ตลอดทั้งคืนผ่านพ้นไปอย่างสงบ
หากพวกเขาไม่ได้เริ่มลงมือหาเรื่องขึ้นมา เฉินเกอก็ไม่ต้องการจะไปมีความขัดแย้งใดๆ กับพวกเขา
แต่การไม่ลงมือ ไม่ได้แปลว่าพวกเขาไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร
เฉินเทียนจ้าวยังคงไม่ได้กลับไปที่เกาะโยวหลง เขาตัดสินใจอาศัยอยู่ที่นี่ชั่วคราวเพื่อตรวจสอบตัวตนของเฉินเกออย่างละเอียดและแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ก่อน
ส่วนเฉินเกอก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการศึกษาภาพไห่ซิน
ตามความเข้าใจของเขา บนภาพไห่ซินมีการแสดงที่ตั้งของเกาะโยวหลงอยู่ แต่ตอนนี้เขาได้แผนที่เกาะโยวหลงมาอยู่ในมือแล้ว ต ตามแผนที่ เกาะโยวหลงนั้นอยู่ใกล้ๆละแวกนี้ เพียงแต่ไม่มีการระบุตำแหน่งที่แน่ชัด ซึ่งนี่ทำให้เฉินเกอรู้สึกหมดหนทาง เพราะสำหรับตอนนี้ การหาเกาะโยวหลงไม่เจอ ก็หมายความว่าการกระทำก่อนหน้านี้ทั้งหมดของเขาศูนย์เปล่า
ท้องฟ้าสว่างขึ้น เฉินเกอและ ไป๋เสี่ยวเฟยก็ลงไปทานอาหารเช้า
เพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจของพวกเขา หลังทานอาหารเสร็จ เฉินเกอก็ขอให้ไป๋เสี่ยวเฟยพาลูกศิษย์ของตำหนักสวนหยางไปขนสิ่งมีชีวิตบนเรือเป็นพิเศษ ส่วนเรื่องลอบฆ่าบนเกาะเล็ก เฉินเกอไม่ได้พูดถึงมัน
เมื่อเฉินเกอคิดว่าทุกอย่างที่นี่เป็นปกติดี ทันใดนั้นเอง จู่ๆก็มีเรือลำหนึ่งมาถึงใกล้เกาะ
เมื่อยืนอยู่บนระเบียงห้องใต้หลังคา เฉินเกอสามารถเห็นสถานการณ์บริเวณใกล้ท่าเรือได้รางๆ แต่เนื่องจากอยู่ค่อนข้างไกล ทำให้ไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขากำลังพูด ท่ามกลางความเลือนรางนั้นเอง เฉินเกอเห็นว่าผู้คนจำนวนมากบนเกาะกำลังขนย้ายของอยู่ หลังจากผ่านไปเกือบหนึ่งหรือสองชั่วโมง เรือที่เพิ่งมาถึงก็ออกไป
เมื่อเห็นเช่นนี้ เฉินเกอก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ตามที่พวกเฉินเทียนยิ่งบอก ที่นี่แทบจะไม่มีบุคคลภายนอกมาถึง หากเรือลำนั้นเป็นของเกาะล่ะก็ ทำไมถึงต้องออกไปหลังจากถ่ายโอนสิ่งของเสร็จแล้ว
เฉินเกอลูกคางและครุ่นคิด ผ่านไปครู่หนึ่ง ความคิดก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา
เป็นไปได้ไหมว่าที่เกาะนี้จะเป็นเพียงจุดผ่านทาง สิ่งของพวกนั้นถูกส่งไปยังเกาะโยวหลง?
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมาในสมอง ก็ไม่สามารถปัดตกไปได้อีก
เฉินเกอเห็นด้วยกับมุมมองนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เกือบทุกคนบนเกาะล้วนแซ่เฉิน ซึ่งจุดนี้คล้ายกับตระกูลเฉินที่ก่อตั้งโดยเฉินเตี๋ยนชาง อีกทั้งบนเกาะยังมีผู้ฝึกตนอยู่ หากไม่ใช่เพราะไม่ต้องการให้ผู้ฝึกตนคนอื่นเข้าใกล้เกาะโยวหลง เฉินเทียนจ้าวจะอยากฆ่าในขณะที่เขานอนหลับได้อย่างไร
เมื่อรวมสถานการณ์เข้าด้วยกันแล้ว ก็ทำให้เฉินเกอค่อยแน่ใจได้ว่า เกาะโยวหลงนั้นอยู่ใกล้ ๆ แถวนี้ อีกทั้งคนบนเกาะนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนของตระกูลเฉินเช่นกัน
"เฉินเตี๋ยนชาง..."
เฉินเกอกำหมัดแน่น สายตาแดงก่ำของเขามองไปที่ท่าเรือ
หากไม่ใช่เพราะพ่อแม่ของเขาตกอยู่ในมือของพวกเขา เขาคงต้องทำให้ที่นี่เปลี่ยนเป็นนองเลือดไปแล้ว
ครู่ต่อมา เฉินเกอก็ถอนหายใจยาว จากนั้นแผนการอีกแผนการก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา
ตกเย็น เมื่อท้องฟ้ามืดสนิทลง เฉินเกอก็เรียกเฉินเทียนยิ่งไปที่ห้องของเขาตามลำพัง แต่เดิมเฉินเทียนยิ่งไม่กล้าไป เขารู้ว่าพลังของเฉินเกอแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ก็กลัวว่าหากไม่ไปก็จะทำให้เฉินเกอสังเกตเห็น ดังนั้นหลังจากบอกพี่สาม เขาก็รีบไปที่ห้องของเฉินเกอ
ไม่มีคนอื่นอยู่ในห้อง มีเพียงเฉินเกอและเหล้าขาวสองขวดบนโต๊ะ
"กินกับ กินกับ!"
หลังจากดื่มเหล้าไปหนึ่งแก้ว เฉินเทียนยิ่งก็ไม่ระแวดระวังต่อเฉินเกออีก
หลังจากดื่มไปสามรอบ เฉินเกอทำให้ตัวเองดูเมามายเล็กน้อย ซึ่งแบบนี้ถึงสามารถหลอกล่อเฉินเทียนยิ่งได้มากที่สุด ทำให้เขาคิดว่าตนเมาเพราะดื่มมากเกินไป
"น้องชาย นายลองบอกว่าว่าพวกนายมาที่นี่ได้อย่างไร ในใจของฉันอยากรู้เรื่องนี้อย่างมาก สามสี่สิบปีมานี้ บนกลุ่มเกาะละแวกนี้ของพวกเรา ไม่มีเรือของคนแปลกหน้าเข้าใกล้มาก่อน" หลังจากดื่มแก้วต่อแก้ว เหล้าขาวสองขวดบนโต๊ะก็มาถึงก้นขวด
"ฉันบอกแล้วไง พวกเราก็แค่บังเอิญเข้ามา" เฉินเกอสังเกตเห็นการแสดงออกที่เปลี่ยนแปลงไปของเฉินเทียนยิ่ง และตอบอย่างเรียบๆ
"นายอย่ามาพูดไร้สาระกับฉันหน่อยเลย หมู่เกาะของพวกเราหากไม่อยู่ภายใต้การชี้นำของแผนที่พิเศษ ก็จะไม่มีทางหาเจอได้เลย บอกนายตามตรงแล้วกัน ที่ที่พวกเราอาศัยอยู่ ไม่อยู่ในเขตอำนาจของประเทศใดๆ และไม่มีใครมีสิทธิ์วาดเราลงบนแผนที่!"
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเกอ เฉินเทียนยิ่งก็โบกมืออย่างแรง ก่อนจะตบหน้าอกของเขาและพูดด้วยความภาคภูมิใจ
"ทำไม?" ปากของเฉินเกอผุดขึ้น เขารู้แล้วว่าตนเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังสามารถรับประกันได้ว่าเกาะโยวหลงอยู่ใกล้ ๆบริเวณนี้
"ไม่มีทำไม ถึงรู้ฉันก็ไม่สามารถบอกนายได้!" แม้ว่าเฉินเทียนยิ่งจะเมาแล้ว แต่เขาก็ยังจำความลับที่ต้องเก็บอย่างเคร่งครัดที่สุดในตระกูลได้
"ถ้านายบอกฉัน ฉันจะบอกนายว่าพวกเรามาที่นี่ทำไม เป็นไง?" เฉินเกอจุดบุหรี่ เขาไขว่ห้างและเอ่ยขึ้น
"ไม่มีทาง ฉันไม่มีทางบอกนาย" เฉินเทียนยิ่งโบกมือ จากนั้นก็ยกแก้วเหล้าขึ้นอีกครั้งและดื่มมันลงไปในคราวเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...