได้นะครับ เฉินเกอนั้นแข็งแกร่งเกินไป ความคิดเห็นของพวกเราคือ ล้อมพวกเขาไว้ในป่าก่อน รอให้พลังของพวกเขาถดถอยลงไปหน่อยค่อยบุกเข้าไป เช่นนี้แล้วไม่เพียงแต่สามารถกำจัดได้ในครั้งเดียว และจะไม่ทำให้ทหารของเราได้รับบาดเจ็บสาหัสเกินไป”
หัวหน้าคนนั้นรีบก้าวเข้าไปข้างหน้าดึงตัวของหลี่กั๋วจุนเอาไว้
“เอามือของนายออกไปจากเสื้อของฉัน!” หลี่กั๋วจุนหน้าจ้องมองเขาด้วยสายตาที่โกรธเคือง
“แต่ว่า............” หัวหน้าแม้จะกลัว แต่เขาก็ไม่กล้าปล่อยมือ หากหลี่กั๋วจุนเจอกับอันตรายในที่ตรงนี้ มันจะหนีไม่พ้นความรับผิดชอบของเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสายตาร้อยกว่าคู่ที่จ้องมองเขาอยู่ในตรงนี้
“ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน เดิมท่านผู้นำก็อยู่ในห้องทำงานอย่างดิบดี จู่ๆก็ให้ผมพาไปเขาไปที่สุสานบรรพชน หลังจากออกมาจากสุสานบรรพชนก็เป็นแบบนี้แล้ว ผมก็รู้สึกเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน” คนขับส่ายหัว ในใจของเขาก็สงสัยอยู่เหมือนกัน
น่าเสียดายที่ตัวเองเป็นแค่คนขับ ไม่มีสิทธิ์ในการถาม
“แล้วจะบุกเข้าไปหรือไม่บุกล่ะ?” หัวหน้าทหารถูกฝ่ามือไปมา
“ช่างเถอะ มันเป็นคำสั่งของท่านผู้นำเอง เขาอาจจะมีแผนการเอาชนะเฉินเกอมั้ง เรารอฟังข่าวอยู่ข้างนอกจะดีกว่า อย่าเข้าไปทำให้แผนการของทำผู้นำต้องวุ่นวายเลย” คนขับส่ายหัว ตั้งแต่ออกมาจากสุสานบรรพชนก็รู้สึกถึงความผิดปกติของหลี่กั๋วจุนแล้ว แต่มันก็ได้แต่สงสัยเท่านั้น
หลี่กั๋วจุนไม่ได้สนใจสถานการณ์นอกป่าเลยแม้แต่นิดเดียว ด้วยความช่วยเหลือของพลังแห่งฝ่าเสิน เขาสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าเฉินเกออยู่ที่ไหน อีกทั้งยังสามารถมองเห็นคนสิบกว่าคนที่อยู่ข้างกายเฉินเกอ
เขาไม่มีความลังเลใดๆเลย มุ่งหน้าไปยังตำแหน่งที่เฉินเกออยู่
ระยะห่างของหลี่กั๋วจุนกับเฉินเกอห่างกันไม่ถึงสองร้อยเมตร
ตั้งแต่เขาปรากฏตัวตรงด้านหน้าของป่า รอยยิ้มของเฉินเกอก็ท่านซินแสกุ่ยก็ค่อยๆหายไป ท่านซินแสกุ่ยนั้นสัมผัสได้ว่าอันตรายยิ่งอยู่ยิ่งเข้ามาใกล้เฉินเกอแล้ว และเฉินเกอที่อาศัยความช่วยเหลือของพลังเทพจิตเก้าภพ สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ามีพลังที่แข็งแกร่งกำลังเข้ามากใกล้ตัวเขา
“คุ้มกันเหลียงลู่ให้ดี” รอยยิ้มของเฉินเกอหายไป สายตาถูกแทนที่ด้วยความดุดัน เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังนี้เป็นภัยคุกคามสำหรับเขา และในแง่ใดแง่หนึ่ง มันแข็งแกร่งกว่าพลังของผู้อาวุโสทั้งสามตระกูล
“พวกเขาบุกเข้ามาในป่าแล้วเหรอ?” ไป๋เสี่ยวเฟยกางมือขวางเหลียงลู่ไว้ด้านหลังของตัวเอง และได้หยิบปืนสั้นออกมาจากเอวหนึ่งด้าม มองไปข้างหน้าอย่างระมัดระวังตัว
พวกนายคุ้มกันท่านซินแสกุ่ยให้ดี เฉินเกอไม่ได้อธิบายอะไร แต่ได้หันหน้าไปพูดกับศิษย์ของตำหนักสวนหยาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...