"ให้เขานอนสักครู่เถอะ" เฉินเกอปัดมือ
"ครับ งั้นผมรออยู่ด้านนอกนะครับ ต้องการอะไรเรียกผมได้เลยครับ" มีคำพูดนี้ของเฉินเกอ เลขาถึงวางใจได้ แม้ว่าจะไปรบกวนทำให้เสียเรื่องแต่ยังไงความผิดก็ไม่ได้มาลงอยู่ที่เขา
หลังจากรอให้เลขาออกไป ทากูยะก็รีบถามเฉินเกอขึ้นทันที "พ่อหนุ่ม นายกับจางจ้านต้งประธานบริษัทหย่วนตงกรุ๊ปรู้จักกันเหรอ?"
"รู้จัก ครั้งนี้ให้เขาช่วยพวกเรา" เฉินเกอพยักหน้า
"งั้นทำไมยังเรียกฉันมาที่นี่ล่ะ หรือมีอะไรที่ต้องการให้ฉันช่วยงั้นเหรอ?" ทากูยะไม่ได้คิดไปในทางนั้นเลยสักนิด
"ไม่ได้ต้องการให้นายช่วย แต่แค่เรียกหานายเพื่อเซ็นสัญญา ฉันกับจางจ้านต้งคุยกันเรียบร้อยแล้ว ให้เขาเซ็นสัญญากับตระกูลของพวกนายสักกี่ฉบับ แบบนี้ตระกูลฟุตาบะก็สามารถฟื้นฟูขึ้นมาได้ในระยะเวลาอันสั้น แล้วก็จางจ้านต้งยังจะให้การต้อนรับพวกนายอย่างดีที่สุดด้วย" เฉินเกอยิ้ม พลางอธิบาย
"อะไรนะ?" ทากูยะดีดตัวลุกขึ้นยืนจากโซฟา
"เจ้าบ้านทากูยะ นายอย่าเพิ่งตื่นเต้นไป" เฉินเกอดึงเขาให้นั่งลง แล้วพูด "แต่ก่อนเขาเคยติดหนี้บุญคุณฉัน ดังนั้นให้เขาช่วย เป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ อีกแป๊บรอให้เขาตื่นก่อน ค่อยให้นายดูสัญญา ถ้าหากไม่มีปัญหา วันนี้ก็เซ็นสัญญาได้เลย"
"นี่......นี่มันช็อกเกินไปแล้วจริงๆ" ทากูยะสะบัดหน้า รู้สึกเหมือนกำลังฝันอยู่อย่างนั้นแหละ เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ร่วมมือเซ็นสัญญากับบริษัทหย่วนตงกรุ๊ป
แต่ขอแค่ได้ร่วมมือกัน แบบนั้นสถานการณ์ในตระกูลของพวกเขาตอนนี้ก็ไม่เท่าไหร่ สามสี่เดือนก็สามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้ แถมยังสามารถรุ่งเรืองกว่าเดิมได้ด้วย
"เรื่องง่ายๆเรื่องเดียว" เฉินเกอจุดบุหรี่ พลางพูด
"ฉันไม่รู้จริงๆว่าควรจะขอบคุณนายยังไงดี นายเทียบได้ว่าเป็นดวงดาวผู้ช่วยชีวิตพวกเราทั้งตระกูลเลยนะ!" ทากูยะกำมือเฉินเกอไว้แน่น แม้แต่เสียงพูดของเขายังสะอื้นเล็กน้อย
ต้องรู้ว่า เขาได้เตรียมตัวรับมือกับการที่ทั้งตระกูลจะตกต่ำลง ขอแค่ให้ทาตายุนั้นอยู่อย่างปลอดภัย เรื่องอื่นจะเป็นยังไงก็ได้ แต่ตอนนี้การปรากฏตัวของเฉินเกอ ทำให้หัวใจที่ยอมแพ้แล้วของเขาฟื้นคืนชีพขึ้นอีกครั้ง
"คำพูดพวกนั้นหลังจากนี้ค่อยว่ากันเถอะ" เฉินเกอไม่อยากพูดอะไรพวกนี้ เดิมทีที่เขามาก็เพื่อเกาะโยวหลง พูดไม่ได้ว่าเป็นดวงดาวผู้ช่วยชีวิต ก็แค่ต่างคนต่างได้ในสิ่งที่ต้องการไป
"อื้ม" ทากูยะพยักหน้าอย่างแรง
รอไปรอมา ก็รอมาสองชั่วโมงแล้ว แม้แต่ท้องฟ้าก็มืดแล้ว
จากเสียงไอจากด้านใน เสียงแหบๆของจางจ้านต้งก็ดังลอดออกมา เขากุมหัวตัวเองเดินออกมาจากข้างใน ดื่มเหล้าขาวไปเกือบขวดนึง หลังจากเขาตื่นจึงได้มีอาการมึนไปทั้งหัว
"ฉันหลับไปนานขนาดไหน?" เมื่อออกมา แล้วเห็นพวกเฉินเกอนั่งอยู่ด้านนอก เขาก็ได้สติกลับมาทันที และรีบตบไปที่หน้าผากตัวเองหลายที พลางถาม
"หกชั่วโมงแล้ว" ไป๋เสี่ยวเฟยมองนาฬิกาข้อมือ พลางพูด
"ทำให้เสียเรื่องแล้วจริงๆ ฉันไม่ได้ดื่มเหล้ามานานมากแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะเมาแบบนี้ พวกนายก็ไม่ยอมปลุกฉัน แบบนี้ทำให้เสียเวลาไม่ใช่เหรอ!" จางจ้านต้งสร่างเมาทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ที่ให้เฉินเกอรออยู่ที่นี่เฉยๆ ในใจเขารู้สึกไม่ดีเอามากๆ
"ไม่เป็นอะไร ก็รอเจ้าบ้านทากูยะพอดี" เฉินเกอพูดพลางปัดมือ
"เจ้าบ้านทากูยะ สวัสดีครับ ฉันคือประธานบริษัทหย่วนตงกรุ๊ปจางจ้านต้งครับ ถ้าฉันจำไม่ผิด เหมือนว่าหลายปีก่อนพวกเราเคยร่วมมือกันนะ?"
"เสี่ยวหลิว เข้ามานี่หน่อย" จางจ้านต้งเรียกเสียงดัง
"ท่านประธาน ท่านเรียกผมเหรอครับ" เลขาคนเมื่อครู่ผลักประตูเข้ามา
"เจ้าบ้านทากูยะ นี่คือเลขาที่ฉันพามาจากหัวเซี่ย ความสามารถด้านธุรกิจแข็งแกร่งมากๆ ให้เขาพานายไปเรียนรู้ขั้นตอนสักนิด มีข้อสงสัยนายถามได้เลย ถ้าเขาตอบไม่ได้ นายก็โทรหาฉัน!" จางจ้านต้งพูดกับทากูยะ
"ขอบคุณนะ" ทากูยะพยักหน้าขอบคุณ
"งั้นพวกเราออกไปหาอะไรกินกันเถอะ ให้พ่อหนุ่มเฉินเกอกับพ่อหนุ่มนี้รอมาตลอดทั้งบ่าย ฉันรู้สึกว่าต้องแสดงการขอโทษหน่อยถึงจะโอเค" จางจ้านต้งดูเวลา ก็เป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว สีท้องฟ้าด้านนอกหน้าต่างมืดไปหมดแล้ว
"ฉันเลี้ยงเอง ฉันเลี้ยงเอง!" ไม่รอให้เฉินเกอพูด ทากูยะก็รีบแย่งพูดขึ้น
เดินลงมาจากห้องทำงานด้วยกัน ก็เห็นได้ว่าสีหน้าของทากูยะดูผ่อนคลายลงไม่น้อย บนใบหน้าของเขามีรอยยิ้มที่ควบคุมไม่ได้ ได้สัญญาสองฉบับนี้มาไว้ในมือ ปัญหาของตระกูลก็แก้ไขได้หมดแล้ว
ในใจเขาก็ตัดสินใจเช่นกัน วันนี้หลังจากกลับไป เขาก็จะกำจัดแมลงที่มีอยู่ในตระกูลออกไปให้เกลี้ยง ไม่มีทางให้พวกนั้นมีโอกาสพลิกตัวอยู่ในตระกูล และทำให้คนพวกนั้นสลายไป
คนกลุ่มนึงมาถึงร้านอาหารหรูหราที่อยู่ข้างตึกสูง จางจ้านต้งมีห้องส่วนตัวอยู่ที่นี่ เมื่อเข้ามา บริกรกับผู้จัดการทั้งหมดก็ออกมาต้อนรับ ทั้งสี่คนขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบน จนถึงชั้นสูงสุด
"พ่อหนุ่มเฉินเกอ นายช่วยฉันแบบนี้ ฉันไม่รู้จริงๆว่าควรพูดว่าอะไรดี" ทากูยะจับกระเป๋าเอกสารในมืออย่างแน่น พลางพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...