"หัวหน้าตระกูล ท่านอยากพบเขามากหรือครับ?" เฉินอู่ตกตะลึง
"ฉันแค่อยากจะฆ่าเขาเท่านั้น ฉันบอกนายหลายครั้งแล้วว่านายเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวในใจของฉัน ถ้าหากนายไม่เชื่อฉัน ก็จากไปซะตั้งแต่ตอนนี้เถอะ" เฉินเตี๋ยนชางขมวดคิ้ว การแสดงออกบนใบหน้าของเขากลายเป็นเคร่งขรึมในทันที
"ผมเชื่อ ผมเชื่อ!" เฉินอู่กลัวอยู่บ้างและออกปากรับคำอย่างรวดเร็ว
"ถ้านายเชื่อฉัน อย่างนั้นทำไมนายถึงไม่เชื่อฟังคำสั่งของฉันและแอบส่งลูกน้องสองคนของนายไปที่เกาะกงเพื่อลอบสังหารเฉินเกอ?" เฉินเตี๋ยนชางดับบุหรี่ของเขา จากนั้นก็กระแทกไม้เท้าลงที่พื้นอย่างแรง แล้วถามด้วยเสียงต่ำ
"ฉัน......" เฉินอู่ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรขึ้นมาครู่หนึ่ง
เขาคิดมาเสมอว่าแผนของตนจะเป็นไปอย่างราบรื่นไร้ร่องรอย อีกทั้งยังไม่มีทางถูกค้นพบเลยแม้แต่น้อย เขาไม่คิดเลยว่าแม้แต่คนเองจะพยายามปกปิดแล้วก็ยังถูกเฉินเตี๋ยนชางรู้เข้าอยู่ดี
"นายเกือบจะทำลายแผนของฉันแล้ว!" เฉินเตี๋ยนชางแค่นเสียงอย่างเย็นชา
"หัวหน้าตระกูล ผมผิดไปแล้ว" เฉินอู่ก้มหน้าและขอโทษ แม้ว่าเขาจะติดตามเฉินเตี๋ยนชางมาตั้งแต่เด็ก แต่ตั้งแต่ต้นจนจบเขาก็ยังเป็นแค่ลูกบุญธรรมเสมอมา ในยามปกติเขาไม่กล้าขัดคำสั่งของเฉินเตี๋ยนชางเลยสักนิด เพราะกลัวว่าจู่ๆเฉินเตี๋ยนชางจะทอดทิ้งเขา
ต้องรู้ไว้ก่อนว่า เมื่อไหร่ที่เขาสูญเสียการคุ้มครองจากเฉินเตี๋ยนชาง เขาก็จะไร้ซึ่งฐานะที่มีอยู่ใดๆบนเกาะโยวหลงไป และอาจถูกขับไล่ออกไป
"ฉันหวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าฉันพบว่านายไม่เชื่อฟังคำสั่งของฉันอีกครั้ง นายก็สามารถเก็บข้าวของและออกจากเกาะ โยวหลงไปซะ!" เฉินเตี๋ยนชางทิ้งประโยคที่เย็นชาเอาไว้และออกจากห้องไปโดยตรง
เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของเฉินเตี๋ยนชาง เฉินอู่ก็ยืนนิ่งอยู่กับที่เป็นเวลาเกือบสิบนาที
จนกระทั่งลมหนาวข้างนอกพัดเข้ามาในห้อง ถึงทำให้เขาค่อยๆ รู้สึกตัวขึ้น
เขาถอนหายใจออกมา เฉินอู่นั่งบนเก้าอี้ด้วยร่างอันไร้เรี่ยวแรง คำพูดของเฉินเตี๋ยนชางเป็นคำขาดอย่างไม่ต้องสงวัย แต่แม้ว่าเขาจะกลัว แต่เขาก็ยังตั้งใจแน่วแน่ที่จะกำจัดเฉินเกอ
แม้ว่าเมื่อครู่นี้เฉินเตี๋ยนชางจะบอกว่าเขาต้องการฆ่าเฉินเกอ แต่เฉินอู่กลับไม่เชื่อ หลังจากที่เขาฆ่าเฉินเกอด้วยตัวเองแล้ว เขาก็จะสามารถกำจัดปัญหาคุกคามทั้งหมดไปได้และนั่งได้อย่างมั่นคงในตำแหน่งของหัวหน้าตระกูล
"เฉินเกอ ไม่ว่านายจะไปที่ใด ฉันจะไปเอาชีวิตนาย!" บนเก้าอี้ เฉินอู่บีบแก้วน้ำ และกัดฟันพูดประโยคนี้ออกมา ฝ่ามือของเขากดลงอย่างแรงจนแก้วแตกออก และแตกกระจายตกลงบนพื้น
——
โวกั๋ว
หลังจากพักผ่อนมาหนึ่งคืน สภาพของเฉินเกอก็ฟื้นคืนสู่จุดสูงสุด
หลังทานอาหารเช้า ทั้งสามคนก็นั่งอยู่ในห้อง
"ฉันไปสืบมาเมื่อคืนนี้และไม่ได้รับข่าวใดๆเกี่ยวกับเผ่าไห่ต้อง เดาได้ว่าตระกูลนี้ได้ซ่อนตัวเอาไว้อย่างสมบูรณ์ในสังคมของโวกั๋วไปแล้ว และจะไม่ถูกบุคคลภายนอกค้นพบ" ซินแสกุ่ยเอ่ยขึ้นก่อน
"ฉันเดาเอาไว้อยู่แล้วว่าการหาเผ่าไห่ต้องคงเป็นไปไม่ได้ที่จะพบในหนึ่งหรือสองวัน มีแต่ต้องมองหาโอกาสอย่างช้าๆ เท่านั้น หากพยายามไล่ตามจนเจอ ต่อให้ค้นพบ ก็จะทำให้พวกเขาตกใจจนหนีไปเช่นกัน" เฉินเกอไม่ได้ผิดหวัง เขาพยักหน้าและพูด
"พวกนายกำลังพูดเรื่องอะไร?" ดวงตาดำขลับของไป๋เสี่ยวเฟยแสดงออกถึงความไม่เข้าใจเลยสักนิด
หลังจากคืนห้องพักในโรงแรมแล้ว พวกเฉินเกอทั้งสามก็ขึ้นรถบัสและรีบไปที่สถานที่แข่งขัน
การแข่งขันไม่ได้จัดขึ้นที่กองบัญชาการทหารของโวกั๋ว แต่จัดขึ้นในสนามฝึก ซึ่งในนั้นมีห้องไม้อัดจำนวนมากถูกสร้างขึ้นชั่วคราวเพื่อให้กองกำลังพิเศษได้อยู่อาศัย ทันทีที่พวกเขามาถึง พวกเขาก็เห็นทันทีว่ามีคนจำนวนมากอยู่ที่นี่แล้ว แม้ว่าจะเป็นเวลาเกือบครึ่งเดือนก่อนการแข่งขัน แต่กองกำลังพิเศษส่วนใหญ่จะมาถึงล่วงหน้าเพื่อฝึกฝนและปรับตัว เพื่อให้ได้ตำแหน่งที่ดีในการแข่งขันและเป็นหน้าเป็นตากับประเทศของตน
"เป็นที่นี่แหละ พวกคุณเป็นกองกำลังพิเศษของหัวเซี่ย สามารถอยู่ที่นี่ได้ชั่วคราว" หลังจากลงจากรถ ผู้รับผิดชอบก็ชี้ไปที่บ้านหลังถัดไป เขาหยิบกุญแจออกจากกระเป๋าของเขาแล้วมอบให้ไป๋เสี่ยวเฟย
เมื่อรับกุญแจมาและดูสถานการณ์ที่นี่ ไป๋เสี่ยวเฟยก็ตกตะลึง
ถ้าหากไม่บอกว่านี่คือสถานที่ฝึกทหารของโวกั๋ว เขาคงคิดว่าที่นี่คือสถานที่ก่อสร้างไปอย่างแน่นอน อีกทั้งบ้านชั่วคราวเหล่านี้ก็มองแล้วดูตามมีตามเกิดอย่างยิ่ง ราวกับว่าเมื่อมีลมพัดมาก็คงพลิกปลิวไป
"พี่เฉิน ถ้ารู้อย่างนี้พวกเราอยู่ที่ในโรงแรมโดยตรงน่าจะดีกว่า" เมื่อผู้รับผิดชอบจากไป ไป๋เสี่ยวเฟยก็มอบกุญแจให้เฉินเกอและพูดอย่างไม่เต็มใจ
"ในเมื่อมาแล้วก็ทำใจให้สบายเถอะ แต่เวลาเพียงครึ่งเดือน พวกเราอยู่ที่นี่ก็ได้" เฉินเกอเดินเข้าไปเปิดประตูและพาพวกเขาเข้าไป
ถึงจะบอกว่าเป็นบ้านชั่วคราว แต่อันที่จริงพื้นที่ภายในกลับไม่เล็กเลย ในนั้นมีห้องนั่งเล่นและห้องนอนสามห้อง อีกทั้งยังมีห้องสุขาและร้านอาหาร หลังจากวางสัมภาระลง เฉินเกอก็ยืนอยู่หน้าหน้าต่างและมองดูสถานการณ์ภายนอก
"เฉินเกอนายหิวไหม ฉันจะไปสั่งอาหารกับพวกเขา" เมื่อมองดูเวลาใกล้เที่ยง ไป๋เสี่ยวเฟยก็เดินไปหาเฉินเกอและถาม
"ไปเถอะ" เฉินเกอยิ้ม
หลังจากไป๋เสี่ยวเฟยออกไป เฉินเกอก็หยิบแผนที่ภาพไห่ซินออกมาจากกระเป๋าของเขาออกมา บนแผนที่ ตำแหน่งของเกาะโยวหลงหายไป และเกาะที่เผ่าไห่ต้องเคยสังเวยก็หายไปเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...