"ดูเหมือนว่าพลังของเฉินเกอจะไม่ได้อ่อนแอ ถึงกับทำให้พวกนายจ่ายค่าตอบแทนมากขนาดนี้ได้ ต่อให้ไม่ได้ฆ่ามันทิ้ง แต่ทำให้มันพิการไปซะ จากนี้ก็จะไม่เป็นอันตรายต่อฉันในอนาคต"
"พี่เฉินอู่ พวกเราทำร้ายเฉินเกอไม่ได้ ความแข็งแกร่งของเขามากเกินไป พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย" เฉินต้าเอ้อขัดจังหวะเฉินอู่ "ถ้าไม่ใช่พวกเราต่อสู้เอาชีวิตเข้าแลกและหนีออกมาเกรงว่าคงต้องถูกเขาฆ่าในเกาะกงแล้ว"
"พวกนายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉินเกอ?" คำพูดนี้ทำให้รอยยิ้มของเฉินอู่หายไปอย่างสมบูรณ์ จากนั้นความโกรธฏ้พวกพุ่งขึ้นมาในดวงตาเขา เขากุมแก้วน้ำเอาไว้แน่น
บูม!
ครู่ต่อมา ถ้วยน้ำก็ระเบิดออก และเกิดเป็นเศษแก้วกระจัดกระจายอยู่บนพื้น
"ไม่รู้ว่าทำไมเฉินเกอคนนั้น ถึงได้มีพลังแข็งแกร่งอย่างมาก พวกเราและเขามีช่องว่างความแข็งแกร่งขนาดใหญ่เกินไป" เฉินต้าเอ้อตกใจจนตัวสั่นแต่ก็ยังฝืนพูดออกมา
"ไสหัวไป" เฉินอู่สูดลมหายใจเข้าลึกและพูดด้วยริมฝีปากสั่นเทา
"ข้อมือของต้าซานถูกเขาหักทั้งอย่างนั้นไปแล้ว" เฉินต้าเอ้อก้าวถอยหลัง
"ฉันบอกให้พวกนายไสหัวไป!" จู่ๆ เฉินอู่ก็ยืนขึ้น เขาชี้ไปที่ประตูและตะโกน "จากนี้ไปอย่าปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก มิฉะนั้น ฉันจะให้พวกนายไร้ที่ซุกหัวนอน!"
ทั้งคู่ไม่เห็นเฉินอู่โกรธจัดขนาดนี้และไม่กล้าอยู่ที่นี่อีก พวกเขารีบหันหลังและออกจากห้องไปทันที เพราะกลัวว่าถ้าช้าไปอีกก้าวก็อาจจะถูกลงโทษได้
"ดีนี่เฉินเกอ ในเมื่อคนของฉันไม่สามารถทำอะไรนายได้ อย่างนั้นฉันจะไปหานายเอง!" เฉินอู่สูบซิการ์และหรี่ตาก่อนจะเอ่ยขึ้น
เมื่อสิ้นเสียงลง เขาก็สวมเสื้อคลุมและเดินออกไปตรงไปยังชายฝั่งของเกาะโยวหลง
วันถัดมา
หลังจากตื่นนอน เฉินเกอก็พาทุกคนออกจากเกาะกง ตระกูลบนเกาะกงเมื่อเห็นเฉินเกอจากไปก็ล้วนแต่โล่งใจ พวกเขากลัวว่าหากเฉินเกอยังคงใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ต่อไปก็มีแต่จะทำให้พวกเขาเดือดร้อนมากขึ้น
บนดาดฟ้า เฉินเกอยืนอยู่บนนั้นและมองไปรอบๆ ทะเล
เมื่อเหลียงลู่และศิษย์ของตำหนักสวนหยางล้วนยืนอยู่ตรงหน้า เฉินเกอก็หันกลับมามองที่พวกเขาและกล่าวว่า "การค้นหาเกาะโยวหลงได้สิ้นสุดลงแล้ว เสี่ยวเฟย หลังจากหยุดที่ท่าเทียบเรือของหัวเซี่ย นายพวคุณหนูเหลียงกลับไปซะ ส่วนเหล่าสหายของตำหนักสวนหยางก็กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ เมื่อฉันพบที่ตั้งของเกาะโยวหลงเมื่อไหร่ก็จะขอความช่วยเหลือจากพวกนาย"
"เข้าใจแล้ว"
ศิษย์ของตำหนักสวนหยางทุกคนพยักหน้าพร้อมกัน พวกเขาล้วนเชื่อฟังคำสั่งของเฉินเกออย่างสมบูรณ์ เฉินเกอขอให้พวกเขากลับไป พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ
กลับเป็นไป๋เสี่ยวเฟยที่ไม่ได้ตอบรับ
"เสี่ยวเฟย นายล่ะ" เฉินเกอมองไปที่เขา
"ไม่มีปัญหา ฉันจะส่งคุณหนูเหลียงลู่กลับไป" แม้ว่าไป๋เสี่ยวเฟยต้องการติดตามเฉินเกอ แต่เขาก็รู้ว่าเขาไม่สามารถทิ้งเหลียงลู่ไว้ข้างหลังได้ เนื่องจากเขารับเธอมาจากตระกูลเหลียง ดังนั้นเขาจึงย่อมสมควรที่จะส่งเธอกลับไปอย่างปลอดภัย ไม่อย่างนั้นอาศัยอำนาจของตระกูลเหลียงในหัวเซี่ย เขาคงหมดหนทางทำมาหากินอย่างแน่นอน
"ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามนี้ กลับไปพักผ่อนเถอะ ระยะนี้ทุกคนล้วนเหนื่อยมาก สิ่งที่พวกนายทุกคนทำฉันเฉินเกอล้วนเห็นในสายตา" เฉินเกอยิ้มจาง ๆ
เรือยังคงแล่นไปทางหัวเซี่ย และในเวลานี้ เฉินอู่ก็บังเอิญมาถึงบนเกาะกงพอดี
เขาขึ้นไปบนเกาะพร้อมความโกรธ จากนั้นเฉินอู่ก็จับสมาชิกของตระกูลย่อยเอาไว้โดยตรง
เจ็ดวันต่อมา
เรือของเฉินเกอหยุดที่ท่าเรือของโวกั๋ว
ศิษย์ของตำหนักสวนหยางกลับไปแล้ว ส่วนไป๋เสี่ยวเฟยก็คุ้มครองเหลียงลู่ให้กลับไปหัวเซี่ย
เฉินเกอและซินแสกุ่ยออกจากท่าเรือและเตรียมที่จะไปหาที่อาศัยชั่วคราว เผ่าไห่ต้องเป็นตระกูลที่มีมาตั้งแต่เมื่อหลายพันปีก่อน ปัจจุบันได้บูรณาการเข้ากับชีวิตปกติของคนโวกั๋วอย่างเต็มตัวไปแล้ว พวกเขาไม่พูดถึงอัตลักษณ์ของตนซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตปกติของพวกเขา อีกทั้งยังมีเพียงน้อยคนที่รู้ถึงการดำรงอยู่ของเผ่าไห่ต้อง
หลังจากพักอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองชายฝั่งของโวกั๋ว เฉินเกอก็สั่งอาหารและทานอาหารกับซินแสกุ่ยในห้อง
"เผ่าไห่ต้องจะตั้งอยู่ที่ไหน?" เฉินเกอถามโดยตรงขณะรับประทานอาหาร
"ฉันเองก็ไม่รู้แน่ชัด ตอนนี้เผ่าไห่ต้องไม่ได้เป็นเหมือนเผ่าไห่ต้องเมื่อหลายพันปีก่อนแล้ว คิดจะหาพวกเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย จะต้องค่อยๆหาไปทีละน้อย" ซินแสกุ่ยส่ายหัวแล้วพูด
"อย่างนั้นก็ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆหาเถอะ" แม้ว่าเฉินเกอจะผิดหวังอยู่บ้าง แต่การที่จะมีเบาะแสของเผ่าไห่ต้องได้แบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว
"ยังมีอีกอย่างที่นายใส่ใจ โวกั๋วไม่ได้ดีไปกว่าเซี่ยหัวและหนานเยว่ ทำเรื่องที่นี่จะต้องระวังตัวให้ดี อย่าได้ขัดแย้งกับกองกำลังท้องถิ่น หากนายไปทำให้กองกำลังของที่นี่ขุ่นเคืองเข้า ฉันคิดว่าแม้ว่านายจะพบเผ่าไห่ต้อง แต่พวกเขาก็จะไม่ยอมรับตัวตนของพวกเขาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา" ซินแสกุ่ยทานอาหารไป เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็รีบพูดกับเฉินเกอ
"ฉันเข้าใจ เรื่องนี้ฉันก็จะระวัง" เฉินเกอยิ้มและโบกมือ เมื่อมีเรื่องจริงจังอยู่ตรงหน้า เขาก็ยังสามารถแยกแยะลำดับความสำคัญได้
"อย่างนั้นพวกเราก็ไปกินข้าวกันเถอะ ยุ่งมาตั้งนาน สมควรได้เวลาพักสักสองสามวันแล้ว" เมื่อเห็นว่าเฉินเกอรับคำ ซินแสกุ่ยก็ไม่พูดอะไรต่ออีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...