จามาลเปิดประตูเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นเต้น “มีนะเธอจำได้ทุกอย่างแล้วใช่ไหม”
“จำอะไรได้คะ น้องงงไปหมดแล้ว น้องจำได้แต่เพียงว่าถูกไอ้สารเลวนั่นจับไปขังไว้ที่ห้องใต้ดินและให้เพื่อนของมาเข้ามาขืนใจน้อง” น้ำตาของหญิงสาวไหลลงมาอีกครั้ง จามาลเข้าไปกอดน้องสาวอย่างปลอบโยน
“พี่คะหนูขอโทษที่ไม่เชื่อพี่ตั้งแต่แรกไม่งั้นหนูคงไม่เป็นแบบนี้” หญิงสาวปล่อยโฮออกมาซุกหน้ากับอกของพี่ชาย ซาฮาก็พลอยร้องตามหลานสาวไปด้วยอีกคน
“อย่าไปร้องไห้เสียใจเพราะสัตว์นรกแบบนั้นเลย ตอนนี้มันคงลงไปชดใช้กรรมในนรกแล้ว” หญิงสาวเงยหน้ามองพี่ชาย
“มันเกิดอะไรขึ้นคะ”
“ตอนที่พี่ไปพบเธอๆก็ร้องไห้อย่างคนเสียสติ พี่จึงพาเธอกลับมาบ้านไอ้สารเลวนั่นกลัวความผิดจึงชิงหนีไปแต่ก็ไม่รอดรถพลิกคว่ำตรงทางโค้งลงข้างทางและระเบิด”
“มันยังน้อยไปที่มันทำกับหนู” หญิงสาวเช็ดน้ำตาพูดด้วยเสียงที่เคียดแค้น
“อโหสิกรรมให้เขาเถอะลูกชาติหน้าจะได้ไม่มีเวรต่อกัน” ซาฮาบอกหลานสาว
“ค่ะป้าหนูอโหสิกรรมให้” ซาฮากอดหลานสาวเอาไว้
“หมดทุกข์หมดโศกกันสักทีนะ”
“ค่ะ” ยามีนะยิ้ม ในที่สุดเธอก็หลุดพ้นมาจากขุมนรกแห่งนั้นได้
“กลับบ้านไปพี่จะจัดงานรับขวัญเธอ พี่โทรบอกกับพ่อแล้วพรุ่งนี้ท่านคงเดินทางมาถึงครอบครัวเราจะได้อยู่กันพร้อมหน้าซะที” ชายหนุ่มบอก ยามีนะหันไปมองรอบจนพี่ชายต้องเอ่ยถาม
“มองหาใครกรือ”
“ก็พี่อินไงคะ เธอไปไหนคะ” หญิงสาวถาม
“เธอจำเขาได้ด้วยหรือ” ซาฮาถาม ชายหนุ่มหน้าบึ้งขึ้นมาทันที
“จำได้ซิคะ แปลกดีไหมคะ” หญิงสาวหัวเราะเสียงสดใส
“เมื่อกี้พี่เจอกับหมดเขาบอกว่าพรุ่งนี้เราก็กลับบ้านได้แล้ว ดีใจไหม”
“ดีใจค่ะ” หญิงสาวดีใจจนลืมเรื่องของมณีอินไปเลย
“พรุ่งนี้พี่จะมารับตอนเย็น” ชายหนุ่มบอก
“ค่ะ พี่จะกลับไปทำงานอีกหรือเปล่าคะ”
“ไม่แล้วล่ะ มีข่าวดีแบบนี้ทั้งที่จะให้พี่กลับไปทำงานต่อได้ไง” ชายหนุ่มขยี้ผมน้องสาวอย่างเอ็นดู
“หนูคงเข็ดแล้วล่ะคะเรื่องความรัก” หญิงสาวบอกนัยน์ตาเศร้า
“อย่าเพิ่งคิดแบบนั้นซิจ้ะ คนที่ดียังมีอีกมากลองมองดูคนข้างตัวบ้างนะ บางทีน้องจะเห็นว่าเส้นผมมันบังภูเขามิดจริงๆ” ชายหนุ่มบอกและหันไปมองกาซิมคนสนิทของตนเอง ชายหนุ่มรู้มาโดยตลอดว่ากาซิมแอบรักน้องสาวของเขามาตั้งแต่มาอยู่กับเขาแล้ว แต่น้องสาวของเขาไม่เคยมองเห็นเลย ถ้าครั้งนั้นยามีนะเลือกกาซิมน้องสาวของเขาคงต้องมีความสุขที่สุด เขารู้นิสัยของกาซิมดีว่าเป็นอย่างไร
“ขอหนูรักษาใจตนเองก่อนนะคะแล้วจะบอกว่าเมื่อไรจะเปิดรับความรักอีกครั้ง” หญิงสาวบอกยิ้มๆ
นาธาลกระแซะสีข้างของเพื่อนรักอย่างรู้ทัน
“หุบยิ้มบ้างก็ได้นะเพื่อน ออกนอกหน้าไปนิด”
“อย่ามาแซวกันเองดีกว่า”
นาธาลหัวเราะเบาๆ เขายังจำได้ว่าเพื่อนของเขาเหมือนกับคนบ้าเมื่อเห็นสภาพนายหญิงยามีนะครั้งแรก เขาต้องใช้กำลังทั้งหมดดึงตัวเพื่อนรักเอาไว้เพราะไม่ต้องการให้เพื่อนรักกลายเป็นฆาตกรฆ่าคนตาย
มณีอินนั่งแหงนมองดวงดาวบนท้องฟ้าอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าบ้าน หญิงสาวคิดถึงบ้านและคิดถึงแม่ พี่สาวและเพื่อนๆที่ทำงาน ตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่จะครบครึ่งเดือนแล้ว เธอโทรกลับไปหาแม่เพียง 4 ครั้งเองเพราะเกรงใจเจ้าของบ้าน เสียงรถแล่นเข้ามาจอดหญิงสาวหันไปมองโดยอัตโนมัติ ร่างสูงก้าวลงมาจากรถพร้อมกับผู้เป็นป้า เขาหันมามองทางเธอแว่บหนึ่งก่อนจะหันกลับไป มณีอินอยากรู้เรื่องของสาวน้อยยามีนะใจจะขาดแต่ก็ไม่กล้าที่จะถามชายหนุ่มตรงๆ จึงเลี่ยงเดินไปทางท้ายบ้านเพื่อไปดักรอนาธาลและกาซิม พอชายหนุ่มทั้งสองเดินมาถึงห้องพักก็ต้องชะงักเท้าเมื่อเห็นหญิงสาวนั่งรออยู่หน้าห้องและส่งยิ้มมาทางทั้งสอง
“ขอบคุณมากนะครับ ผมว่าน้ำค้างเริ่มลงแล้วคุณอินกลับขึ้นตึกเถอะครับเดี๋ยวผมก็จะต้องรีบไปเหมือนกัน”
หญิงสาวมองเขาอย่างสงสัย
“ไปไหนหรือ”
“นายจะไปนอนค้างที่โรงพยาบาลครับ และพรุ่งนี้ก็จะจัดงานเลี้ยงเล็กๆที่บ้านเพื่อรับขวัญคุณหนูยามีนะครับ คุณอินเตรียมหาเสื้อผ้าสวยๆเอาไว้ใส่นะครับ ผมไปล่ะ” ชายหนุ่มบอกก่อนจะเดินเข้าห้องของตนเอง
หญิงสาวเดินคิดอะไรต่อมิอะไรเรื่อยเปื่อยจนไม่ได้มองคนที่ยืนอยู่ตรงทางโค้งมุมตึก “อุ๊ย!” หญิงสาวอุทานด้วยความตกใจและเซถอยหลังไปสองก้าว เธอเงยหน้าขึ้นมองตัวต้นเหตุ
“คุณมายืนทำอะไรเงียบๆตกใจหมดเลย” หญิงสาวแหวใส่เขา
“คุณเองต่างหากที่ไม่รู้จักมองข้างหน้ามัวคิดถึงใครมิทราบ”
“มันเรื่องของฉันอีกนั้นแหล่ะ” หญิงสาวเดินเลี่ยงเขาไป แต่ชายหนุ่มดึงแขนเธอเอาไว้จนเซมาปะทะหน้าอกของชายหนุ่ม หญิงสาวได้กลิ่นโคโลญอ่อนๆจากกายของเขา จิตใจของเธอก็เต้นอย่างโลดแล่นแทบทะลุออกมาจากอก
หน้าของเขากับของเธอห่างกันเพียงแค่ 5 เซนติเมตรน่าจะได้เพราะรับรู้ถึงลมหายใจของกันและกันได้อย่างชัดเจน
หญิงสาวกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่ความรู้สึกบางอย่างออกไปและยันแขนผลักอกชายหนุ่มออกห่าง
“ปล่อยฉันได้แล้วค่ะ”
“ผมก็ไม่อยากถูกตัวคุณนักหรอก” ชายหนุ่มละแขนออกและถอยออกมายืนมองหญิงสาวนิ่ง
“ผมแค่จะมาบอกว่าพรุ่งนี้ที่บ้านจะมีงานเลี้ยงเล็กๆสำหรับในเครือญาติ หวังว่าคุณ....” ชายหนุ่มหยุด และหญิงสาวก็เดาได้ว่าชายหนุ่มจะพูดว่ายังไง
“คุณไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ พรุ่งนี้คุณจะไม่เห็นหน้าฉันแน่นอน” หญิงสาวบอกและเดินหนีออกมาอย่างเร็วก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา ความน้อยใจแล่นเข้ามาแทนที่ความดีใจที่คิดว่าเขาจะเอ่ยชวนแต่ก็เปล่าเลย เธอเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าตกหลุมรักผู้ชายปากร้าย ใจร้ายคนนี้เข้าให้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะเลทรายสีน้ำผึ้ง