ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 882

"ประเทศหนานเยว่อยู่ไม่ไกลจากหมู่เกาะของเรา เมื่อไม่กี่วันก่อนตอนที่ฉันออกไปหาปลา บังเอิญเจอกับชาวประมงของประเทศหนานเยว่ พวกเขาเล่าว่าช่วงนี้ในประเทศหนานเยว่เกิดเรื่องที่ใหญ่โต" เฉินเทียนจ้าวยังคงพยายามล่อถามเฉินเกอ แม้จะไม่ใช่หลานชายของหัวหน้าเผ่าก็ต้องฆ่าทิ้งอยู่แล้ว แต่ยังไงก็ควรที่เข้าใจเรื่องราวก่อนถึงจะดี

ถ้าหากไม่ใช่ เขาก็จะระงับเรื่องนี้เอาไว้ อย่างน้อยอยู่ในบ้านย่อยนี้ จะไม่อนุญาตให้พูดถึงเรื่องนี้อีก

แต่ถ้าเป็นหลานชายของหัวหน้าเผ่า ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะได้สร้างความชอบให้กับตระกูลเฉิน ตามที่ผู้อาวุโสคุมกฎพูด ครั้งนี้ที่หลานชายของหัวหน้าเผ่ามาที่เกาะโยวหลงก็เพื่อจะมาหาเรื่อง หัวหน้าเผ่าเลยตัดสินใจที่จะฆ่านายคนนี้

ช่วยหัวหน้าเผ่ากำจัดปัญหาที่กวนใจ นั่นก็หมายความว่ามีโอกาสที่จะได้เลื่อนขั้นในตระกูลเฉิน ไม่แน่จากลูกศิษย์ผู้ฝึกตนธรรมดาคนหนึ่ง ได้เลื่อนขั้นไปเป็นลูกศิษย์ชั้นใน เมื่อถึงเวลานั้น สุดยอดวรยุทธ์ทั้งหมดของตระกูลล้วนสามารถเรียนรู้ได้ตามต้องการ

"เรื่องอะไรหรอ?" เฉินเกอเลิกคิ้ว แล้วถาม

"สามตระกูลใหญ่ของประเทศหนานเยว่ ถูกไอ้หนุ่มที่ไร้ชื่อเสียงคนหนึ่งฆ่าล้างตระกูล ได้ยินมาว่าลู่เฉิงคุนของประเทศหนานเยว่ที่ได้เป็นผู้นำรักษาการ สาเหตุบางส่วนก็มาจากนายคนนี้" เฉินเทียนจ้าวมองเฉินเกอ และค่อยๆเล่าเรื่องนี้

อันที่จริงเขารู้เรื่องเหล่านี้นานแล้ว อย่ามองว่าพวกเขาใช้ชีวิตอยู่บนเกาะมาโดยตลอด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะแยกตัวออกมาจากโลกภายนอก เรื่องที่สำคัญยังคงสามารถรู้ได้อย่างรวดเร็ว

และเหตุผลที่เขาพูดเรื่องนี้ ก็เพราะอยากจะเห็นปฏิกิริยาของเฉินเกอ ตามที่เขารู้มาคนที่สร้างความปั่นป่วนโกลาหลให้กับประเทศหนานเยว่ พอดีก็เป็นชายหนุ่มที่มาจากประเทศหัวเซี่ย

ไม่ว่าจะมองจากประวัติความเป็นมาหรือความสามารถแล้ว มันใกล้เคียงกับเฉินเกอมาก

เมื่อคำพูดนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนที่อยู่ในนี้ต่างก็ประหลาดใจกันเล็กน้อย อย่างแรกพวกเขาตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศหนานเยว่ แต่ทุกคนก็รู้ว่า คำพูดเหล่านี้ล้วนพูดให้เฉินเกอฟัง

พวกเขาทั้งหมดต่างมองมาทางเฉินเกอ ความหมายในสายตาของพวกเขาก็ชัดเจนมาก เรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศหนานเยว่ คงไม่ใช่ฝีมือของนายหรอกนะ?

"ผมเคยได้ยินเรื่องนี้จริง เพียงแต่ว่าก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้ พวกเราได้ออกมาจากประเทศหนานเยว่แล้ว อีกอย่างพี่เฉินคงไม่คิดว่าเรื่องนี้ จะเป็นฝีมือของผมหรอกนะ?" สีหน้าของเฉินเกอไม่ได้เปลี่ยนแปลงใดๆเลย ยังคงถามขึ้นด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มบางๆ

"ไม่ใช่อย่างแน่นอน ก็แค่จู่ๆก็คิดถึงเรื่องนี้ ก็เลยมาแบ่งปันกับน้องชายน่ะ" เฉินเทียนจ้าวขมวดคิ้ว เขาไม่สามารถตัดสินอะไรได้จากสีหน้าของเฉินเกอเลย

"คนที่สามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้ ต้องมีความแข็งแกร่งอย่างมาก ก็ไม่รู้ว่าพลังวิชาของพี่เฉินกับนายคนนั้น แตกต่างกันแค่ไหน?" เฉินเกอถามขณะที่ดื่มชาพร้อมกับรอยยิ้ม

"นายพูดอะไร ฉันก็แค่ชาวประมงธรรมดาทั่วไป จะมีพลังวิชาได้ไง?" เฉินเทียนจ้าวเกือบจะพ่นเหล้าที่เพิ่งจะดื่มเข้าไปแล้วออกมา

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ขณะที่การกินดื่มและการร้องรำทำเพลงของชาวบ้านสิ้นสุดลง จึงได้ประกาศสิ้นสุดการฉลองเทศกาล เฉินเกอจำไม่ได้ว่าตระกูลเฉินนั้นมีเทศกาลอะไร และไม่รู้ว่าเหตุใดเฉินเทียนจ้าวถึงได้คิดแผนการนี้ขึ้นมา

ถ้าหากเพื่อจะลองทดสอบหยั่งเชิงตัวเอง มันก็เท่ากับทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่

เมื่อกลับมาที่ห้อง เฉินเกอคิดถึงเรือสินค้าที่บรรทุกสินค้าและวัตถุดิบที่ส่งไปข้างนอก ถ้าหากครั้งหน้าที่พวกเขามาแล้วแอบซ่อนตัวขึ้นไป ไม่แน่อาจจะสามารถตามพวกเขาไปถึงเกาะโยวหลงแล้วก็จะรู้เรื่องทุกอย่าง

"แกระ!"

ทันใดนั้น ประตูก็ถูกเปิดออก

"เฉินเกอไม่ดีแล้ว คุณเหลียงลู่หายตัวไปแล้ว" ไป๋เสี่ยวเฟยที่จับขอบประตูไว้ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่หอบ

"เหลียงลู่? เธอบอกว่าจะอยู่ในห้องตลอดไม่ใช่หรอ?" เฉินเกอขมวดคิ้วเล็กน้อย

"ไม่เป็นไร ผมจะดูพี่กินอยู่ตรงนี้แหละ" เฉินเกอใช้เท้าเหยียบไปบนเก้าอี้ นิ้วมือข้างหนึ่งเคาะอยู่บนโต๊ะอย่างไม่มีทีท่าที่จะหยุด

ภาพนี้ ทำให้ผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านข้างทำอะไรไม่ถูก เธอจะยืนอยู่กับที่ หรือจะไปเอาเหล้าดี

"ที่ตรงนี้ไม่มีเรื่องของคุณแล้ว" ไป๋เสี่ยวเฟยถือโอกาสเปิดประตูห้องของห้องห้องหนึ่ง

ทั้งห้องรับแขก ก็เหลือเพียงเขาทั้งสามคน

"พูดมาซิ คุณเหลียงถูกพวกคุณพาตัวไปไว้ที่ไหน มอบคนออกมาซักดีๆ แล้วผมจะถือว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่อย่างนั้น เกรงว่าหมู่เกาะแห่งนี้จะไม่สงบสุขอีกต่อไป นิ้วมือของเฉินเกอหยุดกะทันหัน" สายตาที่คมกริบได้มองไปที่เฉินเทียนยิ่ง

"น้องชายนายหมายความว่ายังไง หรือว่านายคิดว่าฉันส่งคนไปจับตัวคุณเหลียงลู่เหรอ?" เฉินเทียนยิ่งพูดแก้ตัว "เราก็นั่งอยู่ด้วยกันตลอด แล้วฉันจะเอาเวลาที่ไหนไปจับตัวเธอล่ะ นายรอให้ฉันกินข้าวเสร็จก่อน ฉันจะไปตามหาเธอพร้อมกับนาย"

"พี่สามคนนั้นของพี่ เป็นคนในตระกูลเดียวกันใช่มั้ย?" เฉินเกอหรี่ตาลง ในเมื่ออีกฝ่ายได้ลงมือแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปิดบังอีก

อีกอย่างตอนนี้เหลียงลู่ มีความเป็นไปได้ว่าจะตกอยู่ในกำมือของตระกูลเฉิน เหมือนกับพ่อแม่ของตัวเอง กำลังเผชิญอยู่กับอันตราย

"พรึบ"

เมื่อคำพูดคำนี้ของเฉินเกอออกมา ตะเกียบของเฉินเทียนยิ่งก็หล่นลงพื้นทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน