คุ้มกันเหลียงลู่เป็นหน้าที่ของเขา แต่เขายินดีที่จะตามเฉินเกอไปมากกว่า แม้ว่าต้องเจอกับอันตรายก็ตาม
ภายใต้คำสั่งของเฉินเกอ ทุกคนมุ่งหน้าไปทางท่าเรือ
และในเวลานี้ เรื่องที่เกิดขึ้นในป่าข่าวได้ถูกส่งไปยังหน่วยรบแล้ว
หลี่กั๋วจุนที่เข้าไปสู้กับเฉินเกอคนเดียวหายตัวไป ทหารทั้งหมดถูกฆ่า ทั้งหน่วยรบนั่งกันไม่ติดแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไรกันดี
การสูญเสียหลี่กั๋วจุนหมายถึงการสูญเสียเสาหลัก เพื่อหลีกเลี่ยงความตื่นตระหนกในหน่วยรบ ทำได้เพียงให้ท่านรองอย่างลู่เฉิงคุนรับตำแหน่งท่านผู้นำชั่วคราว
นั่งอยู่ในห้องทำงานของหลี่กั๋วจุน มองดูหัวหน้าระดับสูงของประเทศหนานเยว่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า ลู่เฉิงคุนรู้ว่าโอกาสของตัวเองมาถึงแล้ว ก่อนหน้าเพราะตัวเองทำให้เฉินเกอช่วยคนออกไป เขายังมีความกังวลว่าหลี่กั๋วจุนจะลดโทษให้เขาหรือเปล่า
ตอนนี้ไม่รู้ว่าหลี่กั๋วจุนเป็นหรือตาย และเขาก็ได้รับตำแหน่งผู้รักษาการ นั่นก็หมายความว่าของเพียงตัวเองมีผลงาน ก็จะสามารถเป็นตัวแทนของหลี่กั๋วจุนได้ ต่อให้หลี่กั๋วจุนโชคดีกลับมาได้ เมื่อถึงตอนนั้น ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไปแล้ว
“ผู้รักษาการ คุณรีบคิดหาวิธีโดยเร็ว เราควรจะกำจัดเฉินเกอยังไง คงไม่สามารถที่จะส่งทหารของหน่วยรบออกไปอีกมั้ง ถ้าหากเราส่งทหารไป เกรงว่าทางประเทศหัวเซี่ยคงไม่นิ่งดูดายอย่างแน่นอน”
ลู่เฉิงคุนนั่งเหม่อลอยอยู่บนเก้าอี้ หัวหน้าระดับสูงที่ยืนอยู่ทนไม่ไหวจึงได้เอ่ยปากเตือน
“ใช่ แล้วรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้เฉินเกออยู่ที่ไหน?” ลู่เฉิงคุนที่รู้สึกตัวแล้ว ก็ได้ถามขึ้น
“ตอนนี้ยังไม่ทราบครับ ตอนที่พวกเราทราบข่าวเขาได้พาคนออกไปจากป่าแล้ว ตอนนี้กำลังตรวจสอบอยู่ คาดว่าไม่นานนักก็จะสามารถตามหาที่ซ่อนตัวของพวกมันได้!” หัวหน้าระดับสูงรายงานสถานการณ์
“ให้เวลาพวกคุณสองชั่วโมง ต้องหาที่อยู่ของเฉินเกอให้เจอ!” ลู่เฉิงคุนวางท่าออกคำสั่ง
“ครับผม!”
เหล่าหัวหน้าระดับสูงก็พยักหน้า พวกเขารู้ว่ามันเป็นไปได้ยาก แต่เมื่อคำสั่งออกมาแล้ว นอกจากปฏิบัติตามแล้ว ก็ไม่มีวิธีอื่น
ไม่นานนัก หน่วยข่าวกรองของหน่วยรบก็ขับรถแยกย้ายออกไป
บนท่าเรือ
เฉินเกอได้พาคนมาถึงที่นี่แล้ว และเขาสามารถมองเห็นเรือของเขาที่จอดอยู่ในท่าเรือจากระยะไกล
คนสิบกว่าคนเดินไปที่ท่าเรืออย่างดุดัน คนที่ทำงานอยู่ที่นี่หยุดงานในมือลง แล้วยืนดู แต่ก็ไม่มีใครกล้าก้าวไปข้างหน้าเพื่อสกัดกั้น
ถึงอย่างไรชื่อเสียงของเฉินเกอ ได้แพร่กระจายไปทั่วประเทศหนานเยว่เมื่อไม่กี่วันก่อน
การที่สามารถฆ่าสามตระกูลใหญ่ด้วยมือเปล่า มันต้องเป็นภูตผีปีศาจอย่างแน่นอน ถ้าหากกล้าไปขวางล่ะก็ เกรงว่าวันนี้ที่ท่าเรือ คงได้กองเต็มไปด้วยศพ
เฉินเกอขึ้นเรือไปอย่างเกินความคาดหมาย
“คุณเฉิน ไม่มีคำสั่งของหน่วยรบ พวกคุณไปจากที่นี่ไม่ได้!” เห็นว่าถ้าไม่ขวางเฉินเกออีกพวกเขาก็จะขับเรือออกไปโดยตรง คนที่รับผิดชอบท่าเรือก็ได้รวบรวมความกล้าวิ่งไปที่ขอบเรือ ตะโกนไปทางเฉินเกอที่ยืนอยู่ตรงดาดฟ้าของเรือ
“หน่วยรบ?” เฉินเกอยิ้มเยาะไปสองที
“คุณเฉิน เราก็ทำหน้าที่ตามคำสั่ง พวกคุณก็อย่าทำให้เราลำบากเลย หากพวกคุณจะไปให้ได้ พวกเราทำได้เพียงขัดขวาง” คนที่รับผิดชอบกลืนน้ำลายลงคอ คำพูดที่เรียบเฉยเพียงคำเดียวของเฉินเกอ ทำให้เขารู้สึกหนาวเย็นราวกับอยู่ในห้องใต้ดินน้ำแข็ง
“ขัดขวาง? นายจะขัดขวางยังไง?” เฉินเกอที่ยืนอยู่ข้างบนมองลงไปหาเขาที่อยู่ข้างล่าง
เขาถึงขั้นมีความรู้สึกที่อยากจะขอบคุณเฉินเกอ หากไม่ใช่เฉินเกอมาก่อความวุ่นวายในประเทศหนานเยว่ เขายังคงเป็นแค่ท่านรอง ยังคงห่างจากตำแหน่งท่านผู้นานอีกไกลมาก
“ผู้รักษาการ คนขับถูกผมจับตัวกลับมาแล้ว” ไม่รอให้ลู่เฉิงคุนดื่มกาแฟเสร็จ ประตูห้องทำงานก็ถูกผลักออก
“คนขับ คนขับอะไร?” ลู่เฉิงคุนรีบวางขาลง เพิ่งจะได้ตำแหน่งท่านผู้นำมา อย่างน้อยต้องวางตัวหน่อยถึงจะดี
“คนขับของท่านผู้นำหลี่กั๋วจุนไง เขาถูกเฉินเกอจับด้านนอกป่า คนของเราไปตรวจที่เกิดเหตุ แล้วเจอกับเขา” หัวหน้ากองทหารรักษาการณ์นำตัวคนขับเข้ามา
“พูดมาซิ นายพาเฉินเกอไปที่ไหนมาบ้าง” ลู่เฉิงคุนไม่ค่อยจะเต็มใจนัก ตอนนี้เขาแค่อยากจะสัมผัสตำแหน่งและอำนาจของท่านผู้นำ ไม่มีกะจิตกะใจไปสนใจเรื่องของเฉินเกอเลยแม้แต่นิดเดียว
“ผู้รักษาการ ผมนั้นถูกเฉินเกอบีบบังคับ เขาให้ผมพาเขาไปที่สุสานบรรพชน จากนั้นก็ให้ผมพาเขาไปสวนป่าที่อยู่ติดกับชายฝั่งทะเล!” คนขับไม่กล้าพูดปด
“สุสานบรรพชน ป่า?” ลู่เฉิงคุนนั่งตัวตรง ถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “เขาให้นายพาไปสถานที่เหล่านั้นทำไม?”
“ผมก็ไม่รู้ เขาให้ผมรออยู่ข้างนอก” คนขับส่ายหัว
“ข้อมูลนี้ไม่มีค่าอะไรเลย พวกนายไปตามเฉินเกอต่อเถอะ แต่จงจำเอาไว้อย่าให้คนต้องเสียชีวิตอีก!” ลู่เฉิงคุนโบกมือไล่ คำพูดของคนขับโดนใจเขาพอดี หากเป็นข้อมูลที่มีค่า เขายังต้องไปตรวจสอบอีก
“ครับผม” หัวหน้ากองรักษาการณ์พยักหน้า รีบพาคนขับออกไป
“หลี่กั๋วจุนนะหลี่กั๋วจุน แกมันว่างจัดหรือไงถึงไปยั่วโมโหเฉินเกอ นั่งดื่มชาอยู่ในห้องทำงานไม่ดีกว่าเหรอ ตอนนี้คนก็หายไป ตำแหน่งก็ต้องให้ฉัน คุ้มมั้ยล่ะ!”
ลู่เฉิงคุนก็ยกขามาไขว่ห้างต่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...